สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงเนื่องจากข่าวการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.9 ดอลลาร์ หรือ 1.44% ปิดที่ 1,123.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลต่อข่าวการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.96% แตะที่ 96.27 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังจากที่สกุลเงินหยวนของจีนร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับปรุงระบบการกำหนดอัตราค่ากลางสกุลเงิน เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสามารถสะท้อนสถานการณ์ในตลาดได้ดียิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของจีนทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ และนักลงทุนจำนวนมากมองว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากการประกาศลดค่าเงินหยวนของจีนยังคงทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี NASDAQ ต่างก็ปิดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,402.51 จุด ลดลง 0.33 จุด หรือ 0.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,044.39 จุด เพิ่มขึ้น 7.60 จุด หรือ +0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,086.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.10%
ข่าวการลดค่าเงินหยวนของจีนยังคงสร้างแรงกดดันในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเมื่อวานนี้เงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 6.3306 หยวนต่อดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากการที่จีนเปลี่ยนแปลงวิธีการกำหนดค่ากลางใหม่ให้สอดคล้องกับกลไกตลาดมากขึ้น
ธนาคารกลางจีนระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางการเงินของจีน พร้อมกับยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานของจีนยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการปรับลดค่าเงินหยวนเป็นมาตรการหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่จีนเปิดเผยตัวเลขส่งออกที่ซบเซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 43.3 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 49.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปาดห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค. ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 453.6 ล้านบาร์เรล ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.9 ดอลลาร์ หรือ 1.44% ปิดที่ 1,123.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลต่อข่าวการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 0.96% แตะที่ 96.27 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังจากที่สกุลเงินหยวนของจีนร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับปรุงระบบการกำหนดอัตราค่ากลางสกุลเงิน เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสามารถสะท้อนสถานการณ์ในตลาดได้ดียิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของจีนทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ และนักลงทุนจำนวนมากมองว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากการประกาศลดค่าเงินหยวนของจีนยังคงทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี NASDAQ ต่างก็ปิดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,402.51 จุด ลดลง 0.33 จุด หรือ 0.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,044.39 จุด เพิ่มขึ้น 7.60 จุด หรือ +0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,086.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.10%
ข่าวการลดค่าเงินหยวนของจีนยังคงสร้างแรงกดดันในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเมื่อวานนี้เงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 6.3306 หยวนต่อดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากการที่จีนเปลี่ยนแปลงวิธีการกำหนดค่ากลางใหม่ให้สอดคล้องกับกลไกตลาดมากขึ้น
ธนาคารกลางจีนระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางการเงินของจีน พร้อมกับยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานของจีนยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการปรับลดค่าเงินหยวนเป็นมาตรการหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่จีนเปิดเผยตัวเลขส่งออกที่ซบเซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 43.3 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 49.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปาดห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค. ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 453.6 ล้านบาร์เรล ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3