ASTVผู้จัดการรายวัน- ปชป.อนาถใจ รัฐบาลทิ้งขว้างของบริจาค เสนอตัวขอเป็นคนกลางในการกระจายสิ่งของให้ถึงมือประชาชน อัด"ยิ่งลักษณ์" ห่วงแต่จะกู้เงิน จี้สอบเรืออพยพตีตรา "ใช้ในราษฎรคนเสื้อแดงเท่านั้น" หวั่นยิ่งสร้างความแตกแยก ในสังคม แฉพลทหารช่วยน้ำท่วม ได้เบี้ยเลี้ยงแค่วันละ 19 บาท แต่พท.จ้องหาเรื่อง ดันแก้ พ.ร.บ.กลาโหม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมว่า ตนอยากให้รัฐบาลแบ่งการแก้ปัญหาออกเป็น 2 กรณี คือ 1.การบริหารพื้นที่ที่ยังไม่ท่วมมากนัก โดยรัฐบาลควรให้กฎหมายพิเศษเข้าไปดูแลปัญหาความขัดแย้งของประชาชนที่ต้องการปกป้องพื้นที่ตัวเอง และข่มขู่เจ้าหน้าที่ โดยรัฐบาลต้องหามาตรการบริหารสถานการณ์เหล่านี้ ด้วยกฎหมายพิเศษก็ได้ เพราะรัฐบาลเลือกที่จะปฏิเสธประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามที่ฝ่ายค้านเสนอไปแล้ว
2. พื้นที่ที่น้ำท่วมแล้ว รัฐบาลต้องแก้ปัญหาความโกลาหลในการอพยพประชาชน เพราะที่ผ่านมา เช่น ที่เขตบางพลัด กทม. ประชาชนต้องดิ้นรนเอาตัวรอด โดยไม่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าช่วยเหลือ มีเพียงทหารที่เข้าช่วยอพยพเท่านั้น อีกทั้งยังเกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร และน้ำ สินค้าอุปโภค บริโภค มีราคาแพง มีปัญหาสาธารณูปโภค โดยเฉพาะเรื่องสุขาและเรือที่ยังขาดแคลนอยู่เป็นจำนวนมาก
**ปชป.พร้อมช่วยจัดการแจกของบริจาค
นายชวนนท์ กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลปัญหาอย่างจริงจัง ตอนนี้รัฐบาลมองข้ามปัญหาของประชาชน มองว่าเป็นเรื่องเล็กกว่าการกู้เงินที่รัฐบาลจ้องกู้เงิน 8-9 แสนล้านบาท เพื่อมาสร้างนิวไทยแลนด์ ขณะที่ประเทศไทยจมน้ำอยู่ครึ่งประเทศ และประชาชนยังเดือดร้อน แต่รัฐบาลกลับละเลย และเก็บขอบริจาคไว้ในสต็อก โดยล่าสุดทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าไปถ่ายรูปภาพสุขา และของบริจาคลอยน้ำอยู่ที่ดอนเมือง ซึ่งถือว่าสมกับชื่อ สุขาลอยน้ำจริงๆ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่ส่งไปช่วยเหลือประชาชน
" ขอฝากไปยังรัฐบาลด้วยความจริงใจว่า ถ้ารัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการของบริจาคเหล่านี้ได้ พรรคประชาธิปัตย์ จะขอเสนอตัวเข้าไปรับผิดชอบในการรับสิ่งของเหล่านี้มาส่งต่อไปยังพี่น้องที่ประสบภัย โดยจะส่งไปยังประชาชนทุกกลุ่มในนามรัฐบาล จะไม่แบ่งแยกประชาชน ประชาชนที่ไม่ได้เลือกเรา เราก็จะรีบจัดส่งของเหล่านี้ไปให้ และจะเปิดโอกาสให้รัฐบาลตรวจสอบของทุกชิ้น ว่าส่งไปที่ไหน ประชาชนกลุ่มไหนได้รับ ถ้ารัฐบาลต้องการความช่วยเหลือ พรรคประชาธิปัตย์ ยินดีเสนอตัวเข้ามาใช้โครงข่ายของพรรคในการจัดส่งสิ่งของเหล่านี้ไปให้ถึงมือประชาชนที่เดือดร้อน ขอให้รัฐบาลใจกว้างพิจารณาข้อเสนอของเรา อย่าให้สิ่งของที่ผู้หวังดีบริจาคเข้ามา ต้องเสียเปล่า"
**นายกฯต้องเด็ดขาด-จัดการส.ส.เสื้อแดง
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า อยากสรุปการบริหารงานของนายกฯ เป็น 4 ข้อ คือ
1. นายกฯ ต้องทบทวนว่าอาจจะไม่รู้เรื่องการบริหารสถานการณ์อุทกภัย แต่อยากให้พิจารณาปิดจุดอ่อนของตัวเอง โดยการใช้คนที่มีความรู้มีประสบการณ์เข้ามาแก้ปัญหา ขณะนี้ดูเหมือนว่านายกฯ จะพยายามดำเนินการอย่างนั้น แต่ก็เห็นว่ามีบางคนที่พยายามสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ทั้งที่ไม่มีความรู้ความสามารถ พยายามมาออกทีวี อยู่เป็นประจำ
2. นายกฯ ต้องระลึกว่าตัวเองเป็นนายกฯ ไม่ใช่ผู้ประสานงานระหว่างองค์กรต่างๆ แต่เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในการแก้ปัญหา และท่านต้องมีอำนาจเด็ดขาดในการชี้นำประเทศ ว่าจะเดินไปทางไหน
3. อยากให้รัฐบาลทบทวนการเข้ามาแทรกแซงของกลุ่มส.ส.เสื้อแดง เพราะการทำงานของกลุ่มนี้ เป็นเพียงต้องการเอาตัวเองรอดจากสถานการณ์อย่างนี้ และมุ่งช่วยพี่น้องเสื้อแดงชัดเจน มุ่งแบ่งแยกประชาชนให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น ล่าสุดมีคนส่งภาพเรือที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย มีการเขียนคำว่า "ใช้ในราษฎรคนเสื้อแดงเท่านั้น" ไม่ทราบว่ารัฐบาลมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ แต่รัฐบาลต้องเข้าไปตรวจสอบ ตนไม่อยากให้ภาพเหล่านี้สร้างความแตกแยกในสังคมไทย
** เลิกฉวยโอกาสแก้กม.กลาโหม
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณี กลุ่ม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามสร้างความแตกแยก ด้วยการพยายามแก้กฎหมายที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงพยายามใช้โอกาสนี้มาทำเรื่องที่ไม่สมควร เพราะตอนนี้ทหารกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย ได้ใช้ชีวิตอย่างลำบาก พลทหารที่เข้าทำหน้าที่ ได้เบี้ยเลี้ยงเพียงวันละ 19 บาท ทั้งที่ทำหน้าที่เกือบ 24 ชั่วโมง โดยที่กลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้าไปช่วยดูแลประชาชน แต่กลับใช้เวลานี้หาเรื่องทหาร ใส่ความทหาร โยกย้ายทหาร ไม่ทราบว่าคิดได้อย่างไร ตนอยากให้นายกฯ เข้าไปดูแลในจุดนี้ด้วย และทหารเหล่านี้ก็ช่วยเหลือประชาชนโดยไม่คิดแบ่งแยก ซึ่งภาพที่ปรากฏ จะเห็นว่ามีกลุ่มคนที่สวมเสื้อแดง มีภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดอยู่ ได้อพยพอยู่บนรถจีเอ็มซี ของทหารด้วย เพราะทหารคิดว่าทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน
ดังนั้น ถ้าส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนแนวทางนี้ ก็ขอร้องว่าอย่าไปสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ให้เกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน และอยากถามว่าถึงเวลาหรือยังที่ท่านจะกลับมาสร้างความสามัคคีให้คนในชาติ กลับมาผ่านวิกฤติไปด้วยกัน
** อ้างของที่จมน้ำมีแต่เสื้อผ้าเก่า
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสิ่งของบริจาคที่ดอนเมืองถูกทิ้งให้จมน้ำว่า เรื่องนี้ ศปภ.ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ได้มีการเร่งขนย้ายจากดอนเมืองไปยังสนามศุภชลาศัยแล้ว
ส่วนของที่จมน้ำอยู่นั้น เป็นเสื้อผ้าเก่า ที่อาจไม่เหมาะกับการนำไปมอบให้ผู้ประสบภัย และ ของบริจาคส่วนหนึ่งที่คงเหลืออยู่ เนื่องจากมีการตัดจ่ายออกไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการนำรถมาขนออกไป ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้มีการส่งมอบถุงยังชีพ ถึงมือผู้ประสบภัยไปมากแล้ว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน ทหารก็เป็นทหารของประชาชน ถ้าฝ่ายค้านติเพื่อก่อ ก็ขอขอบคุณ แต่ถ้าพยายามพูดยุยง เสี้ยมให้เกิดความแตกแยก หรือ มือไม่พาย ยังพ่นน้ำลายใส่น้ำให้เสีย ก็เป็นเรื่องน่าเวทนา
**ผู้ตรวจฯของบ 50 ล. ซื้อถุงยังชีพเพิ่ม
นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการบริหารจัดการสิ่งของบริจาค และดูแลการบรรจุถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการขออนุมัติจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติมในราคาชุดละ 500 บาท จำนวน 1 แสนชุด รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยที่ได้รับการบริจาคจากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ผ่าน ศปภ. เพื่อใช้ดำเนินการจัดซื้อ ซึ่งขณะนี้ได้รับการอนุมัติหลักการจากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อ คาดว่าจะได้รับถุงยังชีพชุดแรก ประมาณวันที่ 2 พ.ย.นี้ โดยจะทยอยจัดส่งครั้งละ ประมาณ 1 - 2 หมื่นชุด
นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า เหตุที่ต้องใช้เงินบริจาคของประชาชน มาจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้กำลังการผลิตถุงยังชีพทำได้เพียง 2 - 3 พันชุด ต่อวันเท่านั้น โดยต้องยอมรับว่ามีผู้มาบริจาคสิ่งของผ่าน ศปภ. น้อยลง ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ อีกทั้งหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดำเนินการบรรจุถุงยังชีพ ทั้งทหาร ตำรวจ หรือมูลนิธิต่างๆ รวมไปถึงผู้บังคับบัญชา ก็ได้มีการเบิกจ่ายไปด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปมอบให้ประชาชนในขณะลงพื้นที่ประสบภัยต่างๆ
ดังนั้น เมื่อความเสียหายของอุทกภัยได้ขยายพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประสบภัย มีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย จึงมีความจำเป็นต้องจัดซื้อเพิ่มเติมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการดำเนินการที่อาจเกิดความไม่โปร่งใสขึ้นได้ นายจำเริญ ชี้แจงว่า ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ จำเป็นต้องดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ แต่ขอยืนยันว่า การดำเนินการจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมีคณะกรรมการจากหน่ยงานต่างๆ อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นต้น ในการเข้ามากลั่นกรอง และพิจารณาการจัดซื้อ โดยเฉพาะในส่วนของมูลค่าสินค้า ที่ขณะนี้รองอธิบดีกรมการค้าภายในรับผิดชอบในการพิจารณาราคา และสินค้าที่จะบรรจุในถุงยังชีพ
ส่วนกรณีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า เป็นผู้ดูแลและอนุมัติการเบิกจ่ายสิ่งของ ถุงยังชีพนั้น นายจำเริญ ยืนยันว่า ขณะนี้นายการุณ รวมไปถึง ส.ส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการเบิกจ่ายสิ่งของบริจาคแล้ว มีเพียงส่วนของข้าราชการ เป็นผู้ดูแลเท่านั้น โดยมีคณะกรรมการในการเบิกจ่ายของชัดเจน
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมว่า ตนอยากให้รัฐบาลแบ่งการแก้ปัญหาออกเป็น 2 กรณี คือ 1.การบริหารพื้นที่ที่ยังไม่ท่วมมากนัก โดยรัฐบาลควรให้กฎหมายพิเศษเข้าไปดูแลปัญหาความขัดแย้งของประชาชนที่ต้องการปกป้องพื้นที่ตัวเอง และข่มขู่เจ้าหน้าที่ โดยรัฐบาลต้องหามาตรการบริหารสถานการณ์เหล่านี้ ด้วยกฎหมายพิเศษก็ได้ เพราะรัฐบาลเลือกที่จะปฏิเสธประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามที่ฝ่ายค้านเสนอไปแล้ว
2. พื้นที่ที่น้ำท่วมแล้ว รัฐบาลต้องแก้ปัญหาความโกลาหลในการอพยพประชาชน เพราะที่ผ่านมา เช่น ที่เขตบางพลัด กทม. ประชาชนต้องดิ้นรนเอาตัวรอด โดยไม่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าช่วยเหลือ มีเพียงทหารที่เข้าช่วยอพยพเท่านั้น อีกทั้งยังเกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร และน้ำ สินค้าอุปโภค บริโภค มีราคาแพง มีปัญหาสาธารณูปโภค โดยเฉพาะเรื่องสุขาและเรือที่ยังขาดแคลนอยู่เป็นจำนวนมาก
**ปชป.พร้อมช่วยจัดการแจกของบริจาค
นายชวนนท์ กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลปัญหาอย่างจริงจัง ตอนนี้รัฐบาลมองข้ามปัญหาของประชาชน มองว่าเป็นเรื่องเล็กกว่าการกู้เงินที่รัฐบาลจ้องกู้เงิน 8-9 แสนล้านบาท เพื่อมาสร้างนิวไทยแลนด์ ขณะที่ประเทศไทยจมน้ำอยู่ครึ่งประเทศ และประชาชนยังเดือดร้อน แต่รัฐบาลกลับละเลย และเก็บขอบริจาคไว้ในสต็อก โดยล่าสุดทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าไปถ่ายรูปภาพสุขา และของบริจาคลอยน้ำอยู่ที่ดอนเมือง ซึ่งถือว่าสมกับชื่อ สุขาลอยน้ำจริงๆ ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่ส่งไปช่วยเหลือประชาชน
" ขอฝากไปยังรัฐบาลด้วยความจริงใจว่า ถ้ารัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการของบริจาคเหล่านี้ได้ พรรคประชาธิปัตย์ จะขอเสนอตัวเข้าไปรับผิดชอบในการรับสิ่งของเหล่านี้มาส่งต่อไปยังพี่น้องที่ประสบภัย โดยจะส่งไปยังประชาชนทุกกลุ่มในนามรัฐบาล จะไม่แบ่งแยกประชาชน ประชาชนที่ไม่ได้เลือกเรา เราก็จะรีบจัดส่งของเหล่านี้ไปให้ และจะเปิดโอกาสให้รัฐบาลตรวจสอบของทุกชิ้น ว่าส่งไปที่ไหน ประชาชนกลุ่มไหนได้รับ ถ้ารัฐบาลต้องการความช่วยเหลือ พรรคประชาธิปัตย์ ยินดีเสนอตัวเข้ามาใช้โครงข่ายของพรรคในการจัดส่งสิ่งของเหล่านี้ไปให้ถึงมือประชาชนที่เดือดร้อน ขอให้รัฐบาลใจกว้างพิจารณาข้อเสนอของเรา อย่าให้สิ่งของที่ผู้หวังดีบริจาคเข้ามา ต้องเสียเปล่า"
**นายกฯต้องเด็ดขาด-จัดการส.ส.เสื้อแดง
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า อยากสรุปการบริหารงานของนายกฯ เป็น 4 ข้อ คือ
1. นายกฯ ต้องทบทวนว่าอาจจะไม่รู้เรื่องการบริหารสถานการณ์อุทกภัย แต่อยากให้พิจารณาปิดจุดอ่อนของตัวเอง โดยการใช้คนที่มีความรู้มีประสบการณ์เข้ามาแก้ปัญหา ขณะนี้ดูเหมือนว่านายกฯ จะพยายามดำเนินการอย่างนั้น แต่ก็เห็นว่ามีบางคนที่พยายามสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ทั้งที่ไม่มีความรู้ความสามารถ พยายามมาออกทีวี อยู่เป็นประจำ
2. นายกฯ ต้องระลึกว่าตัวเองเป็นนายกฯ ไม่ใช่ผู้ประสานงานระหว่างองค์กรต่างๆ แต่เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในการแก้ปัญหา และท่านต้องมีอำนาจเด็ดขาดในการชี้นำประเทศ ว่าจะเดินไปทางไหน
3. อยากให้รัฐบาลทบทวนการเข้ามาแทรกแซงของกลุ่มส.ส.เสื้อแดง เพราะการทำงานของกลุ่มนี้ เป็นเพียงต้องการเอาตัวเองรอดจากสถานการณ์อย่างนี้ และมุ่งช่วยพี่น้องเสื้อแดงชัดเจน มุ่งแบ่งแยกประชาชนให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น ล่าสุดมีคนส่งภาพเรือที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย มีการเขียนคำว่า "ใช้ในราษฎรคนเสื้อแดงเท่านั้น" ไม่ทราบว่ารัฐบาลมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ แต่รัฐบาลต้องเข้าไปตรวจสอบ ตนไม่อยากให้ภาพเหล่านี้สร้างความแตกแยกในสังคมไทย
** เลิกฉวยโอกาสแก้กม.กลาโหม
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณี กลุ่ม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามสร้างความแตกแยก ด้วยการพยายามแก้กฎหมายที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงพยายามใช้โอกาสนี้มาทำเรื่องที่ไม่สมควร เพราะตอนนี้ทหารกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาอุทกภัย ได้ใช้ชีวิตอย่างลำบาก พลทหารที่เข้าทำหน้าที่ ได้เบี้ยเลี้ยงเพียงวันละ 19 บาท ทั้งที่ทำหน้าที่เกือบ 24 ชั่วโมง โดยที่กลุ่มส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้าไปช่วยดูแลประชาชน แต่กลับใช้เวลานี้หาเรื่องทหาร ใส่ความทหาร โยกย้ายทหาร ไม่ทราบว่าคิดได้อย่างไร ตนอยากให้นายกฯ เข้าไปดูแลในจุดนี้ด้วย และทหารเหล่านี้ก็ช่วยเหลือประชาชนโดยไม่คิดแบ่งแยก ซึ่งภาพที่ปรากฏ จะเห็นว่ามีกลุ่มคนที่สวมเสื้อแดง มีภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ ติดอยู่ ได้อพยพอยู่บนรถจีเอ็มซี ของทหารด้วย เพราะทหารคิดว่าทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน
ดังนั้น ถ้าส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนแนวทางนี้ ก็ขอร้องว่าอย่าไปสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ให้เกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน และอยากถามว่าถึงเวลาหรือยังที่ท่านจะกลับมาสร้างความสามัคคีให้คนในชาติ กลับมาผ่านวิกฤติไปด้วยกัน
** อ้างของที่จมน้ำมีแต่เสื้อผ้าเก่า
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสิ่งของบริจาคที่ดอนเมืองถูกทิ้งให้จมน้ำว่า เรื่องนี้ ศปภ.ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ได้มีการเร่งขนย้ายจากดอนเมืองไปยังสนามศุภชลาศัยแล้ว
ส่วนของที่จมน้ำอยู่นั้น เป็นเสื้อผ้าเก่า ที่อาจไม่เหมาะกับการนำไปมอบให้ผู้ประสบภัย และ ของบริจาคส่วนหนึ่งที่คงเหลืออยู่ เนื่องจากมีการตัดจ่ายออกไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการนำรถมาขนออกไป ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้มีการส่งมอบถุงยังชีพ ถึงมือผู้ประสบภัยไปมากแล้ว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน ทหารก็เป็นทหารของประชาชน ถ้าฝ่ายค้านติเพื่อก่อ ก็ขอขอบคุณ แต่ถ้าพยายามพูดยุยง เสี้ยมให้เกิดความแตกแยก หรือ มือไม่พาย ยังพ่นน้ำลายใส่น้ำให้เสีย ก็เป็นเรื่องน่าเวทนา
**ผู้ตรวจฯของบ 50 ล. ซื้อถุงยังชีพเพิ่ม
นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการบริหารจัดการสิ่งของบริจาค และดูแลการบรรจุถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการขออนุมัติจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติมในราคาชุดละ 500 บาท จำนวน 1 แสนชุด รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยที่ได้รับการบริจาคจากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ผ่าน ศปภ. เพื่อใช้ดำเนินการจัดซื้อ ซึ่งขณะนี้ได้รับการอนุมัติหลักการจากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อ คาดว่าจะได้รับถุงยังชีพชุดแรก ประมาณวันที่ 2 พ.ย.นี้ โดยจะทยอยจัดส่งครั้งละ ประมาณ 1 - 2 หมื่นชุด
นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า เหตุที่ต้องใช้เงินบริจาคของประชาชน มาจัดซื้อถุงยังชีพเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้กำลังการผลิตถุงยังชีพทำได้เพียง 2 - 3 พันชุด ต่อวันเท่านั้น โดยต้องยอมรับว่ามีผู้มาบริจาคสิ่งของผ่าน ศปภ. น้อยลง ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ อีกทั้งหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดำเนินการบรรจุถุงยังชีพ ทั้งทหาร ตำรวจ หรือมูลนิธิต่างๆ รวมไปถึงผู้บังคับบัญชา ก็ได้มีการเบิกจ่ายไปด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปมอบให้ประชาชนในขณะลงพื้นที่ประสบภัยต่างๆ
ดังนั้น เมื่อความเสียหายของอุทกภัยได้ขยายพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประสบภัย มีจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย จึงมีความจำเป็นต้องจัดซื้อเพิ่มเติมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการดำเนินการที่อาจเกิดความไม่โปร่งใสขึ้นได้ นายจำเริญ ชี้แจงว่า ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ จำเป็นต้องดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ แต่ขอยืนยันว่า การดำเนินการจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยมีคณะกรรมการจากหน่ยงานต่างๆ อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นต้น ในการเข้ามากลั่นกรอง และพิจารณาการจัดซื้อ โดยเฉพาะในส่วนของมูลค่าสินค้า ที่ขณะนี้รองอธิบดีกรมการค้าภายในรับผิดชอบในการพิจารณาราคา และสินค้าที่จะบรรจุในถุงยังชีพ
ส่วนกรณีนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า เป็นผู้ดูแลและอนุมัติการเบิกจ่ายสิ่งของ ถุงยังชีพนั้น นายจำเริญ ยืนยันว่า ขณะนี้นายการุณ รวมไปถึง ส.ส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการเบิกจ่ายสิ่งของบริจาคแล้ว มีเพียงส่วนของข้าราชการ เป็นผู้ดูแลเท่านั้น โดยมีคณะกรรมการในการเบิกจ่ายของชัดเจน