พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นข่าวอีกครั้งในเว็บไซด์ดิเอจดอทคอมของออสเตรเลีย ซึ่งเขาเตือนไม่ให้ทหารยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไทยหรือเข้ามายึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พร้อมกันนั้นก็ย้ำว่าประชาคมโลก ไม่ยอมรับกับการปฏิวัติรัฐประหารของทหารอีกแล้วเหมือนที่เคยคว่ำรัฐบาลของเขาในปี ๒๕๔๙ และยังว่าทหารเป็นพวกเสพติดกับอำนาจเหมือนพวกติดยา จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ยาเช่นเดียวกับพวกเสพติดอำนาจก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจแต่เพื่อป้องกันการก่อรัฐประหารจะต้องเสริมสร้างประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง ถ้าประชาธิปไตยเจริญรุ่งเรืองทหารก็จะต้องอยู่ในกรมกองเอง
ทักษิณกล่าวว่า ตนจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและอาจเป็นไปได้ที่ตนจะเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากอยู่ต่างประเทศมา ๕ ปีเพื่อหลีกเลี่ยงโทษจำคุก ๒ ปี ในข้อหาคอรัปชั่นที่ตนถูกใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง ส่วนจะกลับเมื่อไรและด้วยวิธีการไหนก็ยังไม่แน่ชัด แต่ตนจะกลับไปยังที่ของตนเพราะไทยเป็นประเทศของตน และทักษิณปฏิเสธว่าเขาอยู่เบื้องหลังอำนาจของยิ่งลักษณ์ หรือเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ และว่าตนจะไม่เข้าไปแทรกแซงในรัฐบาลแต่ก็เสริมว่ายิ่งลักษณ์ก็เป็นตัวแทนของเขาและปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องที่มีคนพยายามจะขอพระราชทานอภัยโทษให้
ทั้งหมดเป็นความเห็นของทักษิณในเว็บไซด์ดังกล่าว และนายนภดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของทักษิณ กล่าวถึงกระแสที่ว่าทักษิณให้สัมภาษณ์ในเว็บไซด์ดังกล่าว ว่าสนับสนุนการแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหมว่า ไม่จริงเพราะตนได้คุยกับทักษิณเมื่อไม่นานมานี้ว่า ทักษิณไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เลย และว่าอาจจะมีการอ้างอิงมาจากหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ทักษิณว่าเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ส่วนเรื่องกองทัพปฏิวัตินั้นก็พูดในเชิงหลักการพัฒนาประชาธิปไตยว่า สังคมประชาธิปไตยทหารต้องเป็นทหารอาชีพเท่านั้น
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์โดยนายสกลธี ภัททิยกุล กล่าวถึงทนายความของทักษิณนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมที่เข้ามาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ว่า มาสร้างความวุ่นวายในประเทศอย่างต่อเนื่อง และแม้ยังไม่มีหมายจับก็เป็นบุคคลที่มีทัศนคติเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ เห็นได้จากการที่เขาได้เคยออกสมุดปกขาวที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรวางเฉยปล่อยให้นายโรเบิร์ตเดินสายรับเงินจากนายจ้างเข้ามาป่วนในประเทศ และตนเห็นว่าตัวนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์จะอ้างว่านายโรเบิร์ตไม่เกี่ยวข้องกับตนเองคงไม่ได้ เพราะเขาเป็นทนายความของทักษิณและของคนเสื้อแดงที่เป็นเนื้อเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย
ส่วนกรณีนายสุนัย จุลพงศ์ธร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศเชิญนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เข้าชี้แจงกรณีปัญหาสิทธิมนุษยชนในไทยนั้น นายอรรถพร พลบุตร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขอตำหนินายสุนัยว่าใช้กลไกของสภารับใช้ทักษิณอย่างน่ารังเกียจ และไม่ควรเอาคณะกรรมาธิการฯ มาเป็นเครื่องมือให้ผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงมาสร้างความแตกแยกของคนในชาติ และขอเรียกร้องให้ทักษิณสั่งยุติการเคลื่อนไหวของนายโรเบิร์ตและกลุ่มนิติราษฏร์ เพราะขณะนี้ไทยต้องการความเป็นเอกภาพเพื่อแก้วิกฤติอุทกภัย
ส่วนที่รัฐสภานายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษกล่าวถึงการตระเวนเก็บข้อมูลการสังหารประชาชนในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ๒๕๕๓ ของนายโรเบิร์ตโดยเชื่อว่า จะมีส่วนช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ตกหล่นในหลายส่วนได้ดีพอสมควร เพราะที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมได้ทั้งหมด และเป็นสิทธิ์ของนายโรเบิร์ตที่จะขอข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เพราะมีหลายชิ้นที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่ปรากฏต่อสาธารณะ
ตัวนายโรเบิร์ตยังได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่เรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี เพื่อเยี่ยมผู้ต้องขังเสื้อแดงในคดีฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เขากล่าวผ่านล่ามว่าจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำคดีของคนเสื้อแดงสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ขอนำความคิดถึงของทักษิณมายังคนเสื้อแดงทุกคนและจะติดตามดูการตัดสินคดีคนเสื้อแดงอุดรธานี ๒๒ คน ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒๘ ตุลาคม นี้ด้วย
นายชวนนท์ อินทโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านายโรเบิร์ต เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของทักษิณที่ใช้ให้เคลื่อนไหวเพื่อทำลายประเทศไทย และการที่นายโรเบิร์ตเดินทางไปทั่วประเทศก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่าได้ใช้อำนาจหรือสิทธิอะไรเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา ขณะเดียวกันนายโรเบิร์ตก็หลอกว่าจะนำคดีคนเสื้อแดงไปฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ เรื่องที่พูดมานั้นเป็นเรื่องโกหกไร้สาระ ส่วนที่นายโรเบิร์ตระบุว่าจะทำทุกทางให้มีการถอดพรรคประชาธิปัตย์ออกจากองค์กรเสรีประชาธิปไตยโลกนั้น ตนเข้าใจว่าหมายถึงองค์กรพรรคการเมืองเสรีซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องโกหกคำโต เพราะตนเป็นผู้เดินทางไปชี้แจงกับองค์กรนี้ที่อัฟริกาใต้ ทางองค์กรนี้ได้ตีตกเรื่องนายโรเบิร์ตและยืนยันว่าจะไม่มีการพิจารณาข้อเสนอไร้สาระอีกต่อไป
ครับ จะเห็นได้ว่าเรื่องทักษิณกับทนายความโรเบิร์ตที่มาเคลื่อนไหวได้ก่อกระแสอย่างต่อเนื่องและเป็นข่าวที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสนใจและตอบโต้โจมตีอย่างเผ็ดร้อนอย่างยิ่ง
ทักษิณกล่าวว่า ตนจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและอาจเป็นไปได้ที่ตนจะเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากอยู่ต่างประเทศมา ๕ ปีเพื่อหลีกเลี่ยงโทษจำคุก ๒ ปี ในข้อหาคอรัปชั่นที่ตนถูกใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง ส่วนจะกลับเมื่อไรและด้วยวิธีการไหนก็ยังไม่แน่ชัด แต่ตนจะกลับไปยังที่ของตนเพราะไทยเป็นประเทศของตน และทักษิณปฏิเสธว่าเขาอยู่เบื้องหลังอำนาจของยิ่งลักษณ์ หรือเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ และว่าตนจะไม่เข้าไปแทรกแซงในรัฐบาลแต่ก็เสริมว่ายิ่งลักษณ์ก็เป็นตัวแทนของเขาและปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องที่มีคนพยายามจะขอพระราชทานอภัยโทษให้
ทั้งหมดเป็นความเห็นของทักษิณในเว็บไซด์ดังกล่าว และนายนภดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของทักษิณ กล่าวถึงกระแสที่ว่าทักษิณให้สัมภาษณ์ในเว็บไซด์ดังกล่าว ว่าสนับสนุนการแก้ไขพ.ร.บ.กลาโหมว่า ไม่จริงเพราะตนได้คุยกับทักษิณเมื่อไม่นานมานี้ว่า ทักษิณไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เลย และว่าอาจจะมีการอ้างอิงมาจากหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ทักษิณว่าเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ส่วนเรื่องกองทัพปฏิวัตินั้นก็พูดในเชิงหลักการพัฒนาประชาธิปไตยว่า สังคมประชาธิปไตยทหารต้องเป็นทหารอาชีพเท่านั้น
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์โดยนายสกลธี ภัททิยกุล กล่าวถึงทนายความของทักษิณนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมที่เข้ามาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ว่า มาสร้างความวุ่นวายในประเทศอย่างต่อเนื่อง และแม้ยังไม่มีหมายจับก็เป็นบุคคลที่มีทัศนคติเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ เห็นได้จากการที่เขาได้เคยออกสมุดปกขาวที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น รัฐบาลไม่ควรวางเฉยปล่อยให้นายโรเบิร์ตเดินสายรับเงินจากนายจ้างเข้ามาป่วนในประเทศ และตนเห็นว่าตัวนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์จะอ้างว่านายโรเบิร์ตไม่เกี่ยวข้องกับตนเองคงไม่ได้ เพราะเขาเป็นทนายความของทักษิณและของคนเสื้อแดงที่เป็นเนื้อเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย
ส่วนกรณีนายสุนัย จุลพงศ์ธร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศเชิญนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เข้าชี้แจงกรณีปัญหาสิทธิมนุษยชนในไทยนั้น นายอรรถพร พลบุตร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ขอตำหนินายสุนัยว่าใช้กลไกของสภารับใช้ทักษิณอย่างน่ารังเกียจ และไม่ควรเอาคณะกรรมาธิการฯ มาเป็นเครื่องมือให้ผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงมาสร้างความแตกแยกของคนในชาติ และขอเรียกร้องให้ทักษิณสั่งยุติการเคลื่อนไหวของนายโรเบิร์ตและกลุ่มนิติราษฏร์ เพราะขณะนี้ไทยต้องการความเป็นเอกภาพเพื่อแก้วิกฤติอุทกภัย
ส่วนที่รัฐสภานายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษกล่าวถึงการตระเวนเก็บข้อมูลการสังหารประชาชนในช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ๒๕๕๓ ของนายโรเบิร์ตโดยเชื่อว่า จะมีส่วนช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ตกหล่นในหลายส่วนได้ดีพอสมควร เพราะที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมได้ทั้งหมด และเป็นสิทธิ์ของนายโรเบิร์ตที่จะขอข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เพราะมีหลายชิ้นที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่ปรากฏต่อสาธารณะ
ตัวนายโรเบิร์ตยังได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องหาที่เรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี เพื่อเยี่ยมผู้ต้องขังเสื้อแดงในคดีฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เขากล่าวผ่านล่ามว่าจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อนำคดีของคนเสื้อแดงสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ขอนำความคิดถึงของทักษิณมายังคนเสื้อแดงทุกคนและจะติดตามดูการตัดสินคดีคนเสื้อแดงอุดรธานี ๒๒ คน ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒๘ ตุลาคม นี้ด้วย
นายชวนนท์ อินทโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่านายโรเบิร์ต เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของทักษิณที่ใช้ให้เคลื่อนไหวเพื่อทำลายประเทศไทย และการที่นายโรเบิร์ตเดินทางไปทั่วประเทศก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่าได้ใช้อำนาจหรือสิทธิอะไรเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา ขณะเดียวกันนายโรเบิร์ตก็หลอกว่าจะนำคดีคนเสื้อแดงไปฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ เรื่องที่พูดมานั้นเป็นเรื่องโกหกไร้สาระ ส่วนที่นายโรเบิร์ตระบุว่าจะทำทุกทางให้มีการถอดพรรคประชาธิปัตย์ออกจากองค์กรเสรีประชาธิปไตยโลกนั้น ตนเข้าใจว่าหมายถึงองค์กรพรรคการเมืองเสรีซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องโกหกคำโต เพราะตนเป็นผู้เดินทางไปชี้แจงกับองค์กรนี้ที่อัฟริกาใต้ ทางองค์กรนี้ได้ตีตกเรื่องนายโรเบิร์ตและยืนยันว่าจะไม่มีการพิจารณาข้อเสนอไร้สาระอีกต่อไป
ครับ จะเห็นได้ว่าเรื่องทักษิณกับทนายความโรเบิร์ตที่มาเคลื่อนไหวได้ก่อกระแสอย่างต่อเนื่องและเป็นข่าวที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสนใจและตอบโต้โจมตีอย่างเผ็ดร้อนอย่างยิ่ง
