น้ำจากศาลายาผ่านถนนอุทยาน มุ่งหน้าไปยังเพชรเกษมแล้ว หน้า ม.มหิดลน้ำท่วมสูง 50 ซม. ด้านชาวบ้านกระทุ่มล้มปิดถนนพุทธมณฑลสาย 4 ไม่พอใจฝั่งวัดนครชื่นชุ่ม นำสิ่งกีดขวางปิดคลองระบายน้ำ ตำรวจต้องคุมเข้มไม่ให้ตีกัน เปิดช่องทางขวาสุดให้สวนทาง
วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดว่า น้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ซึ่งคันกั้นน้ำพัง และน้ำไหลทะลักเข้าท่วมตลาดศาลายาอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ไหลผ่านถนนอุทยาน มุ่งหน้าไปยังถนนเพชรเกษมแล้ว โดยมาตามท่อระบายน้ำของถนน บางช่วงมีน้ำเอ่อล้นมาบนพื้นผิวการจราจรในช่องทางด้านซ้าย ส่วนถนนที่แยกจากถนนพุทธมณฑลสาย 4 เช่น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก รวมทั้งโครงการหมู่บ้านจัดสรรซึ่งอยู่ต่ำกว่าเริ่มมีน้ำท่วมขัง
ส่วนด้านในเขตเทศบาลตำบลศาลายา บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ขณะนี้ระดับถนนมีน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรเข้าไปได้ ชาวบ้านต้องอาศัยรถบรรทุก ซึ่งมีทั้งรถยกที่เช่ามา และรถบรรทุกอาสาสมัครรับ-ส่งตามชุมชนต่างๆ รวมทั้งเรือท้องแบนและเรือหางยาวเป็นยานพาหนะ ขณะที่บางส่วนได้นำรถขึ้นไปจอดบนสะพานทางแยกต่างระดับศาลายาเพื่อหนีน้ำท่วม ส่วนถนนบรมราชชนนีระดับน้ำสูงเกือบถึงแท่นแบรีเออร์สำหรับกั้นขอบทาง และเมื่อสังเกตระยะไกลก็มีชาวบ้านนำรถไปจอดบนสะพานข้ามคลองทวีวัฒนาอีกด้วย
ผู้ประสบภัยชาว อ.พุทธมณฑล รายหนึ่งที่นำรถมาจอดบนสะพานทางแยกต่างระดับศาลายา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งมีอาหารและน้ำดื่มบริการแก่ผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ได้ออกมาจากบ้าน ตั้งแต่ด้านหลังโรงพยาบาลพุทธมณฑล ต.คลองโยงขึ้นไป เริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม ขณะที่เมื่อเช้าตนได้พายเรือเข้าไปดูทรัพย์สินภายในบ้าน ซึ่งแยกจากถนนฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าระดับน้ำมีความสูงประมาณ 1 ถึง 1.5 เมตร จากเดิมที่ระดับน้ำสูงประมาณ 80 เซนติเมตรถึง 1 เมตร ซึ่งขณะนี้ทรัพย์สินที่ขนมาได้ยังอยู่ที่ชั้น 2 หากระดับน้ำท่วมถึงทรัพย์สินที่ขนย้ายอาจเสียหายได้
สำหรับถนนอุทยานขณะนี้น้ำได้ไหลผ่านถนน โดยมีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ขณะที่บริเวณด้านหน้าถนนอุทยาน มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปสังเกตการณ์น้ำท่วม บางส่วนถือโอกาสออกหาปลา บริเวณคูน้ำด้านเกาะกลางถนน ขณะที่บางส่วนถือโอกาสถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และมีเด็กเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แม้น้ำที่ไหลผ่านเข้าท่วมจะมีสีเขียวคล้ำและมีกลิ่นเหม็นก็ตาม โดยมีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ทหารคอยเฝ้าระวังน้ำที่ไหลผ่านเข้ามาอย่างใกล้ชิด ส่วนพุทธมณฑลซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนนขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังหยุดอยู่ที่หน้าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของพุทธมณฑล
อีกด้านหนึ่ง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐมรวมตัวกันนำเต้นท์ปิดถนนพุทธมณฑลสาย 4 บริเวณขาออกมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดนครชื่นชุ่ม เพื่อเรียกร้องให้ชาวบ้านฝั่งหมู่ที่ 7 ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับวัดรื้อสิ่งกีดขวางทางน้ำไหลในคลองปทุมที่ลอดใต้ถนน โดยที่คลองดังกล่าวรับน้ำจากคลองทวีวัฒนาอีกทางหนึ่ง หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วมจากคลองทวีวัฒนา ขณะที่ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ไม่ยินยอมให้รื้อสิ่งกีดขวาง เพราะเกรงว่าจะเข้าท่วมหมู่บ้าน ทำให้สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มที่จะเกิดการปะทะกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้วต้องดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมเปิดช่องจราจรฝั่งหมู่ 8 ให้รถวิ่งสวนทางในช่องทางขวาสุด เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด
