00 ต้องบอกว่าชาวกรุงเทพฯทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกต้องลุ้นกันเป็นรายชั่วโมงว่าจะตัดสินใจอพยพ ทิ้งบ้านช่องดีกันเมื่อไหร่ ตอนแรกบอกว่าบางพื้นที่ปลอดภัยแล้ว บางแห่งก็บอกว่า “เอาอยู่” รุ่งขึ้นอีกวันมาใหม่คราวนี้ “ไม่ชัวร์” แล้วพี่น้อง อาจต้องเก็บของเตรียมเผ่นกันเพิ่มเติม เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้จริงๆ เพราะถ้ายังขืนไปฟังไปเชื่อ ศปภ. เชื่อ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะยิ่งพาจมน้ำกันไปเปล่าๆ ขนาดที่ทำงานตัวเองยังเอาไม่อยู่ต้องอพยพกันวุ่นวาย และเชื่อว่าอีกไม่น้ำก็จะตามมาถึงที่สำนักงานใหม่ กระทรวงพลังงานแถวห้าแยกลาดพร้าวอย่างแน่นอน ตัวใครตัวมันแล้วกัน
00 เวลานี้ถ้ามองไปที่ชาวบ้านคนไทยด้วยกันก็ต้องบอกว่ามีหัวใจเป็นหนึ่งเดียว ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเอง น้องๆพี่ๆต่างมีจิตสาธารณะ อาจจะมีบ้างที่บางชุมชนที่เกิดความเครียด บางทีก็เกิดการยุแหย่จากพวกนักการเมืองให้ออกมาป่วนเหมือนกับเป็นการ “เลี้ยงมวลชน” เอาไว้ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยให้น่ารำคาญเท่านั้น แต่ภาพรวมส่วนใหญ่พี่น้องเขารักกันช่วยเหลือกัน เพราะนาทีนี้จะไปหวังพึ่งพารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลไม่ได้แล้ว เพราะขนาด ศปภ.ยังเอาตัวไม่รอดกำลังกลายเป็นผู้ประสบภัยรายใหม่เข้าไปแล้ว
00 เรื่องการปล่อยให้ของบริจาคลอยเกลื่อนกลาดดอนเมือง หลังนายกฯยิ่งลักษณ์ เผ่นเป็นคนแรก รวมไปถึงการ “อม” ของบริจาค แล้วขยักเอาไว้แจกจ่ายให้กับพรรคพวกตัวเองแบบไม่ลงทุนและหน้าด้านที่สุด กรณีที่ “หลองงูเห่า” เอ้ย ฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนท์ ที่สติแตกก่อนหน้านี้โวยวายออกมาตอนแรกนั่นแหละ “ของจริง”ล้วนๆ แม้ว่าต่อมามีการกลืนน้ำลายยอมขอโทษอ้างว่าเข้าใจผิดนั้นอาจเป็นเพราะมีอะไร “ปิดปาก” ชาวบ้านพอเดาออกและพอรู้สันดานก็น่าจะรู้ดีว่าทำไมถึงได้จบแบบนี้
00 การออกมาเปิดเผยของ จำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯบอกว่าเวลานี้การบริจาคที่ ศปภ.ลดลงทำให้ต้องของบเพิ่มอีก 50 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อถุงยังชีพประมาณ 1 แสนชุด พร้อมทั้งมีการระบุว่า “ไอ้เก่ง” การุณ โหสกุล รวมไปถึง ส.ส.เพื่อไทย และ “หัวโจก” เสื้อแดงที่เคยเข้ามาจุ้นจ้านเกี่ยวกับของบริจาคใน ศปภ.เวลานี้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวแล้ว แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะเมื่อชาวบ้านเขาได้เห็นภาพข่าวแล้วรู้สึกเสื่อมศรัทธา สะอิดสะเอียน ทำให้ไม่มีใครอยากไปบริจาค เพราะกลัวจะตกอยู่ในมือของพวก “เหลือบ” หรือ “เปรต” น้ำท่วมนั่นแหละ
00 ได้แอ็กอาร์ตอีกรอบ หลังจากซุ่มเงียบรอให้ถูกกวักมือเรียกใช้งานแบบให้ความสำคัญ เป็นการ “เพิ่มราคา” ขึ้นไปอีก ใช่แล้วกำลังพูดถึง “เสี่ยเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง ให้มาทำหน้าที่หัวหน้าทีมควบคุมดูแลปัญหาอาชญากรรม ทั้งที่ไม่เห็นความจำเป็นตรงไหนเลย ให้มันวุ่นวายซ้ำซ้อนทำไม ถ้า ผบ.ตร. พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆทำงานอย่างเต็มที่และเป็นมืออาชีพจริง เพราะงานแบบนี้มันเป็นงานรักษาความสงบเรียบร้อยตามปกติ ที่ต้องทำอยู่แล้ว ก็ไหนว่ามีฝีมือไง และที่สำคัญก็ล้วนเพิ่งตั้งใหม่ล้วนแล้วแต่คนกันเองไว้ใจได้ไม่ใช่หรือ ลองโชว์ให้เห็นหน่อยซิ !!
00 เวลานี้ถ้ามองไปที่ชาวบ้านคนไทยด้วยกันก็ต้องบอกว่ามีหัวใจเป็นหนึ่งเดียว ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเอง น้องๆพี่ๆต่างมีจิตสาธารณะ อาจจะมีบ้างที่บางชุมชนที่เกิดความเครียด บางทีก็เกิดการยุแหย่จากพวกนักการเมืองให้ออกมาป่วนเหมือนกับเป็นการ “เลี้ยงมวลชน” เอาไว้ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยให้น่ารำคาญเท่านั้น แต่ภาพรวมส่วนใหญ่พี่น้องเขารักกันช่วยเหลือกัน เพราะนาทีนี้จะไปหวังพึ่งพารัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลไม่ได้แล้ว เพราะขนาด ศปภ.ยังเอาตัวไม่รอดกำลังกลายเป็นผู้ประสบภัยรายใหม่เข้าไปแล้ว
00 เรื่องการปล่อยให้ของบริจาคลอยเกลื่อนกลาดดอนเมือง หลังนายกฯยิ่งลักษณ์ เผ่นเป็นคนแรก รวมไปถึงการ “อม” ของบริจาค แล้วขยักเอาไว้แจกจ่ายให้กับพรรคพวกตัวเองแบบไม่ลงทุนและหน้าด้านที่สุด กรณีที่ “หลองงูเห่า” เอ้ย ฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนท์ ที่สติแตกก่อนหน้านี้โวยวายออกมาตอนแรกนั่นแหละ “ของจริง”ล้วนๆ แม้ว่าต่อมามีการกลืนน้ำลายยอมขอโทษอ้างว่าเข้าใจผิดนั้นอาจเป็นเพราะมีอะไร “ปิดปาก” ชาวบ้านพอเดาออกและพอรู้สันดานก็น่าจะรู้ดีว่าทำไมถึงได้จบแบบนี้
00 การออกมาเปิดเผยของ จำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯบอกว่าเวลานี้การบริจาคที่ ศปภ.ลดลงทำให้ต้องของบเพิ่มอีก 50 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อถุงยังชีพประมาณ 1 แสนชุด พร้อมทั้งมีการระบุว่า “ไอ้เก่ง” การุณ โหสกุล รวมไปถึง ส.ส.เพื่อไทย และ “หัวโจก” เสื้อแดงที่เคยเข้ามาจุ้นจ้านเกี่ยวกับของบริจาคใน ศปภ.เวลานี้ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวแล้ว แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะเมื่อชาวบ้านเขาได้เห็นภาพข่าวแล้วรู้สึกเสื่อมศรัทธา สะอิดสะเอียน ทำให้ไม่มีใครอยากไปบริจาค เพราะกลัวจะตกอยู่ในมือของพวก “เหลือบ” หรือ “เปรต” น้ำท่วมนั่นแหละ
00 ได้แอ็กอาร์ตอีกรอบ หลังจากซุ่มเงียบรอให้ถูกกวักมือเรียกใช้งานแบบให้ความสำคัญ เป็นการ “เพิ่มราคา” ขึ้นไปอีก ใช่แล้วกำลังพูดถึง “เสี่ยเหลิม” เฉลิม อยู่บำรุง ให้มาทำหน้าที่หัวหน้าทีมควบคุมดูแลปัญหาอาชญากรรม ทั้งที่ไม่เห็นความจำเป็นตรงไหนเลย ให้มันวุ่นวายซ้ำซ้อนทำไม ถ้า ผบ.ตร. พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆทำงานอย่างเต็มที่และเป็นมืออาชีพจริง เพราะงานแบบนี้มันเป็นงานรักษาความสงบเรียบร้อยตามปกติ ที่ต้องทำอยู่แล้ว ก็ไหนว่ามีฝีมือไง และที่สำคัญก็ล้วนเพิ่งตั้งใหม่ล้วนแล้วแต่คนกันเองไว้ใจได้ไม่ใช่หรือ ลองโชว์ให้เห็นหน่อยซิ !!