“อภิสิทธิ์” ลุยน้ำเน่าเยี่ยมผู้อพยพศูนย์ดอนเมือง กล่อมหาที่พักใหม่ แต่ถูกชาวบ้านปฏิเสธ ขอแค่ช่วยประสาน กทม.ส่งน้ำกิน-น้ำใช้ให้ พร้อมประสานรัฐบาลดูแลความปลอดภัย จี้รัฐเคลียร์ข้อมูลให้ชัด อยากให้ประชาชนออกต่างจังหวัด แต่ไม่ประกาศวันหยุดเพิ่ม ทำคนสับสน แนะรัฐอย่าพะวงน้ำทะเลหนุน ห่วงน้ำทุ่งไหลเข้าจนปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อย ก่อนลงพื้นที่รามอินทรา เจอคนเสื้อแดงด่าแจกของเหมือนให้ขอทาน
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะอาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ คุณหญิง กัลยา โสภณพณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางไปยังวัดหลักสี่ เพื่อเยี่ยมโรงครัวชาวใต้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกับตักอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย
จากนั้นเวลา 13.00 น.คณะได้เดินทางไปยัง ศปภ.ดอนเมือง เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ยังตกค้างอยู่ โดยได้ซักถามถึงปัญหาความเป็นอยู่ โดยผู้ประสบภัยได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ ศปภ.ย้ายออกไปแล้ว ก็มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เพราะถูกตัดน้ำตัดไฟ ทำให้ขาดน้ำกินและน้ำใช้ จึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์ประสานไปยัง กทม.ให้ส่งน้ำกินน้ำใช้มาให้ด้วย ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ผู้อพยพตัดสินใจย้ายออกจากดอนเมือง เพราะยังมีอีกหลายศูนย์ที่ยังสามารถรองรับได้ เช่น ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ซึ่งยังรองรับได้อีก 300 คน เพื่อสะดวกในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ แต่ชาวบ้านยังคงปฏิเสธโดยอ้างว่า อยากอยู่ใกล้บ้าน และคิดว่า ที่ศูนย์ดอนเมืองปลอดภัยแล้ว แต่ขอให้นายอภิสิทธิ์ช่วยประสานไปยังรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องความปลอดภัย อาหาร ยารักษาโรค และนมสำหรับเด็กอ่อนที่มีเด็กอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งขอให้ประสานเจ้าหน้าที่มาเก็บขยะที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และกำลังส่งกลิ่นเน่าเหม็นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามายัง ศปภ.ดอนเมือง เพื่อขนย้ายส้วมลอยน้ำที่ลอยอยู่ภายในเป็นจำนวนมากออกไป ทั้งนี้ น้ำในบริเวณดอนเมืองยังคงสูงขึ้นและส่งกลิ่นเน่าเหม็น
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการมาตรวจที่สนามบินดอนเมือง คิดว่า สถานการณ์น่าเป็นห่วง และการให้ข้อมูลขณะนี้ยังมีความสับสนในเรื่องข้อมูลข่าวสาร และปัญหาในพื้นที่ ตัวอย่างเช่น มีการส่งสัญญาณว่าอยากให้ประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ แต่กลับไม่ขยายวันหยุด ทำให้ประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะข้าราชการสับสนว่าจะต้องกลับมาทำงานหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลต้องดูทุกมาตรการให้สอดคล้องกัน ส่วนที่ประชาชนผู้ประสบภัยที่ยังอยู่ในสนามบินดอนเมือง ก็มีความต้องการจะพักอยู่ที่สนามบินดอนเมืองต่อ ทั้งที่รู้ว่ามีข้อกำหนดในเรื่องไฟฟ้า และน้ำประปา ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าถ้าอยู่ต่อแล้วจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งที่ดอนเมืองก็ยังมีปัญหา โดยเฉพาะผู้ประสบภัยที่มีทั้งเด็ก คนแก่ และคนพิการ และประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วย ซึ่งหน่วยงานต้องเข้ามาดูแล และจะต้องพูดคุยกันให้ชัดเจนว่าอยากให้ผู้ประสบภัยกลุ่มไหนได้อพยพออกไปก่อน โดยเฉพาะคนป่วยที่ต้องไปดูแลให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประสบภัยที่ยังต้องการพักอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เพราะอยู่ใกล้บ้านของตัวเอง และไม่รู้ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหน ที่ศูนย์อพยพใด เพราะไม่แน่ใจว่าถ้าย้ายไปอยู่ที่ใหม่แล้วน้ำจะท่วมอีกหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลหรือหน่วยงานต่างๆ ควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน ทั้งนี้การบริหารจัดการกับผู้ประสบภัยที่อยู่ในสนามบินดอนเมืองจะยากขึ้น เพราะการเดินทางเข้าออกไม่สะดวก จากนี้ไปถ้าไม่มีไฟฟ้าและประปาใช้ผู้ประสบภัยที่อยู่ที่นี้ก็จะลำบากมากขึ้น และก็จะมีเรื่องโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีศูนย์อพยพที่ใดที่ยังปลอดภัยที่ผู้อพยพไปอยู่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลและทหารยังร่วมมือกันที่จะส่งผู้อพยพไปในต่างจังหวัดในพื้นที่ที่ไม่ถูกน้ำท่วม แต่ก็ต้องยอมรับว่า ประชาชนไม่อยากย้ายไปอยู่ไกลบ้าน ซึ่งจะไปสัมพันธ์กับการที่รัฐบาลจะแจ้งว่าจุดไหนน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วม ประชาชนก็จะพิจารณาได้
เมื่อถามว่า การประเมินสถานการณ์น้ำของนายกฯ มีการให้สัมภาษณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกวัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลอย่าประเมินสถานการณ์โดยอ้างอิงแต่น้ำทะเลหนุนอย่างเดียว เพราะยังมีน้ำจากทางเหนืออีก และจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ในเขตหลักสี่ หรือดอนเมือง พบว่า น้ำยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงยังต้องมีการจับตาเฝ้าระวัง เพราะสถานการณ์น้ำท่วมอาจจะขยายวงต่อไปได้ ทั้งนี้ การระบายน้ำ โดยการประสานงานระหว่าง กทม.และกรมชลประทาน ก็ดูจะมีความเข้าใจกันได้ดีมากขึ้น แต่ยังมีบางจุดที่มวลชนยังมีความขัดแย้งในเรื่องของการระบายน้ำอยู่ โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกที่สถานการณ์น้ำยังวิกฤตอยู่ และหลังจากที่เรามีการพูดในเรื่องการผันน้ำในฝั่งตะวันตกก็เริ่มมีการปรับให้ดีขึ้น
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่ดีขึ้น แต่รัฐบาลก็จะมีการกู้เงินกว่า 9 แสนล้านบาท โดยอ้างว่า จะเอาไปทำ นิวไทยแลนด์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาในระยะยาวก็ต้องมีการระดมเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ขณะนี้ยังถือว่าเร็วเกินไป เพราะตอนนี้ประชาชนยังเดือดร้อน สถานการณ์น้ำท่วมที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้ารัฐบาลก็ยังไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ทั่วถึง ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมีสมาธิในการมาแก้ไขความเดือดร้อนตรงนี้ก่อน
เมื่อถามย้ำว่า การขาดแคลนของสินค้าการดูแลไม่ทั่วถึงจะทำให้การเกิดการจลาจลได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีความเป็นห่วง เพราะในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา อารมณ์ของประชาชนในพื้นที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม รวมถึงจุดที่ยังมีความขัดแย้งในเรื่องการระบายน้ำ ทั้งนี้ จุดที่มีความเสี่ยงจากการที่ประชาชนยังไม่ยอมอพยพออกจากบ้าน รัฐบาลต้องส่งคนไปดูแลเป็นพิเศษ โดยให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปดูแลเพื่ออำนวยความสะดวกหรืออำนวยการในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปยังพื้นที่รามอินทรา ซ.5 ชุมชนอนันต์สุขสันต์ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีปริมาณน้ำที่สูง ในระหว่างนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำไม กทม.ไม่ประกาศให้เป็นพื้นที่อพยพ ไม่ควรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง เพราะปริมาณน้ำสูงและมีประชาชนอยู่อย่างหนาแน่น โดยระหว่างนั้นก็มีประชาชนทักทายนายอภิสิทธิ์ 2 ข้างทาง โดยใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ บริเวณรามอินทรา ซ.19 ชุมชนอนันต์สุขสันต์ เป็นพื้นที่ชุมชนเสื้อแดงบางเขน ซึ่งได้มีคนเสื้อแดงตะโกนด่า ว่า “มาแจกของเหมือนให้ของกับขอทาน” จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมายังศูนย์พักพิงฯที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัยที่พักพิงอยู่ในศูนย์