xs
xsm
sm
md
lg

เติบโต และ ปฏิรูป สองคำนิยามสำคัญของเศรษฐกิจจีนปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แรงงานอพยพในจีน - จีนเร่งเครื่องเศรษฐกิจจนกระทั่งมาถึงจุดที่ว่า หากปล่อยให้โตอย่างนี้ต่อไปโดยไม่มีการปฏิรูปแล้ว การเติบโตของจีนนับว่าสุ่มเสี่ยงและน่าเป็นห่วงยิ่งนัก นอกจากนั้นโอกาสจะพึ่งพาต่างประเทศที่ล้วนอ่อนแอทางเศรษฐกิจก็คงเป็นไปได้ยาก เข้าทำนองจีนอุ้มโลกได้ แต่โลกไม่อาจอุ้มจีนไหว ดังนั้นนับแต่ปีหน้าเป็นต้นไป จีนคงจะเข้าสู่การพัฒนาเติบโตอย่างมีความระมัดระวังและปฏิรูปเพื่อแก้รากเหง้าของปัญหา – ภาพเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์
เอเยนซี – นักเศรษฐศาสตร์จีน เฝ้าติดตามการเติบโตของจีนในปีหน้า ซึ่งต่างไปจากปีที่ผ่านๆ มา ด้วยเป็นปีแห่งการเริ่มต้นปฏิรูปสำคัญในนโยบายเศรษฐกิจการเงินหลายๆ ด้าน โดยต่างเชื่อว่า จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่หมักหมมมานานจากการก้มหน้าก้มตาพัฒนา จนสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตรอบด้าน อาทิ หนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น ปัญหาการผลิตล้นเกินจริง จนถึงการปรับกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานส่งออกมาเป็นฐานตลาดในประเทศแทน

ไชน่าเดลี่ รายงาน (24 ธ.ค.) ว่า แต่ละปีที่ผ่านพ้นไปของจีนนั้น คือก้าวย่างของการเติบโตและพัฒนา เช่นเดียวกับปี 2557 ที่กำลังจะมาถึงนี้เช่นกัน จัดเป็นวาระที่สำคัญยิ่ง อาจจะสำคัญกว่าก่อนๆ ด้วยซ้ำ เพราะเป็นปีแห่งการเดินหน้าพัฒนา และปฏิรูป ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่หลายฝ่ายต่างจับตาดูความสมดุลของสองเรื่องนี้ เพราะนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551นั้น ดูเหมือนว่าจีนจะมีแต่ให้ความสำคัญกับการเติบโตมากกว่าจะคิดปฏิรูปจริงจัง

จีนเร่งเครื่องเศรษฐกิจจนกระทั่งมาถึงจุดที่ว่า หากปล่อยให้โตอย่างนี้ต่อไปโดยไม่มีการปฏิรูปแล้ว การเติบโตของจีนนับว่าสุ่มเสี่ยงและน่าเป็นห่วงยิ่งนัก เพราะจีนเจอปัญหาของการพัฒนามาหมดแล้ว ทั้งกำลังผลิตล้นเกินของบรรดาอุตสาหกรรมหนัก การลงทุนมหาศาลซึ่งดูจะเป็นไปในแนวล้างผลาญมากกว่า นอกจากนั้นปริมาณหนี้ของบรรดารัฐบาลท้องถิ่นที่บานปลาย แถมโอกาสที่จะพึ่งพาต่างประเทศที่ล้วนอ่อนแอทางเศรษฐกิจก็เป็นไปได้ยาก เข้าทำนองจีนอุ้มโลกได้ แต่โลกไม่อาจอุ้มจีนไหว

จากประสบการณ์ของการเริ่มต้นพัฒนาในยุคต้นทศวรรษ 80 ที่ผ่านมา จีนได้ประจักษ์แล้วว่า การปฏิรูปคือหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การเติบโตที่ดี อาทิ สร้างประสิทธิภาพแรงงาน - ขจัดการผูกขาดของบรรดาบรรษัทยักษ์ - ส่งเสริมการแข่งขันทางการตลาด การเจริญเติบโต ดังนั้นวาระแห่งปี 2557 นี้จึงเป็นปีแห่งการเริ่มต้นปฏิรูปขนานใหญ่เพื่อการเติบโตที่ดีและยั่งยืนกว่าช่วง 30-40 ปีแรกๆ แน่นอน

บทบรรณาธิการของไชน่าเดลี่ ระบุว่า ในกระบวนการของการก้าวออกจากวิธีการพัฒนาอุตสาหกรรมแบบเดิมๆ ซึ่งส่วนใหญ่ถลุงเงินของประชาชนในการสร้างมลพิษของอุตสาหกรรมหนักคงต้องสิ้นสุดลง ขณะที่การพัฒนาเมือง ควบคู่ไปกับสร้างเครือข่ายการขนส่งระหว่างเมือง จะเป็นเครื่องมือใหม่สำหรับการเจริญเติบโต ซึ่งต่อไปนี้ ก็จะไม่ใช่เพียงการเติบโตโดยการชี้นำกำกับของรัฐบาลเพียงลำพัง แต่มีพื้นที่ให้ภาคเอกชนได้เข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมบริการต่างๆ โดยมีบทบาทตลาดเป็นผู้กำกับหลัก

ไชน่าเดลี ได้รวบรวมความคิดเห็นของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ว่าด้วยการเติบโตและการปฏิรูปของจีนในปีหน้า (2557) หลี่ เว่ย นักเศรษฐศาสตร์จาก แสตนดาร์ดชาร์เตอร์ ในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ จะมีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหากำลังผลิตล้นเกิน โดยจะปรับเปลี่ยนการผลิตรูปแบบเก่าที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเทคโนโลยีต่ำ เน้นแรงงาน มาเป็นสินค้าคุณภาพสูง ซึ่งยังมีตลาดกว้างใหญ่ทั้งในจีนและทั่วโลก แต่นวัตกรรมไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน การปฏิรูปทั้งระบบการพัฒนาสร้างสรรค์ และการศึกษาพัฒนาบุคลากรจึงจำเป็น

หลี่ กล่าวว่า หนี้เสีย กับ ปัญหาคนว่างงาน จะเป็นประเด็นใหญ่สำหรับการปิดกิจการ ล้มโครงการต่างๆ ซึ่งก่อหนี้มหาศาลของรัฐบาลท้องถิ่น จากหนี้เหล่านี้เอง ย่อมส่งผลต่อสถานะทางการเงินและฉุดรั้งการเติบโตของท้องถิ่น นำไปสู่การหักกลบลบล้างโดยวิธีปรับโซนและขายที่ดิน แต่หากรัฐบาลท้องถิ่นใดยังคิดจะเล่นแร่แปรธาตุด้วยวิธีเหล่านี้ ต่อไปนี้ก็คงต้องเผชิญกับนโยบายปฏิรูปฯ ที่ใช้แนวทางปรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและภาษีทรัพย์สิน แต่กระนั้น หลี่ เชื่อว่าปีหน้านี้ แม้ปัญหากำลังผลิตล้นเกินจะยังคงมีอยู่ เช่นเดียวกับหนี้ท้องถิ่นก็ยังคงเป็นปัญหาเพราะประสิทธิภาพของรัฐบาลท้องถิ่นยังคงอ่อนด้อย

ด้านนาย สี่ว์ ย่าซวน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ของไชน่า เมอร์ชั่น ซีเคียวริตีส์ กล่าวเชื่อมั่นว่า ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่นจะไม่น่ากลัวหรือขยายความรุนแรงจนเกิดความเสี่ยงวิกฤติในหลายปีข้างหน้านี้ ด้วยเหตุผลสามประการ คือ มันกลายเป็น 1 ใน 6 ประเด็นวาระสำคัญทางเศรษฐกิจของชาติไปแล้ว ประการที่สอง Organization Department of the Communist Party of China ซึ่งเป็นหน่วยงานพิจารณาความดีความชอบ คุณสมบัติและผลงานของบรรดาสมาชิกพรรคฯ ยังประกาศว่า ความก้าวหน้าทางอาชีพของผู้บริหารรัฐบาลท้องถิ่น จะขึ้นอยู่กับผลงานในการกำกับดูแลควบคุมไปจนถึงศักยภาพในการใช้หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นเหล่านั้นด้วย และประการที่สาม จำนวนหนี้มหาศาลของรัฐบาลท้องถิ่นที่กู้มาเท่าไหร่ ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในส่วนอื่นๆ ด้วยว่าเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ต่อไปนี้ จะไม่สนับสนุนกับการกู้ยืมอย่างที่เคยเป็นมาอีก

สำหรับอุตสาหกรรมส่งออกนั้น นายซู่ กั่ว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ จาก เอเวอร์ไบร์ท ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมส่งออก ยังคงมีบทบาทมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในปีหน้า โดยประมาณกันว่า การบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนภายในของปีหน้า จะยังคงอยู่ในระดับเดียวกับปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจตลาดยุโรปและสหรัฐฯ จะเริ่มฟื้นตัวได้ โดยความต้องการจากภายนอกเหล่านี้จะสามารถขยับจีดีพีจีนให้สูงขึ้นได้อย่างน้อยร้อยละ 0.3 ซึ่งทางเอเวอร์ไบร์ท ซีเคียวริตี้ส์ คาดการณ์ว่า จีดีพีของปีหน้า จีนจะอยู่ที่ร้อยละ 7.9 สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 7.6

อย่างไรก็ตาม หวัง เถา นักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส กล่าวว่า หลังจากปีหน้า ที่ต่างคาดกันว่าจีดีพีจีนจะยังอยู่ระหว่าง 7-8 นั้น ก็จะเริ่มลดลงไปอยู่ที่ 6-7 ใน 5 ปีถัดจากปีหน้า อันเป็นการปรับลดลงในเชิงสร้างสรรค์ด้วยเหตุผลหลายประการ อย่างแรกคือ แน่นอนว่า จีดีพีของจีน จะยังคงมากขึ้นกว่า 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อที่ร้อยละ 3-3.5) นั่นคือค่าเงินจะเพิ่มขึ้นกว่า 10 ปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจจีนในอดีต ที่จีดีพีเติบโตที่ 17-18 ร้อยละต่อปี นอกจากนั้น จีนยังคงมีบทบาทสำคัญของเศรษฐกิจทั่วโลก และการเติบโตของจีนระหว่างการปฏิรูปจะช้าลง แต่มีความสมดุลมากขึ้นและการเติบโตอย่างยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น