xs
xsm
sm
md
lg

ทอ.ยันไม่ปิดข้อมูลMH370 ญาติบุกประท้วง12วันยังเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-สื่ออังกฤษตั้งข้อสงสัยกองทัพไทยช่วยปิดบังข้อมูลเครื่องบิน MH370 ล่องหน ด้าน ทอ.แจง ไม่ได้ปิดข้อมูล แต่ที่ไม่ได้เปิดเผยตั้งแต่ต้น เหตุไม่ได้บินผ่านพื้นที่ควบคุมการบินของไทย ไม่ยืนยันใช่ลำที่หายไปหรือไม่ รอประสานมาเลย์ตรวจอีกครั้ง พบความหวังใหม่ หลังชาวเกาะห่างไกลของมัลดีฟส์อ้างเห็นเครื่องบินโบอิ่งบินผ่าน แต่ล่าสุดมาเลย์ยันไม่ใช่เรื่องจริง "อันวา"รับแล้ว กัปตันเป็นญาติ ชาวจีนสุดทนบุกประท้วงกลางห้องแถลงข่าว 12 วันยังหาไม่เจอ

ความคืบหน้าการติดตามการหายไปของเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หลังจากที่หายไปในเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 มี.ค.2557 ในเวลา 01.30 น. จนกระทั่งขณะนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่า จะติดตามเจอ แม้จะมีนานาชาติเข้ามาร่วมมือในการค้นหา แต่กลับมีประเด็นใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การหายไปของเครื่องบินยิ่งมีความลึกลับซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

***สื่อนอกตั้งคำถามกองทัพไทยช่วยจัดฉาก

เมลออนไลน์ สื่ออังกฤษ ได้ตั้งประเด็นสงสัยว่า กองทัพไทยอาจจะอยู่ในกระบวนการช่วยจัดฉากในการปกปิดครั้งมโหฬารของการหายไปของเครื่องบินเที่ยว MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ในครั้งนี้ เพราะกองทัพไทยเพิ่งมาเปิดเผยว่า เรดาร์ของกองทัพสามารถตรวจจับเครื่องบินที่สูญหายได้ หรือ 8 นาที หลังการสื่อสารของ MH370 ถูกปิดลง และเครื่องบินที่สูญหายได้มุ่งหน้าสู่ช่องแคบมะละกา แต่ที่ทางกองทัพไม่ยอมที่จะเปิดเผยข้อมูล เพราะไม่ได้รับการร้องขออย่างเจาะจง

ในขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ให้สัมภาษณ์ CNN ในคืนวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. โดยอ้างว่าได้สั่งให้ตำรวจไทยประสานงานกับอินเตอร์โพลเรื่องพาสปอร์ตปลอม และกองทัพไทยช่วยติดตามเครื่องบินที่หายไป โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ในขณะนั้น ได้ยืนยันกับทาง CNNว่า กองทัพอากาศไทยยังไม่พบร่องรอยใดๆ ของเครื่องบินที่หายไป

***ทอ.แจงไม่ได้ปกปิดข้อมูล

พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีสื่อต่างชาติตั้งข้อสังเกตกองทัพอากาศของไทยที่แถลงข้อมูลเรดาร์ตรวจจับอากาศยานล่าช้าว่า การชี้แจงของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เกิดจากการสอบถามของสื่อมวลชน มิใช่การเปิดแถลงข่าวเรื่องเครื่องบินมาเลเซียโดยเฉพาะ ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศอาจเข้าใจว่าเป็นการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ซึ่งข้อมูลเรื่องดังกล่าวเป็นการตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวเท่านั้น หากเป็นการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ต้องเป็นการดำเนินการในระดับรัฐบาล หรือกระทรวงคมนาคม เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการตรวจสอบของเรดาร์ของกองทัพอากาศไทย เกิดจากการร้องขอของมาเลเซีย เมื่อวันอังคารที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.ว่า มีสมมติฐาน 2 ประการ คือ เครื่องบินลำดังกล่าวบินไปทางเหนือของประเทศไทย หรือบินลงทางใต้ไปทางช่องแคบมะละกา กองทัพอากาศ จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลการบินย้อนหลังอย่างละเอียด และพบข้อมูลที่น่าสนใจดังกล่าว

โฆษกกองทัพอากาศ ยืนยันว่า เครื่องบินที่ตรวจพบ ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นเที่ยวบิน MH 370 แต่ลักษณะการบินตามที่เรดาร์จับได้ สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในข้อ 2 ซึ่งข้อมูลที่กองทัพอากาศได้ เป็นเพียงข้อมูลหนึ่งที่เห็นว่าน่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายได้ โดย ผบ.ทอ.ได้กล่าวว่า ควรจะได้นำไปตรวจสอบกับเรดาร์ของวิทยุการบิน และของมาเลเซียด้วย ทั้งนี้ ได้มอบข้อมูลให้ ทอ.มาเลเซียไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งถือเป็นความร่วมมือทางทหาร ระหว่างกันและเป็นสิ่งที่ทุกชาติควรร่วมมือกันเพื่อให้ค้นพบความจริงในเรื่องนี้

"เหตุที่ไม่ได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาแต่ต้น เพราะเส้นทางบินของเครื่องบินที่ปรากฏ ไม่มีความชัดเจน และไม่ได้บินผ่านพื้นที่ควบคุมการบินของไทย ไม่มีลักษณะที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย ถือเป็นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย ที่มีความสำคัญน้อย จึงมีการตรวจสอบย้อนหลัง ซึ่งต้องใช้เวลา และสรุปข้อมูลของฝ่ายเจ้าหน้าที่อย่างละเอียด ก่อนที่ ผบ.ทอ. ท่านจะส่งข้อมูลไปให้ ทอ. มาเลเซีย ไม่มีมีวาระซ่อนเร้นอะไร และไม่ได้ร่วมมือกับมาเลเซียในการปกปิดอะไรทั้งสิ้น" พล.อ.ท.มณฑลกล่าว

***เผยเรดาร์ไทยเจ๋งสุดในย่านนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวกลาโหมหลายแห่งได้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับระบบเรดาร์ที่ติดตั้งในภาคใต้ของไทยในภารกิจป้องกันประเทศ โดยเชื่อว่าข้อมูลที่ระบบเรดาร์ของไทยบันทึกเอาไว้จะช่วยไขความลี้ลับเกี่ยวกับเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200ER ลำที่สูญหายได้ เนื่องจากมีข่ายในการครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางที่สุด ละเอียดที่สุดในย่านนี้และยังประสานกันเป็นเสมือนตาสับปะรด ยากที่วัตถุบินต่างๆ จะเล็ดลอดไปได้

ทั้งนี้ เรดาร์ของไทยที่ติดตั้งใน 3 จุดทางตอนใต้ของประเทศ สามารถบันทึกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายตั้งแต่ต้นจนกระทั่งลับตาไป ซึ่งจะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับทิศทางบินของโบอิ้งลำนี้ได้ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการค้นหา แต่ปัญหาก็คือกองทัพไทยจะยินดีเปิดข้อมูลเรดาร์ที่กล่าวถึงนี้หรือไม่ เพราะว่าการเปิดเผยย่อมหมายถึงการเปิดตัวเองและค่อนข้างจะเป็นอันตรายต่อการป้องกันในอนาคต

***มาเลย์ขอไทยช่วยตามเครื่องบิน

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย ได้ขอความร่วมมือมายังรัฐบาลไทยใน 3 ประเด็น คือ 1.ขอข้อมูลดาวเทียมของวันที่ 8 มี.ค. ตามแนวเหนือและใต้ 2.ขอให้ไทยช่วยจัดทีมสนับสนุนค้นหาทั้งทางบก ทะเล และอากาศ พร้อมให้จัดทำแผนปฏิบัติการและรายงานประจำวันส่งไปให้มาเลเซีย และ 3.ขออนุญาตให้ทีมกู้ภัยจากนานาชาติผ่านแดนไทย โดยทั้งหมดตนได้เรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมแล้ว จากนี้ไปอยู่ในขั้นตอนการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

***ชาวเกาะมัลดีฟส์เห็นโบอิ้งบินผ่านระดับต่ำ

ไทม์สออฟอินเดีย อินเดียทูเดย์ รวมถึงสำนักข่าวเดอะสตาร์ของมาเลเซีย ระบุตรงกันว่า ชาวบ้านหลายคนบนเกาะคูดา ฮาวาดฮู ในดาลู อตอลล์ บอกตรงกันว่าพวกเขาเห็นเครื่องบินสีขาวแถบสีแดง บินอยู่เหนือเกาะในระดับต่ำถึงขั้นสามารถมองเห็นประตูเครื่องได้อย่างชัดเจน

พวกชาวเกาะอ้างว่า ชาวบ้านถูกรบกวนจากเสียงที่ดังสนั่นในเวลาประมาณ 18.15 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 8 มี.ค. และเห็นเครื่องบินลำหนึ่งกำลังมุ่งหน้าจากเหนือไปทางตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งหน้าไปยัง อัดดู แหลมทางใต้ของมัลดีฟส์

จุดที่กล่าวอ้างนั้น อยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียราว 3,200 กิโลเมตร และมันถูกพบเห็นหลายชั่วโมง หลังจากเที่ยวบิน MH370 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่งของจีน สูญหายไปในวันเดียวกัน

***"อันวา"รับแล้วกัปตันเป็นญาติ

สื่อต่างประเทศยังรายงานอีกว่า อันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย ที่ถูกตัดสินจำคุกข้อหา 5 ปี ฐานรักร่วมเพศ ที่ก่อนหน้านี้ ได้ปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักกัปตัน ซาฮารี อะหมัด ชาห์ แต่ในที่สุดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา อันวาร์ อิบรอฮิม ได้ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ชาห์เป็นญาติกับลูกเขย และยอมรับว่าได้พบกับชาห์หลายครั้งแล้ว

***ญาติผู้โดยสารหงุดหงิดบุกประท้วง

เอเอฟพีรายงานว่า ญาติของผู้โดยสารชาวจีนที่อยู่บนเครื่องบินโดยสารซึ่งสูญหายไปอย่างไม่มีร่องรอย พยายามบุกฝ่าผ่านประตูเข้าไปในห้องแถลงข่าวประจำวันที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดของทางการมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงบรรยากาศความหงุดหงิดผิดหวังที่การค้นหายังไร้ผล หลังจากที่ดำเนินมาเป็นเวลา 12 วันแล้ว

***มาเลย์เมินข่าวชาวเกาะเห็นโบอิ้ง

ฮิชามุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวว่า ผู้บัญชาการกองทัพอากาศมัลดีฟส์ได้แจ้งกับเขาแล้วว่ารายงานข่าวที่มีชาวบ้านเห็นเครื่องบินลำใหญ่เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ไม่เป็นความจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น