xs
xsm
sm
md
lg

หวนกงเห็นภูตผี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพ:ไต้จิ้น /戴进  (ค.ศ.1388-1462)
ขณะหวนกง ออกล่าสัตว์ในบริเวณหนองน้ำโดยมีก่วนจ้ง เป็นสารถีขับรถม้า เมื่อเขาเห็นภูตผีเข้า ก็ฉวยกุมมือของก่วนจ้งไว้ทันที และพูดว่า “จ้งฝู่ ท่านเห็นอะไรหรือไม่?”

“ข้าไม่เห็นอะไรเลย” ก่วนจ้งตอบ

เมื่อหวนกงกลับถึงเรือน ก็ล้มป่วยหมดสติจับไข้ไม่ออกไปไหนเลยเป็นเวลาหลายวัน หวงจื่อเก้าเอ๋าปราชญ์แห่งแคว้นฉีมาเยี่ยมและกล่าวว่า “ท่านไฉนทำให้ตัวเองล้มป่วยไปเช่นนี้ ภูตผีมีพลังทำร้ายท่านถึงเพียงนี้เชียวหรือ เมื่อพลังปราณภายในตัวมนุษย์แตกซ่านและไม่อาจฟื้นคืนมา ก็จะรู้สึกอ่อนเปลี้ย หากพลังปราณไหลขึ้นและไม่ไหลกลับลงมา ก็จะรู้สึกร้อนรุ่มหงุดหงิด หากพลังปราณไหลลงและไม่อาจกลับขึ้นมา ก็จะทำให้หลงลืมฟั่นเฟือน เมื่อพลังปราณไม่อาจทั้งไหลขึ้นหรือไหลลงมา แต่กลับกระจุกอัดอั้นอยู่ภายในใจ ก็จะล้มป่วย”

หวนกงถามขึ้นว่า “ภูตผีมีจริงหรือไม่?”

“มีสิ ในกองไฟมีหลี่ว์ ในเตามีจี้ ในกองขยะปฏิกูลมีเหลยถิง ณ เบื้องตะวันออกเฉียงเหนือมีเป้ยอาและกุยหลง และ ณ เบื้องตะวันตกเฉียงเหนือก็มีอี้หยัง ในห้วงน้ำมีหวั่งเซี่ยง บนเนินเขาก็มีซิน ในเทือกเขามีขุย ในทุ่งกว้างมีฝังหวง และในหนองน้ำก็ยังมีเวยอี๋”

หวนกงถามอีกว่า “ข้าขอถามว่าเวยอี๋มีหน้าตาเยี่ยงไร?”

หวงจื่อตอบว่า “เวยอี๋มีขนาดราวดุมล้อ สูงเท่าเพลา สวมอาภรณ์สีม่วงและหมวกสีแดงสด ดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก เมื่อมันได้ยินเสียงฟ้าผ่าหรือเสียงรถม้า ก็จะกุมศีรษะและทะลึ่งยืนขึ้น ผู้คนที่พบเห็นจะได้เป็นเจ้าแคว้นผู้ทรงอำนาจเด็ดขาด”

หวนกงเงยหน้าขึ้น พลางหัวเราะร่า “นั่นต้องเป็นตัวที่ข้าพบเห็นแน่ๆ!” จากนั้นก็ลุกขึ้นจัดแต่งอาภรณ์หมวกยศ นั่งลงบนเสื่อสนทนากับหวงจื่อ เวลาผ่านไปจนพลบค่ำโดยที่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าอาการป่วยไข้ของตนได้ปลาสนาการไปสิ้น

แปลเรียบเรียงตัดตอนจากหนังสือจวงจื่อ(庄子)
กำลังโหลดความคิดเห็น