เอเจนซี—สหรัฐฯเผยจีนทดลองขีปนาวุธสอยดาวเทียม ปรามจีนหยุดการกระทำที่อาจคุกคามเสถียรภาพ
โฆษกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐแอเมริกา มารี ฮาร์ฟ แถลงเมื่อวันศุกร์(24 ก.ค.) จีนทำการทดสอบระบบสกัดกั้นขีปนาวุธเมื่อวันพุธ(23 ก.ค.) ซึ่งเป็นการทดสอบโดยไม่ทำลาย (non-destructive test) โดยการทดสอบครั้งก่อนหน้าในปี 2550 คือการทดลองยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียม ทำให้เกิดเศษขยะที่เป็นอันตรายจำนวนหลายพันชิ้น
ฮาร์ฟกล่าวอีกว่าการพัฒนาและทดลองระบบทำลายดาวเทียมต่อไปนั้น เป็นการคุกคามความมั่นคงและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในอวกาศ (outer-space environment) ที่ส่งผลกระทบต่อทุกๆประเทศ
สำนักข่าวทางการจีน ซินหวารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวกระทรวงกลาโหม มีการทดสอบขีปนาวุธยิงดาวเทียมจากพื้นดินภายในดินแดนจีนเมื่อวันพุธ(23 ก.ค.) และประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ซินหวาไม่ได้เรียกการทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบระบบทำลายขีปนาวุธ เพียงกล่าวว่าการทดสอบนี้จะส่งเสริมความสามารถกองทัพอากาศในการต่อต้านขีปนาวุธนำวิถี
ทั้งนี้ ซินหวารายงานเมื่อวันพฤหัสฯ(24 ก.ค.) ประกาศความสำเร็จในการทดสอบการสกัดกั้นขีปนาวุธ ซึ่งเป็นการทดลองจากภาคพื้นดิน
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้ให้ข้อมูลใดเกี่ยวกับปฏิบัติการฯดังกล่าว
จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบสกัดกั้นขีปนาวุธจากพื้นดินระยะกลาง (mid-course land-based missile interception) ในปี 2553 และปี 2556 ด้วยความหวังว่าการพัฒนาระบบสกัดกั้นขีปนาวุธหรือหัวรบที่จู่โจมเข้ามา อย่างเช่น ขีปนาวุธนำวิถี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งการปกป้องทางอากาศยานจีน ดังนั้นการทดสอบฯครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งที่สามของการทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธฯ
ทั้งนี้เทคโนโลยีการสกัดกั้นฯนี้ ต้องอาศัยการผนึกรวมข้อมูลต่างๆที่ซับซ้อน ทั้งการประมวลผลข้อมูล การสอดแนม การเตือนล่วงหน้า การขนส่งอาวุธ การนำทาง และความแม่นยำ
กลุ่มนักวิเคราะห์กล่าวถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของระบบสกัดกั้นขีปนาวุธยิงจากพื้นดินระยะกลาง เทียบได้กับระเบิดนิวเคลียร์และระเบิดไฮโดรเจน และการพัฒนาดาวเทียม
ทั้งนี้ ในปี 2550 จีนแสดงศักยภาพการโจมตีทางอากาศ โดยยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียมเพื่อการพยากรณ์อากาศที่หมดอายุ สูงเหนือพื้นดิน 530 ไมล์ ซึ่งเป็นการทดลองที่สร้างความตกตะลึงแก่ทำเนียบขาวมาก.
โฆษกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐแอเมริกา มารี ฮาร์ฟ แถลงเมื่อวันศุกร์(24 ก.ค.) จีนทำการทดสอบระบบสกัดกั้นขีปนาวุธเมื่อวันพุธ(23 ก.ค.) ซึ่งเป็นการทดสอบโดยไม่ทำลาย (non-destructive test) โดยการทดสอบครั้งก่อนหน้าในปี 2550 คือการทดลองยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียม ทำให้เกิดเศษขยะที่เป็นอันตรายจำนวนหลายพันชิ้น
ฮาร์ฟกล่าวอีกว่าการพัฒนาและทดลองระบบทำลายดาวเทียมต่อไปนั้น เป็นการคุกคามความมั่นคงและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในอวกาศ (outer-space environment) ที่ส่งผลกระทบต่อทุกๆประเทศ
สำนักข่าวทางการจีน ซินหวารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวกระทรวงกลาโหม มีการทดสอบขีปนาวุธยิงดาวเทียมจากพื้นดินภายในดินแดนจีนเมื่อวันพุธ(23 ก.ค.) และประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ซินหวาไม่ได้เรียกการทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบระบบทำลายขีปนาวุธ เพียงกล่าวว่าการทดสอบนี้จะส่งเสริมความสามารถกองทัพอากาศในการต่อต้านขีปนาวุธนำวิถี
ทั้งนี้ ซินหวารายงานเมื่อวันพฤหัสฯ(24 ก.ค.) ประกาศความสำเร็จในการทดสอบการสกัดกั้นขีปนาวุธ ซึ่งเป็นการทดลองจากภาคพื้นดิน
ด้านเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้ให้ข้อมูลใดเกี่ยวกับปฏิบัติการฯดังกล่าว
จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบสกัดกั้นขีปนาวุธจากพื้นดินระยะกลาง (mid-course land-based missile interception) ในปี 2553 และปี 2556 ด้วยความหวังว่าการพัฒนาระบบสกัดกั้นขีปนาวุธหรือหัวรบที่จู่โจมเข้ามา อย่างเช่น ขีปนาวุธนำวิถี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งการปกป้องทางอากาศยานจีน ดังนั้นการทดสอบฯครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งที่สามของการทดลองระบบป้องกันขีปนาวุธฯ
ทั้งนี้เทคโนโลยีการสกัดกั้นฯนี้ ต้องอาศัยการผนึกรวมข้อมูลต่างๆที่ซับซ้อน ทั้งการประมวลผลข้อมูล การสอดแนม การเตือนล่วงหน้า การขนส่งอาวุธ การนำทาง และความแม่นยำ
กลุ่มนักวิเคราะห์กล่าวถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของระบบสกัดกั้นขีปนาวุธยิงจากพื้นดินระยะกลาง เทียบได้กับระเบิดนิวเคลียร์และระเบิดไฮโดรเจน และการพัฒนาดาวเทียม
ทั้งนี้ ในปี 2550 จีนแสดงศักยภาพการโจมตีทางอากาศ โดยยิงขีปนาวุธทำลายดาวเทียมเพื่อการพยากรณ์อากาศที่หมดอายุ สูงเหนือพื้นดิน 530 ไมล์ ซึ่งเป็นการทดลองที่สร้างความตกตะลึงแก่ทำเนียบขาวมาก.