รอยเตอร์ - ภูเขาไฟคาปาร์ราสติเก (Chaparrastique) ทางภาคตะวันออกของเอลซัลวาดอร์ ยังพ่นเถ้าถ่านและแก๊สออกมาอย่างต่อเนื่องในวันจันทร์ (30) หลังเกิดระเบิดรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ (29) จนต้องอพยพชาวบ้านกว่า 1,600 คนไปยังที่พักพิงฉุกเฉิน แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆ
ภูเขาไฟคาปาร์ราสติเก ในจังหวัดซานมิเกล ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซันซัลวาดอร์ ไปทางตะวันออกราว 140 กิโลเมตร เกิดระเบิดรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ (29) พ่นเถ้าถ่านปกคลุมไร่กาแฟเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเอลซัลวาดอร์ ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดบนทวิตเตอร์ในวันจันทร์ (30) ว่า “ภูเขาไฟคาปาร์ราสติเก ยังคงพ่นแก๊สและฝุ่นผงเถ้าถ่านออกมา ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติตามหลังการระเบิด”
โดยรวมแล้ว มีชาวบ้านราว 1,635 คน ที่กระจายไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว 7 แห่งที่จัดตั้งขึ้นมา อย่างไรก็ตาม หน่วยฉุกเฉินบอกว่ายังมีประชาชนบางส่วนที่อยู่ตามไหล่ภูเขาไฟที่มีมีความสูง 7,025 ฟุต ปฏิเสธอพยพออกมา
นายเอดูอาร์โด เอสปิโนซ่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า มีชาวบ้านอย่างน้อย 2 คน มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอันเนื่องมาจากแก๊สกำมะถันที่ภูเขาไฟพ่นออกมา พร้อมกับวิงวอนประชาชนโดยรอบภูเขาไฟให้ละเว้นการดื่มน้ำจากแหล่งน้ำในท้องถิ่นเป็นอันขาดเพราะอาจเป็นอันตรายได้
รายงานข่าวระบุว่า สนามบินและสายการบินต่างๆ เผยว่ามีเที่ยวบินนานาชาติทั้งเขาเข้าและออก 63 เที่ยวต้องถูกระงับ สืบเนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้
เอลซัลวาดอร์ เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ถึง 23 ลูก ซึ่งคาปาร์ราสติเกก็ถือว่าเป็นหนึ่งในลูกที่มีพลังมากที่สุด ด้วยในรอบ 500 ปีที่ผ่านมา มันเคยเกิดระเบิดมาแล้ว 26 ครั้ง โดยในการระเบิดในปี 1976 ถึงขั้นที่มีลาวาทะลักออกจากภูเขาไฟลูกนี้ ขณะที่การระเบิดหนล่าสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2010
อนึ่ง เมืองซานมิเกล เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และคาดกันว่าเถ้าถ่านจากการปะทุของภูมิเขาไฟในครั้งนี้จะทำลายพื้นที่เพาะปลูกและจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกกาแฟของเอลซัลวาดอร์ในปีหน้าอีกด้วย