รอยเตอร์ส - จีนตั้งงบประมาณกว่า 2 ล้านล้านหยวน เปลี่ยนแหล่งน้ำเสื่อมโทรมให้กลับมาใสสะอาด หวังบรรเทาวิกฤตขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัล (China Securities Journal) สื่อทางการจีน อ้างข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่า รัฐบาลกลางมีแผนใช้เงินราว 2 ล้านล้านหยวน หรือ 10 ล้านล้านบาท กับการแก้ไขปัญหามลพิษในแหล่งน้ำอันน้อยนิดทั่วประเทศ โดยมุ่งยกระดับคุณภาพน้ำเพิ่มขึ้น 30-50 เปอร์เซ็นต์ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ การบำบัดน้ำเน่าเสีย การรีไซเคิล และเทคโนโลยีเยื่อกรอง (membrane technology) เป็นต้น
“แหล่งน้ำใต้ดินในจีนเป็นมลพิษอันตราย เกือบทั้งหมดไม่สามารถนำมาดื่มกินได้” ตี๋ ชิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวกลางงานแถลงข่าว ณ กรุงปักกิ่ง ในสัปดาห์ก่อน โดยผลการสำรวจตัวอย่างจากแหล่งน้ำกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศในปี 2555 พบว่าร้อยละ 57.3 เป็นมลพิษขั้นรุนแรง
รัฐมนตรีช่วยฯ เสริมว่า แต่ละปีจีนมีการปล่อยซีโอดี (chemical oxygen demand: COD) อันเป็นค่าของปริมาณออกซิเจนที่ต้องการใช้ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอินทรีย์ที่อยู่ในน้ำ ราว 24 ล้านตัน และแอมโมเนียไนโตรเจนอีก 2.45 ล้านตันลงในน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของวิกฤตน้ำเน่าเสีย
จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า จีนต้องใช้เงินทั้งหมด 60,000 ล้านหยวน (ราว 3 แสนล้านบาท) กับการติดตั้งเครื่องมือบำบัดน้ำเสีย และอีกมากกว่า 10,000 ล้านหยวน (ราว 50,000 ล้านบาท) กับการดำเนินงานปรับปรุงประจำปี
ทั้งนี้ “จีน” ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก กลับมีแหล่งน้ำในอาณาเขตเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ และนับวันสถานการณ์ก็ยิ่งทวีความเลวร้าย โดยเฉพาะพื้นที่แห้งแล้งทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีปริมาณน้ำต่อหัวน้อยกว่าประเทศในตะวันออกกลางที่เป็นดินแดนทะเลทรายด้วยซ้ำไป
นอกจากนั้น ปัญหายังถูกซ้ำเติมด้วย ‘อุตสาหกรรมเหมืองแร่ถ่านหิน’ ที่ต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาลชะล้างฝุ่นผงและทำความสะอาดถ่านหินก่อนนำเข้าเตาเผา เพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ความพอเพียงในการอุปโภคบริโภคก็ยังเป็นประเด็นค้างคาต่อไป
