น้ำท่วมหนนี้ ร้ายแรงที่สุดเท่าที่ผู้สูงอายุวัยเจ็ดสิบแปดสิบปีเคยเห็นมา เมื่อครั้งพ.ศ.2485 มีภาพเก่าน้ำท่วมหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมก็ว่าหนักแล้ว คนเฒ่าคนแก่บอกว่า ครั้งนี้หนักกว่า
สำหรับผม น้ำท่วมปี 2554นี้ หนักที่สุด เมื่อครั้ง น้ำท่วมในปี พ.ศ. 2538 ผมยังเด็กกว่านี้มาก พูดง่ายๆก็คือไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น
เมื่อปี พ.ศ. 2538 ระดับน้ำสูงสุดประมาณ 2.27 เมตร และน้ำท่วมสูงสุด ประมาณ 30 ซ.ม. กินเวลาท่วมเฉลี่ยประมาณ 12 ช.ม.
แต่พอมาน้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 ระดับน้ำสูงสุดปลายเดือนตุลาคม สูงกว่าสถิติปี 2538 หลายพื้นที่น้ำท่วมสูงเป็นเมตร บางพื้นที่น้ำท่วมสูงสองถึงสามเมตร จึงเห็นภาพชาวบ้านหลายเขตลอยคอ น้ำยังไหลเชี่ยวแรงจนเดินหรือว่ายทานกระแสน้ำไม่ไหว หลายพื้นที่น้ำท่วมขังมานานหลายเดือนแล้ว
ตอนเริ่มท่วม น้ำมาเร็วมาก จนชาวบ้านเก็บของลอยคอหนีน้ำออกมาไม่ทัน ตอนจะลดค่อยๆลดช้ามาก หนักหนาย่ำแย่กว่านั้น น้ำที่ท่วมขังหลายๆวัน ก็เริ่มเน่าเหม็นดำคล้ำ ซ้ำเติมด้วยขยะลอยเป็นแพส่งกลิ่นเน่าเหม็นฟุ้ง
บรรดาสัตว์มีพิษก็ออกมาอาละวาด ปลิงตัวเป้งๆ ตะขาบ งูสัตว์มีพิษ ชุกชุม จระเข้ที่หลุดจากฟาร์มยังเพ่นพ่านอย่างน่ากลัว มีข่าวชาวบ้านถูกจระเข้ทำร้ายเข้าให้แล้ว ประเทศไทยยามนี้ทุกข์ยากสาหัสจริงๆ
ภายใต้สถานการณ์ที่แย่ลงของกรุงเทพมหานคร จังหวัดรอบๆกรุงเทพฯน้ำท่วมมาหลายเดือนแล้ว ก็เริ่มจะมีข่าว ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้วบางที่ แต่หมายความว่ากำลังไหลเข้าท่วมกรุงเทพฯและที่ลุ่มต่ำกว่าหนักย่างขึ้น
นั่งเฝ้าดูข่าวอยู่เกือบทั้งวันก็เครียดอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ก็ได้เห็นภาพน่าประทับใจหลายอย่าง ได้ฟังเรื่องเล่าที่น่าประทับใจมากมายจากคนรอบข้าง ทั้งคนที่ลงพื้นที่ไปช่วยผู้ประสบภัย และรอยยิ้มของผู้ที่ได้รับถุงยังชีพ หรือได้รับความช่วยเหลือ
เหรียญมีสองด้านเสมอ ทั้งๆที่ต้องเจอกับน้ำท่วม ความเครียด ความกดดันต่างๆ ในความทุกข์ก็อาจมีความสุข ในความเศร้าอาจมีความน่ารักให้ได้อมยิ้มกันก็ได้นะครับ
ยังไงก็ต้องเห็นอกเห็นใจกันนะครับ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูง และไม่ยอมย้ายออก ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้รักบ้านของพวกเขามาก บางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างบ้านหลังนี้ เพื่อให้ครอบครัวของเขาหรือเธอมีความสุข บ้านหลังนี้อาจมีความทรงจำดีๆมากมาย จนทำให้เจ้าของบ้านไม่สามารถตัดใจทิ้งบ้านไปได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่เราอาจจะต้องทำความเข้าใจและอย่าไปบ่นหรือว่าคนเหล่านี้มากนักเลยครับ
ที่สำคัญเพราะกลไกการทำงานของภาครัฐ ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของชาวบ้านได้ ข่าวโจรผู้ร้ายเที่ยวปล้นขโมยชุกชุม ไม่มีหลักประกันความปลอดภัยใดๆให้ชาวบ้านวางใจได้เลย
การเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหลายๆพื้นที่ชักช้า ไม่ทั่วถึง ศปภ.ของรัฐบาลมัวโง่งมโข่ง คนเดือดร้อนมีจำนวนมากเหลือเกิน บางหน่วยงานอย่างพี่ๆทหาร และอาสาสมัครเสียสละทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ก็ยังไม่สามารถ ช่วยเหลือได้ทั้งหมด
ผู้ที่เดือดร้อนที่ประสบภัยบางกลุ่มบางคนก็อย่าคิดเห็นแก่ตัว บางครั้งของบริจาคอาจจะมาช้า หรือมาไม่ถึง ก็ต้องแบ่งปันกัน แต่ผมเชื่อว่าฝ่ายที่เอาของเข้ามาแจกทำอย่างเต็มที่แล้ว
ดังนั้น สำหรับบางคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และถูกประกาศจัดเป็นพื้นที่อพยพ น้ำเริ่มจะท่วมแน่ๆ ผมว่าก็ควรจะรีบ อพยพออกมาก่อนโดยเฉพาะคนแก่ คนเจ็บป่วย มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก และหญิงมีครรภ์
การที่เราออกจากพื้นที่มาได้ก็เป็นการช่วยส่วนรวมทางหนึ่ง ด้วยการไม่ไปเป็นภาระให้ใครต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือต้องมาขนย้ายออกจากบ้าน
สำหรับคนที่อพยพออกไปอยู่ต่างจังหวัด ผมว่าคิดถูกแล้ว เพราะได้หลุดพ้นถอยห่างออกไปจากความเครียดลำบากในการเดินทาง การขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม น้ำประปามีกลิ่น บางคนแพ้เนื้อตัวเป็นผดผื่นคัน และยังมีโรคที่มากับน้ำท่วม กำลังจ่อคิวอยู่อีกหลายโรค
บางพื้นที่น้ำท่วมเร็วมาก มีคนตกค้างอยู่ในพื้นที่นั้นจำนวนมาก ถ้าทุกคนตัดสินใจออกจากพื้นที่เสียก่อน ก็จะช่วยลดปัญหา ลดความเหนื่อยยากของทีมที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้มากทีเดียว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้เห็นจากน้ำท่วมหนนี้ คือพี่ๆทหาร ที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนผมคิดว่าน่าเอา เงินเดือนของท่านนักการเมืองทั้งหลายมาให้พี่ๆทหารจะดีกว่าไหม
คนกลุ่มหนึ่งทำงานเพื่อช่วยชาวบ้าน ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งอย่างนักการเมืองน้ำเน่า กลับเอาแต่คอยฉวยโอกาสหาประโยชน์ ทำได้กระทั่งคดโกงสิ่งของเงินทองจากการบริจาคของประชาชน ไปช่วยผู้กำลังทุกข์ยากเดือดร้อน ช่างไม่กลัวบาปกรรม
ยิ่งงบประมาณจำนวนมหาศาลเงินภาษีที่รีดจากประชาชน ยิ่งถูกคนเลวพวกนี้ยักยอกเอาไปสารพัดรูปแบบวิธีการ ในนามของโครงการใหญ่ระดับเมกกะโปรเจ็คทั้งหลาย
นักการเมืองเลวๆพวกนี้ กินเงินเดือนภาษีชาวบ้าน เดือนละเป็นแสน ทำงานในห้องแอร์ นั่งยกมือเป็นฝักถั่วในสภา ช่างเลี้ยงไว้เสียข้าวสุกจริงๆ
น้ำเน่าเหม็นยังแก้ได้ ด้วยอีเอ็ม.บอล แต่นักการเมืองน้ำเน่านี่ เอาอะไรใส่ให้มันหายเน่าดีล่ะครับพี่น้อง
เราได้เห็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง อาสาสมัครและพี่ๆทหารที่จิตใจดีงาม ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ทั้งที่ภาคใต้ แล้วยังต้องมา คอยช่วยชาวบ้านตอนน้ำท่วม เงินเดือนเบี้ยเลี้ยงคนเหล่านี้กลับได้ไม่กี่พันบาทเอง
ลองคิดดูนะครับว่าถ้านักการเมืองทำงานได้สักครึ่งหนึ่งของที่ พี่ๆทหารทำ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย กลุ่มหนึ่งเป็นรั้วของชาติ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นรอยรั่วจุดอ่อนของประเทศไทย คิดแล้วก็อยากให้พวกรูรั่วพวกนี้ถูกอุดอัดให้จมมิดลงดินไปเลย
นอกจากเรื่องน้ำใจและการบริหารจัดการแก้ปัญหาแบบไปคนละทิศละทางของแต่ละหน่วยงานรัฐ เรายังเห็นคนที่เห็นแก่ตัว อ้างตัวเป็นผู้ประสบภัย ออกไปเที่ยวปล้นร้านค้า ปล้นธนาคาร เพื่อหาเงินและหาของกิน ดูไปดูมาก็เริ่มเหมือนในหนัง 2012 เข้าไปทุกที
การดูข่าวน้ำท่วมมากๆอาจจะทำให้พวกเราหดหู่ และเซ็ง แต่บางทีเราอาจจะต้องมองในมุมใหม่ที่แตกต่างออกไป เผื่อจะเครียดน้อยลง เช่น เห็นไหมว่ารัฐบาลชุดนี้แก้ปัญหารถติดได้ และยังทำให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น ฯลฯ
แถมนี่ก็ใกล้ลอยกระทงแล้ว ปีนี้กรุงเทพมหานครได้จัดให้ประชาชนเกือบทั้งกรุงเทพ สามารถลอยกระทงได้จากหน้าบ้านของตนเอง หรือจากหน้าปากซอย เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปลอยกระทงในที่อื่นๆ การบริการดังกล่าวกทม.ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆกับประชาชน แต่ผมขอเตือนว่ากรุณาเช็คทางน้ำไหลดีๆนะครับ ประ เดี๋ยวเทียนในกระทงจะไปทำไฟไหม้เพื่อนบ้านเข้า เดี๋ยวจะงานเข้ากันนะครับ
อยู่กับน้ำท่วมอย่างมีสตินะครับทุกคน คอยตามข่าวสารดีๆ เพื่อตัวเราเอง และหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นไวๆ ไม่อย่างงั้นกรุงเทพฯ คงจะเป็นเมืองแห่งน้ำ แข่งกับเวนีสในอิตาลี แต่ถ้าเป็นจริงๆรับรองเรือหางยาวบ้านเรา ชนะเรือกอนโดล่าแน่ๆ
ถ้าคิดบวก มีอารมณ์ขันอย่างนี้ได้ก็คงดีนะครับ ผมเกรงแต่ว่าชาวบ้านที่น้ำท่วมขังนานๆ จนน้ำในบ้านรอบบ้านดำเหม็นเน่า คราวนี้ คนไทยคงถึงบางอ้อว่า น้ำเน่าน่ะเหม็น น่ารังเกียจเพียงไร แต่ความเหม็นของนักการเมืองน้ำเน่าในบ้านเรานั้น น่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าน้ำเน่าที่ท่วมขังนานๆเสียอีกครับ
เห็นน้ำท่วมมามากมายอย่างปีนี้ ผมอยากให้ประชาชนมีพลังดุจมวลน้ำมหาศาล จะได้กวาดล้างนักการเมืองน้ำเน่า ให้มันไหลลงทะเลไปให้หมด บ้านเมืองจะได้สะอาดขึ้นซะที ดีไหมครับ
สำหรับผม น้ำท่วมปี 2554นี้ หนักที่สุด เมื่อครั้ง น้ำท่วมในปี พ.ศ. 2538 ผมยังเด็กกว่านี้มาก พูดง่ายๆก็คือไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น
เมื่อปี พ.ศ. 2538 ระดับน้ำสูงสุดประมาณ 2.27 เมตร และน้ำท่วมสูงสุด ประมาณ 30 ซ.ม. กินเวลาท่วมเฉลี่ยประมาณ 12 ช.ม.
แต่พอมาน้ำท่วมปี พ.ศ. 2554 ระดับน้ำสูงสุดปลายเดือนตุลาคม สูงกว่าสถิติปี 2538 หลายพื้นที่น้ำท่วมสูงเป็นเมตร บางพื้นที่น้ำท่วมสูงสองถึงสามเมตร จึงเห็นภาพชาวบ้านหลายเขตลอยคอ น้ำยังไหลเชี่ยวแรงจนเดินหรือว่ายทานกระแสน้ำไม่ไหว หลายพื้นที่น้ำท่วมขังมานานหลายเดือนแล้ว
ตอนเริ่มท่วม น้ำมาเร็วมาก จนชาวบ้านเก็บของลอยคอหนีน้ำออกมาไม่ทัน ตอนจะลดค่อยๆลดช้ามาก หนักหนาย่ำแย่กว่านั้น น้ำที่ท่วมขังหลายๆวัน ก็เริ่มเน่าเหม็นดำคล้ำ ซ้ำเติมด้วยขยะลอยเป็นแพส่งกลิ่นเน่าเหม็นฟุ้ง
บรรดาสัตว์มีพิษก็ออกมาอาละวาด ปลิงตัวเป้งๆ ตะขาบ งูสัตว์มีพิษ ชุกชุม จระเข้ที่หลุดจากฟาร์มยังเพ่นพ่านอย่างน่ากลัว มีข่าวชาวบ้านถูกจระเข้ทำร้ายเข้าให้แล้ว ประเทศไทยยามนี้ทุกข์ยากสาหัสจริงๆ
ภายใต้สถานการณ์ที่แย่ลงของกรุงเทพมหานคร จังหวัดรอบๆกรุงเทพฯน้ำท่วมมาหลายเดือนแล้ว ก็เริ่มจะมีข่าว ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้วบางที่ แต่หมายความว่ากำลังไหลเข้าท่วมกรุงเทพฯและที่ลุ่มต่ำกว่าหนักย่างขึ้น
นั่งเฝ้าดูข่าวอยู่เกือบทั้งวันก็เครียดอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ก็ได้เห็นภาพน่าประทับใจหลายอย่าง ได้ฟังเรื่องเล่าที่น่าประทับใจมากมายจากคนรอบข้าง ทั้งคนที่ลงพื้นที่ไปช่วยผู้ประสบภัย และรอยยิ้มของผู้ที่ได้รับถุงยังชีพ หรือได้รับความช่วยเหลือ
เหรียญมีสองด้านเสมอ ทั้งๆที่ต้องเจอกับน้ำท่วม ความเครียด ความกดดันต่างๆ ในความทุกข์ก็อาจมีความสุข ในความเศร้าอาจมีความน่ารักให้ได้อมยิ้มกันก็ได้นะครับ
ยังไงก็ต้องเห็นอกเห็นใจกันนะครับ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูง และไม่ยอมย้ายออก ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้รักบ้านของพวกเขามาก บางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างบ้านหลังนี้ เพื่อให้ครอบครัวของเขาหรือเธอมีความสุข บ้านหลังนี้อาจมีความทรงจำดีๆมากมาย จนทำให้เจ้าของบ้านไม่สามารถตัดใจทิ้งบ้านไปได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่เราอาจจะต้องทำความเข้าใจและอย่าไปบ่นหรือว่าคนเหล่านี้มากนักเลยครับ
ที่สำคัญเพราะกลไกการทำงานของภาครัฐ ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของชาวบ้านได้ ข่าวโจรผู้ร้ายเที่ยวปล้นขโมยชุกชุม ไม่มีหลักประกันความปลอดภัยใดๆให้ชาวบ้านวางใจได้เลย
การเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหลายๆพื้นที่ชักช้า ไม่ทั่วถึง ศปภ.ของรัฐบาลมัวโง่งมโข่ง คนเดือดร้อนมีจำนวนมากเหลือเกิน บางหน่วยงานอย่างพี่ๆทหาร และอาสาสมัครเสียสละทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ก็ยังไม่สามารถ ช่วยเหลือได้ทั้งหมด
ผู้ที่เดือดร้อนที่ประสบภัยบางกลุ่มบางคนก็อย่าคิดเห็นแก่ตัว บางครั้งของบริจาคอาจจะมาช้า หรือมาไม่ถึง ก็ต้องแบ่งปันกัน แต่ผมเชื่อว่าฝ่ายที่เอาของเข้ามาแจกทำอย่างเต็มที่แล้ว
ดังนั้น สำหรับบางคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง และถูกประกาศจัดเป็นพื้นที่อพยพ น้ำเริ่มจะท่วมแน่ๆ ผมว่าก็ควรจะรีบ อพยพออกมาก่อนโดยเฉพาะคนแก่ คนเจ็บป่วย มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก และหญิงมีครรภ์
การที่เราออกจากพื้นที่มาได้ก็เป็นการช่วยส่วนรวมทางหนึ่ง ด้วยการไม่ไปเป็นภาระให้ใครต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือต้องมาขนย้ายออกจากบ้าน
สำหรับคนที่อพยพออกไปอยู่ต่างจังหวัด ผมว่าคิดถูกแล้ว เพราะได้หลุดพ้นถอยห่างออกไปจากความเครียดลำบากในการเดินทาง การขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม น้ำประปามีกลิ่น บางคนแพ้เนื้อตัวเป็นผดผื่นคัน และยังมีโรคที่มากับน้ำท่วม กำลังจ่อคิวอยู่อีกหลายโรค
บางพื้นที่น้ำท่วมเร็วมาก มีคนตกค้างอยู่ในพื้นที่นั้นจำนวนมาก ถ้าทุกคนตัดสินใจออกจากพื้นที่เสียก่อน ก็จะช่วยลดปัญหา ลดความเหนื่อยยากของทีมที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้มากทีเดียว
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้เห็นจากน้ำท่วมหนนี้ คือพี่ๆทหาร ที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนผมคิดว่าน่าเอา เงินเดือนของท่านนักการเมืองทั้งหลายมาให้พี่ๆทหารจะดีกว่าไหม
คนกลุ่มหนึ่งทำงานเพื่อช่วยชาวบ้าน ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งอย่างนักการเมืองน้ำเน่า กลับเอาแต่คอยฉวยโอกาสหาประโยชน์ ทำได้กระทั่งคดโกงสิ่งของเงินทองจากการบริจาคของประชาชน ไปช่วยผู้กำลังทุกข์ยากเดือดร้อน ช่างไม่กลัวบาปกรรม
ยิ่งงบประมาณจำนวนมหาศาลเงินภาษีที่รีดจากประชาชน ยิ่งถูกคนเลวพวกนี้ยักยอกเอาไปสารพัดรูปแบบวิธีการ ในนามของโครงการใหญ่ระดับเมกกะโปรเจ็คทั้งหลาย
นักการเมืองเลวๆพวกนี้ กินเงินเดือนภาษีชาวบ้าน เดือนละเป็นแสน ทำงานในห้องแอร์ นั่งยกมือเป็นฝักถั่วในสภา ช่างเลี้ยงไว้เสียข้าวสุกจริงๆ
น้ำเน่าเหม็นยังแก้ได้ ด้วยอีเอ็ม.บอล แต่นักการเมืองน้ำเน่านี่ เอาอะไรใส่ให้มันหายเน่าดีล่ะครับพี่น้อง
เราได้เห็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง อาสาสมัครและพี่ๆทหารที่จิตใจดีงาม ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ทั้งที่ภาคใต้ แล้วยังต้องมา คอยช่วยชาวบ้านตอนน้ำท่วม เงินเดือนเบี้ยเลี้ยงคนเหล่านี้กลับได้ไม่กี่พันบาทเอง
ลองคิดดูนะครับว่าถ้านักการเมืองทำงานได้สักครึ่งหนึ่งของที่ พี่ๆทหารทำ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย กลุ่มหนึ่งเป็นรั้วของชาติ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นรอยรั่วจุดอ่อนของประเทศไทย คิดแล้วก็อยากให้พวกรูรั่วพวกนี้ถูกอุดอัดให้จมมิดลงดินไปเลย
นอกจากเรื่องน้ำใจและการบริหารจัดการแก้ปัญหาแบบไปคนละทิศละทางของแต่ละหน่วยงานรัฐ เรายังเห็นคนที่เห็นแก่ตัว อ้างตัวเป็นผู้ประสบภัย ออกไปเที่ยวปล้นร้านค้า ปล้นธนาคาร เพื่อหาเงินและหาของกิน ดูไปดูมาก็เริ่มเหมือนในหนัง 2012 เข้าไปทุกที
การดูข่าวน้ำท่วมมากๆอาจจะทำให้พวกเราหดหู่ และเซ็ง แต่บางทีเราอาจจะต้องมองในมุมใหม่ที่แตกต่างออกไป เผื่อจะเครียดน้อยลง เช่น เห็นไหมว่ารัฐบาลชุดนี้แก้ปัญหารถติดได้ และยังทำให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น ฯลฯ
แถมนี่ก็ใกล้ลอยกระทงแล้ว ปีนี้กรุงเทพมหานครได้จัดให้ประชาชนเกือบทั้งกรุงเทพ สามารถลอยกระทงได้จากหน้าบ้านของตนเอง หรือจากหน้าปากซอย เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปลอยกระทงในที่อื่นๆ การบริการดังกล่าวกทม.ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆกับประชาชน แต่ผมขอเตือนว่ากรุณาเช็คทางน้ำไหลดีๆนะครับ ประ เดี๋ยวเทียนในกระทงจะไปทำไฟไหม้เพื่อนบ้านเข้า เดี๋ยวจะงานเข้ากันนะครับ
อยู่กับน้ำท่วมอย่างมีสตินะครับทุกคน คอยตามข่าวสารดีๆ เพื่อตัวเราเอง และหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นไวๆ ไม่อย่างงั้นกรุงเทพฯ คงจะเป็นเมืองแห่งน้ำ แข่งกับเวนีสในอิตาลี แต่ถ้าเป็นจริงๆรับรองเรือหางยาวบ้านเรา ชนะเรือกอนโดล่าแน่ๆ
ถ้าคิดบวก มีอารมณ์ขันอย่างนี้ได้ก็คงดีนะครับ ผมเกรงแต่ว่าชาวบ้านที่น้ำท่วมขังนานๆ จนน้ำในบ้านรอบบ้านดำเหม็นเน่า คราวนี้ คนไทยคงถึงบางอ้อว่า น้ำเน่าน่ะเหม็น น่ารังเกียจเพียงไร แต่ความเหม็นของนักการเมืองน้ำเน่าในบ้านเรานั้น น่าสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าน้ำเน่าที่ท่วมขังนานๆเสียอีกครับ
เห็นน้ำท่วมมามากมายอย่างปีนี้ ผมอยากให้ประชาชนมีพลังดุจมวลน้ำมหาศาล จะได้กวาดล้างนักการเมืองน้ำเน่า ให้มันไหลลงทะเลไปให้หมด บ้านเมืองจะได้สะอาดขึ้นซะที ดีไหมครับ