xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินมาเลย์ วัดสมรรถนะกองทัพจีน-มะกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำหรับกว่า 20 ประเทศที่เข้าร่วมการปฏิบัติการค้นพบเครื่องบินโดยสารของมาเลเซียที่หายไป ถ้าหากสามารถค้นพบโบอิ้ง 777ลำนี้ย่อมถือเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ดี ยิ่งสำหรับจีนกับสหรัฐฯด้วยแล้ว นี่ยังเป็นโอกาสซึ่งสองมหาอำนาจที่ชิงดีชิงเด่นกันในย่านแปซิฟิก จะได้แสดงศักยภาพในการปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมภายในภูมิภาคที่มีความขัดแย้งมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยครั้งนี้ มีนัยหลายอย่างต่อปักกิ่งที่กำลังปรับปรุงแสนยานุภาพทางทหารอย่างรวดเร็ว ควบคู่กับการท้าทายอย่างแข็งกร้าวต่อเหล่าเพื่อนบ้านที่มีข้อพิพาทด้านดินแดนกัน ขณะเดียวกันวอชิงตันก็ต้องการพิสูจน์ว่า ตนยังคงเป็นพี่ใหญ่สำหรับชาติพันธมิตรทั้งหมดที่กังวลกับการคุกคามของจีนต่อสถานะเดิมในเอเชีย-แปซิฟิก

แม้จนกระทั่งถึงเวลานี้ การปฏิบัติการยังคว้าน้ำเหลว แต่ทั้งสองประเทศต่างทุ่มเทเต็มที่และไม่ย่อท้อ

จีนนั้นถือว่ามีเดิมพันสูงสุดและกระโดดขึ้นเวทีรับบทบาทนำหน้าอย่างไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก กล่าวคือแทบจะทันทีหลังจากที่เที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์หายไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ปักกิ่งได้ส่งกองเรือกู้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ไปยังพื้นที่ค้นหาเบื้องต้นในทะเลจีนใต้

กองเรือจีนประกอบด้วยเรือรบ 4 ลำและเรือตรวจการณ์ของหน่วยยามฝั่งตลอดจนหน่วยงานพลเรือนอีก 5 ลำ พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินสอดแนมแบบปีกตรึง โดยในบรรดาเรือรบเหล่านั้น 2 ลำเป็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่ใหญ่ที่สุดและไฮเทคที่สุดของแดนมังกร ซึ่งมาพร้อมเฮลิคอปเตอร์และเรือเล็กจำนวนหนึ่งที่รวมถึงเรือโฮเวอร์คราฟต์ 4 ลำ

หนี่ เล่อเซียง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายในเซี่ยงไฮ้ชี้ว่า ด้านหนึ่งนั้นจีนเพียงทำหน้าที่ของตนร่วมกับประเทศอื่น แต่อีกด้านหนึ่ง ภารกิจนี้เป็นโอกาสในการประเมินความมุ่งมั่น ประสิทธิภาพ และความสามารถของกองทัพเรือจีนในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ที่ห่างไกลจากบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับอเมริกา

ด้านสหรัฐฯที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่กรณีมหาไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนถล่มฟิลิปปินส์ ซึ่งจีนแทบไม่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลยนั้น ก็สนองตอบรับมือเหตุการณ์ล่าสุดนี้อย่างรวดเร็วเช่นเดิม โดยภายในไม่กี่วัน กองทัพเรือแดนอินทรีส่งเรือพิฆาตสองลำเข้าสู่ทะเลจีนใต้

แม้อเมริกายังคงเป็นมหาอำนาจในแปซิฟิก แต่จีนกำลังช่วงชิงบทบาทนั้นในระดับลึก ถึงแม้ยอดงบประมาณทางทหารในแต่ละปีของแดนมังกรเวลานี้ยังคงห่างไกลหลายเท่าตัวจากของแดนอินทรี แต่ปักกิ่งก็เพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมขึ้นอย่างมากตลอดสองทศวรรษ และปีล่าสุดอยู่ในระดับ 131,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อยกระดับกองทัพสำหรับทั้งปฏิบัติการทางทหารและมนุษยธรรม

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งของจีน คือการขาดประสบการณ์ เนื่องจากไม่ได้ทำศึกใหญ่เลยนับจากสิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 1953 ผู้นำปักกิ่งจึงพยายามชดเชยด้วยสถานการณ์จำลองการฝึกที่สมจริงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการร่วมค้นหาทางทะเลและการฝึกกู้ภัยกับประเทศอื่น

เอเวอรี โกลสไตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของจีนจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า ทั่วโลกต่างยอมรับว่า อเมริกามีศักยภาพในการค้นหาและกู้ภัยที่ไม่มีใครเทียบ ขณะที่ความสามารถของจีนในส่วนนี้แม้ได้รับการปรับปรุงแต่ยังอยู่คนละชั้นกับอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิบัติการในพื้นที่ที่ห่างไกลจากประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น