เอเจนซีส--ภาคอุตสาหกรรมจีนดีดตัวขึ้นอย่างกระปรี้กระเปร่าในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นข่าวดีที่ตามมาติดๆหลังจากที่จีนและสหรัฐอเมริกาบรรลุข้อตกลงการค้ากันอย่างม่วนชื่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทางวอชิงตันตกลงเบรคการขึ้นภาษีการค้าต่อสินค้าจีนในวินาทีสุดท้ายก่อนมีผลบังคับใช้
ในวันนี้(16 ธ.ค.) สำนักงานสถิติแห่งรัฐแถลงตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial production) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลผลิตอุตสาหกรรม (industrial output) ได้แก่ ภาคการผลิต เหมืองแร่และสาธารณูปโภค ขยายตัว 6.2 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพ.ย. นับเป็นการกระเตื้องอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังจากระดับ 4.7 เปอร์เซ็นต์ของเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นระดับชะลอตัวมากที่สุดครั้งที่สองนับจากปี 2002
การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย.นี้สูงกว่าการคาดการณ์ของสำนักบลูมเบิร์ก ซึ่งระบุว่าอัตราขยายตัวที่ 5.0 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกซึ่งเป็นมาตรวัดตัวหลักของการบริโภคในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ขยายตัว 8.0 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพ.ย. ดีดตัวขึ้นจากระดับ7.2 เปอร์เซ็นต์ของเดือนต.ค. และสูงกว่าบลูมเบิร์ก โพลล์ ซึ่งคาดการณ์การเติบโตของยอดขายในภาคค้าปลีกจีน เท่ากับ 7.6 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักอีกตัวที่แสดงถึงสุขภาพเศรษฐกิจมังกร คือ การลงทุนภาคสินทรัพย์ถาวร ขยายตัว 5.2 เปอร์เซ็นต์ นับจากต้นปีมาจนถึงเดือนพ.ย. ซึ่งยังถือเป็นการลงทุนรายเดือนที่ชะลอตัวมากที่สุดนับจากมีการรายงานฯ ทำให้เกิดความวิตกกลัวเกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความยืดหยุ่นในเศรษฐกิจจีน
กระนั้นก็ตาม ตัวเลขที่กระเตื้องขึ้นของภาคอุตสาหกรรมนี้ทำให้ปักกิ่งหายใจโล่งขึ้นหลังจากที่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วงมาตลอดปี 2019 สงครามการค้ากับสหรัฐฯพ่นพิษใส่ภาคการผลิตและการส่งออกอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้การบรรลุข้อตกลงระงับการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรและการเลื่อนการขึ้นภาษีฯยกใหม่ของทั้งสองฝ่าย ได้กระตุ้นความหวังในการฟื้นเสถียรภาพในไม่กี่เดือนนี้
“การบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างจีนและสหรัฐฯจะช่วยทำให้กิจกรรมด้านการส่งออกและการลงทุนในภาคบริษัทกลับมาสดใส แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยดันการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมายังเติบโตอย่างพอเพียงตามสภาพหลังจากที่ผู้คุมกฎออกมาตรการสกัดการอัดฉีดทุนในภาคอสังหาฯ
รายงานสถิติที่เผยในวันนี้(16 ธ.ค.) ระบุ ภาคการผลิตขยายตัว 6.3 เปอร์เซ็นต์ โดยการผลิตในภาคไฮเทคและอุปกรณ์กระเตื้องขึ้น 8.9 เปอร์เซ็นต์ และ 8.5 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
นับเป็นข่าวดีของเศรษฐกิจโลกในช่วงก่อนปีใหม่ จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(13 ธ.ค.) จีนและสหรัฐฯได้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 โดยทางวอชิงตันตกลงยกเลิกแผนการขึ้นภาษีศุลกากร 15 เปอร์เซ็นต์ต่อสินค้าจีนมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์ที่เดิมกำหนดวันบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (15) รวมทั้งลดขนาดการขึ้นอัตราภาษีอื่นๆก่อนหน้านี้โดยมีผลทันที ขณะที่จีนตกลงซื้อสินค้าและบริการของอเมริกาเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี
“ข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯนี้ จะลดช่วยความไม่แน่นอนในตลาด และหนุนความมั่นใจซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจและการค้าโลก” ฝู หลิงฮุ่ย โฆษกประจำสหนักสถิติแห่งรัฐ กล่าวในที่ประชุมการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจในวันจันทร์(16 ธ.ค.)