เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังจากธนาคารกลางจีนเข้าพยุง อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินระหว่างธนาคารส่งสัญญาณเงินทุนยังคงไหลออกจากแดนมังกรไม่หยุดยั้ง
การอ่อนค่าของเงินหยวนอย่างต่อเนื่องมานาน 3 วันได้ยุติลง เมื่อธนาคารกลางจีนมีการปรับเพิ่มอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรก หลังจากการประกาศลดค่าเงินหยวนแบบสายฟ้าแลบไปเมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา โดยธนาคารกลางจีนยังให้คำมั่นด้วยว่า จะเข้าแทรกแซงในกรณีค่าเงินหยวนแกว่งตัวอย่างรุนแรง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของธนาคารกลางแดนมังกรส่งผลให้ค่าเงินหยวนในการซื้อขายที่ตลาดในประเทศแข็งขึ้นร้อยละ 0.11 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การซื้อขายที่ตลาดต่างประเทศแข็งขึ้นร้อยละ 0.4 เป็น 6.4378 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ฯ
อย่างไรก็ตาม พบว่า อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินระยะสั้นระหว่างธนาคารบนแผ่นดินใหญ่และในฮ่องกง ที่กำลังทะยานขึ้นอยู่ในขณะนี้ บ่งชี้ว่า นักลงทุนกำลังถอนการลงทุนในรูปสกุลเงินหยวน อันเป็นผลจากการลดค่าเงินหยวนอย่างเหนือความคาดหมายของจีน โดยอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเงินข้ามคืนระหว่างธนาคารที่เซี่ยงไฮ้ ( Shibor) ปรับขึ้นอีก 1,380 จุด เป็นร้อยละ 1.667 ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว และขณะนี้ได้ปรับขึ้นเกือบจะสูงสุดในรอบ 4 เดือน
นักการธนาคารและนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า นักลงทุนแห่เทขายสินทรัพย์ในรูปเงินหยวน และกำลังโยกย้ายเงินทุนไปต่างประเทศ ตลอดจนถือครองสินทรัพย์ในสกุลเงินอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ มีเงินราว 340,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกโยกย้ายออกจากแผ่นดินใหญ่ในช่วง 4 ไตรมาส ที่ผ่านมา โดยนาย ฉู่ หงปิน นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเอชเอสบีซีระบุว่า การไหลออกของเงินทุนสะท้อนให้เห็นว่า ภาคเอกชนแห่ไปฝากเงินในธนาคารในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กันมากขึ้น รวมทั้งการชำระหนี้ในรูปสกุลเงินดังกล่าว ตลอดจนการขนเงินไปลงทุนในต่างประเทศ