จีนส่งกองเรือค้นหาเที่ยวบินมาเลย์ ญาติผู้โดยสารขู่อดอาหาร

เอเยนซี - ทางการจีนสั่งกระจายกองเรือเข้าค้นหาเที่ยวบินมาเลย์ที่สูญหายอย่างลึกลับเป็นวันที่ 12 ในเส้นทางต้องสงสัยแห่งใหม่ ขณะที่บรรดาญาติผู้โดยสารชาวจีนลั่นจะประท้วงอดอาหาร หากรัฐบาลมาเลเซียไม่เปิดเผยข้อมูลความจริงให้กระจ่างชัดเจน

รายงานข่าว (19 มี.ค.) กล่าวว่า ทางการจีนได้ระดมกองเรือนับสิบลำเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ซึ่งขาดการติดต่อและหายไปจากจอเรดาร์ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. โดยมุ่งเน้นไปยัง “โครงข่ายเส้นทางการบินต้องสงสัย 2 แห่ง อันได้แก่ จากตอนเหนือของไทยไปถึงคาซัคสถานกับเติร์กเมนิสถาน และจากอินโดนีเซียไปถึงมหาสมุทรอินเดียตอนใต้

ขณะที่ทางการมาเลเซียระบุในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ข้อมูลที่ได้จากระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมครั้งสุดท้ายของเครื่องบิน เมื่อเวลา 08.11 น. ของวันที่ 8 มี.ค. แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินยังคงบินต่อไปอีกมากกว่า 7 ชม. หลังมีรายงานการสูญหายจากจอเรดาร์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ ใกล้กับอ่าวไทย

นายเหลียง หยัง โฆษกกองทัพเรือจีน กล่าวว่า จีนจัดแบ่งกองเรือออกเป็น 2 ส่วน โดยกองเรือแรกที่ประกอบด้วยเรือพลเรือนและเรือจากกองทัพจะแล่นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่อ่าวเบงกอล ขณะที่อีกกองเรือจะลงไปทางใต้สู่หมู่เกาะสุมาตราและเกาะชวา

“แผนการและยุทธวิธีในการค้นหาได้เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ กองทัพจะตรงไปยังเส้นทางค้นหาใหม่ทั้งสองแห่ง ทางหนึ่งขึ้นเหนือและอีกทางลงใต้ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติการในวันนี้” เจ้าหน้าที่ศูนย์ค้นหาและช่วยเหลือทางทะเลในกรุงปักกิ่งบอกกับเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อออนไลน์จีนในเช้าวานนี้

ทางด้านซินหวา สื่อทางการจีน รายงานว่า กองเรือแรกประกอบด้วยเรือจิ่งกังซาน น้ำหนักระวาง 20,000 ตัน ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัย เรือดำน้ำหย่งซิ่งเต่า เรือลาดตระเวนชายฝั่งไห่สวิน 31 และเรือกู้ภัยเซาท์ไชน่า ซี เรสคิว 115 จากกระทรวงคมนาคม จะเข้าค้นหาบนพื้นที่ขนาด 120,000 ตร.กม. ของอ่าวเบงกอล โดยมีเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ ร่วมปฏิบัติการบนน่านฟ้าทางตะวันตกของหมู่เกาะอันดามัน

สำหรับกองเรือที่สองประกอบด้วยเรือคุนหลุนซาน เรือไห่โข่ว เรือลาดตระเวนไห่สวิน 01 เรือกู้ภัยเซาท์ไชน่า ซี เรสคิว 101 และเรือบรรทุกตู้สินค้าจากคอสโค ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งทางทะเลยักษ์ใหญ่ของจีน มุ่งค้นหาบนพื้นที่ขนาด 180,000 ตร.กม. ในทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตราและเกาะชวา โดยมีเฮลิคอปเตอร์อีก 3 ลำ ร่วมด้วยเช่นกัน

ขณะที่เรือขนเสบียงเชียนเต่าหูจะล่องเข้ารวมกลุ่มกับกองเรือข้างต้นในบริเวณเกาะสุมาตราและเกาะชวา หลังเสร็จสิ้นการจัดส่งเสบียงให้กับเรือลำอื่นๆ ในน่านน้ำสิงคโปร์

ด้วยเหตุนี้ทำให้ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือเที่ยวบินที่สูญหายไปอย่างลึกลับ มีกองเรือจากจีนเข้าร่วมกว่า 10 ลำ โดยแบ่งได้เป็นเรือจากกองทัพจำนวน 5 ลำ และเรือจากฝ่ายพลเรือนอีก 5 ลำ

นอกจากนั้นนายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า จีนยังได้สั่งการให้ดาวเทียมในความควบคุมกว่า 21 ดวง ดำเนินการค้นหาเครื่องบินมาเลย์ที่บรรทุกลูกเรือและผู้โดยสารกว่า 239 ชีวิต ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารชาวจีนถึง 154 คน จากฟากฟ้าต่อไปอีกด้วย

ญาติผู้โดยสารจีนขู่อดอหาร ประท้วงรัฐบาลมาเลเซียเก็บงำข้อมูลความจริง
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บรรดาญาติมิตรและครอบครัวของผู้โดยสารชาวจีนของเที่ยวบิน MH370 ที่เฝ้ารอข่าวความเคลื่อนไหวอยู่ในโรงแรมกลางกรุงปักกิ่ง ต่างแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวและข่มขู่จะ “อดอาหาร” ประท้วงในวานนี้ จนกว่ารัฐบาลมาเลเซียจะบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับเครื่องบินที่สูญหายไป

“สิ่งที่เราต้องการคือความจริง อย่าให้พวกเขา (ผู้โดยสารบนเที่ยวบินสูญหาย) กลายเป็นเหยื่อของเกมการเมือง”

“ไม่ว่าคุณจะมาจากพรรคการเมืองไหน หรือมีอำนาจล้นมือเพียงใด ถ้าไม่มีชีวิตแล้วมันจะสำคัญอะไรเล่า ... ความเห็นอกเห็นใจอยู่ที่ไหนกัน” สตรีจีนวัยกลางคนรายหนึ่งกล่าว

“คุณเอาแต่พูดวกไปวนมา ฉันคิดว่ารัฐบาลมาเลเซียรู้อยู่แก่ใจว่าทำไมพวกเราอยากให้คุณตอบความจริงทั้งหมด เพราะคุณเล่นตุกติก บอกแต่เรื่องโกหก” ชายอีกคนกล่าวเสริม

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตัวแทนชาวจีนของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส กล่าวในงานแถลงความคืบหน้าประจำวันในกรุงปักกิ่งวานนี้ว่า “เราพร้อมยอมรับคำวิจารณ์และความผิดพลาด แต่ปัญหาคือเราไม่มีหนทางเข้าถึงข้อมูลได้ จากจุดของผม ผมไม่สามารถเรียกรับข้อมูลใดๆ ได้เลย โปรดให้อภัย”

ภายหลังการแถลงข่าวจบลง บรรดาญาติและครอบครัวได้ตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง พลางโบกกำปั้นและชูแผ่นกระดาษที่ปรากฏข้อความเกี่ยวกับการประท้วงอดอาหารให้กับนักข่าวและช่างภาพภายในห้องโถง

“เคารพในชีวิต นำญาติของเรากลับมา ทุกคนอ่านออกใช่ไหม?” หญิงผู้หนึ่งกล่าว

“เราจะประท้วงอดอาหาร” เธอกล่าว “หลายครอบครัวต้องพังทลายลง ดังนั้นจะมีผู้มาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากแน่นอน”