เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (12 ส.ค.) ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี หลังอุปทานเชื้อเพลิงสหรัฐฯลด และดอลลาร์อ่อนค่าลง ปัจจัยภาคพลังงานพยุงวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ แม้มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีน ขณะที่ข้อวิตกดังกล่าวช่วยดันให้ทองคำขยับขึ้นแรงกว่า 15 ดอลลาร์
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ ปิดที่ 43.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 48 เซ็นต์ ปิดที่ 49.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯที่เผยแพร่ในวันพุธ (12 ส.ค.) พบว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของอเมริกาในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 สิงหาคม ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่กำลังผลิตภายในประเทศ ก็ลดลง 70,000 บาร์เรลต่อวัน เหลือ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อวันพุธ (12 ส.ค.) ขณะที่ความเคลื่อนไหวลดค่าเงินของหยวนต่อดอลลาร์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ของจีน กระพือความคาดเดาว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม แม้การลดค่าเงินหยวนจะกระพือความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจของจีน แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (12 ส.ค.) สามารถฟื้นตัวขึ้นมาปิดทรงตัว จากแรงหนุนของแอปเปิลและหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดาวโจนส์ ลดลง 0.33 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,402.51 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.98 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,086.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 7.60 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,044.39 จุด
แอปเปิล ซึ่งขยับลงเกือบตลอดทั้ง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดบวกร้อยละ 1.6 ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานสมาชิกดาวโจนส์ อย่าง เอ็กซอนโมบิล ปิดบวกร้อยละ 1.7, โคโนโคฟิลลิปส์ ปิดบวกร้อยละ 2.3 และอาปาเช ปิดบวกร้อยละ 3.2 จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
วอลล์สตรีทแกว่งตัวอยู่ในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน จากความกังวลว่าการลดค่าเงินหยวนของจีน คือ การส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าที่คิด โดย ดาวโจนส์ ร่วงลงไปกว่า 275 จุด อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดก็ฟื้นตัวขึ้นมาปิดในกรอบแคบๆ
กระนั้นราคาทองคำเมื่อวันพุธ (12 ส.ค.) พุ่งขึ้นอย่างแรงและปิดบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังความยุ่งเหยิงในตลาดเงินโลก ตามหลังจีนประกาศลดค่าเงินหยวน 2 วันติด กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,123.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์