xs
xsm
sm
md
lg

จีน-สหรัฐฯ จับมือทลายกำแพงภาษีสินค้าเทคโนฯ มูลค่ากว่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ต้อนรับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สู่มื้ออาหารค่ำ ที่ผู้นำแดนมังกรจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวในคืนวานนี้ (11 พ.ย. 2557) (ภาพเอเอฟพี)
พญามังกรจับมือพญาอินทรีย์ทลายกำแพงภาษีศุลกากรสินค้าไอที รวมมูลค่ากว่าล้านล้านดอลลาร์ หวังต่อขยายความร่วมมือนำไปสู่ข้อตกลงฯ ฉบับสำคัญ

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงาน (12 พ.ย.) ว่า จีนและสหรัฐอเมริกาบรรลุข้อตกลงขจัดพิกัดอัตราภาษีศุลกากร จำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีและสารสนเทศทั่วโลก ระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก (APEC) ณ นครหลวงปักกิ่ง

“นับเป็นข่าวน่าตื่นเต้นสำหรับความสัมพันธ์ทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ทำให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายสามารถทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคีและส่งเสริมระบบการค้าระดับพหุภาคีได้” ไมเคิล โฟร์แมน (Michael Froman) เจ้าหน้าที่ตัวแทนฝ่ายการค้าของสหรัฐฯ กล่าววานนี้

โฟร์แมนเสริมว่า ข้อตกลงข้างต้นเป็นพัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ ที่ทุกฝ่ายจะเร่งดำเนินงานอย่างรวดเร็วเพื่อหาข้อสรุปสุดท้ายอันขยับขยายไปสู่ “ข้อตกลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศ” (Information Technology Agreement) ที่ประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ลงนามเมื่อปี 2539

ที่ผ่านมาจีนและสหรัฐฯ พยายามหารือหนทางที่จะขยายสาระสำคัญของข้อตกลงฉบับดังกล่าวให้กว้างขึ้น เพื่อตอบรับกับการผลุดโผล่ของสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ไอทีล้ำสมัยต่างๆ ในปัจจุบัน ทว่าโต๊ะเจรจาครั้งล่าสุดในปี 2556 ก็ต้องล้มครืนไป เนื่องจากจีนต้องการถอนสินค้าหลายประเภทออกจากข้อตกลงฉบับเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี โฟร์แมนกล่าวว่า ประเด็นปัญหาเหล่านั้นได้รับการคลี่คลายและตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยในคืนวานแล้ว

รายการสินค้าที่จีนและสหรัฐฯ ร่วมกันตัดลดอัตราภาษีศุลกากรนั้น ยังรวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องเล่นวีดีโอเกม และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ โดยสินค้ามากกว่า 200 ชนิด จะถูกปรับลดภาษีลงเหลือศูนย์ภายใต้ข้อตกลงฉบับเพิ่มเติมนี้ ซึ่งนับเป็นการทะลายกำแพงภาษีครั้งสำคัญของ WTO ในรอบ 17 ปี

นอกจากนั้น จีนและสหรัฐฯ ยังเห็นพ้องขยายวีซ่าให้กับนักเรียน นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า “เป็นการฟูมฟักผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก”

กำลังโหลดความคิดเห็น