xs
xsm
sm
md
lg

นักโทษคนสำคัญแดนมังกร เตือนผู้นำใคร่ครวญบทเรียนเหตุนองเลือดเทียนอันเหมิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเปา ถงเมื่อครั้งให้สัมภาษณ์ที่บ้านในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ปีพ.ศ. 2552 - เอเจนซี่
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์- นักโทษ อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ถูกตัดสินจำคุกจากคดีเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยนองเลือดที่จตุรัสเทียนอันเหมินได้เตือนสติคณะผู้นำแดนมังกรรุ่นลูก อย่าใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างเด็ดขาด หากปรารถนาจะเห็นจีนก้าวไปข้างหน้า

นายเปา ถง อดีตหัวหน้าผู้ช่วยของนายจ้าว จื่อหยาง ซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีนักปฏิวัติ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ชาวจีนทุกคน รวมทั้งพวกผู้นำสูงสุดในปัจจุบัน ควรหยุดปกป้องและควรหันหลังให้อย่างเด็ดขาดกับการปฏิวัติวัฒนธรรม ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของประธานเหมา เจ๋อตง และการปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2532 ซึ่งทำให้ประชาชนล้มตายไปหลายร้อยคน หรืออาจเป็นจำนวนหลายพันคน และถือเป็นสัญลักษณ์ของอดีตผู้นำสูงสุดเติ้ง เสี่ยวผิง ที่ตกทอดมาถึงทุกวันนี้

“ผมคิดว่า ชาวจีนทุกคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือชาวบ้านธรรมดา พวกที่ถูกกลั่นแกล้ง หรือได้รับประโยชน์ (จากเหตุการณ์ปราบปราม) ควรนำเรื่องนี้มาพิจารณาไตร่ตรองให้ดี” เขากล่าว

“ (บางคนพูดว่า) แบบอย่างของจีนเราเป็นสิ่งดีเลิศที่สุดในจักรวาล และสัจธรรมของเราคือสัจธรรมของจักรวาล” นายเปากล่าว

แต่ “ถ้าไม่ปฏิเสธเหมา เจ๋อตง และเติ้ง เสี่ยวผิงแล้ว ความเจริญก้าวหน้าของจีนย่อมเป็นไปไม่ได้”

ผู้เฒ่าเปา วัย 81 ปีถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และถูกสั่งจำคุกต่ออีก 1 ปี ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อปีพ.ศ. 2540 แต่ก็ยังคงถูกควบคุมอยู่แต่ภายในบ้านมาจนถึงปัจจุบัน

นักโทษชรายังกล่าวชื่นชมประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ให้ความสำคัญกับการปกครองประเทศ โดยอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ แต่เขาจะรู้สึกผิดหวัง “หากสิ่งนี้เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น”

“ผมหวังว่า ลูกชายของสี จงซวิ่นจะทำได้ดี มิเช่นนั้นผมจะผิดหวังอย่างมาก” เขากล่าว โดยนายสี จงซวิ่น นักปฏิวัติและผู้นำอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสมัยเดียวกับท่านประธานเหมา เจ๋อตง เป็นบุคคล ที่นายเปายกย่องเสมอมา

เขายังเตือนด้วยว่า การปิดปากผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาลรังแต่จะก่อผลเสียหายร้ายแรงตามมา

“ถึงคุณจะปิดปากประชาชนหนึ่งร้อยคน ก็ยังมีปากอีกเป็นร้อย เป็นพัน และเป็นหมื่น ๆ ปาก ที่กำลังพูดอยู่”

“ แต่ถ้าพวกเขาปิดปากประชาชน 1,300 ล้านคนละก้อ มันน่าตกใจทีเดียว” นายเปาให้ข้อคิด

ในตอนที่รัฐบาลจีนใช้กำลังทหารและรถถังบดขยี้ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งนำโดยนักศึกษาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนนั้น นายเปาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานปฏิรูปการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ต่อมาในปีพ.ศ. 2535 นายเปาถูกศาลกล่าวหาว่า “แพร่งพรายความลับของรัฐ” และ“ปลุกระดมให้มีการต่อต้านการปฏิวัติ” ในระหว่างมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชน แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า ในรายงานของทางการครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2532 นั้นได้กล่าวหานายเปาว่า เป็นคนบอกคณะทำงานของเขาเองว่าจะมีการประกาศกฎอัยการศึก ก่อนจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ
แต่ในการฟ้องดำเนินคดี ซึ่งมีขึ้นในปีพ.ศ. 2535 กลับกล่าวหาเขาว่า เป็นคนบอกให้คณะทำงานทราบว่า นายจ้าว จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายเปายืนกรานว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริง แต่ศาลก็ยังคงพิพากษาว่า เขากระทำผิดอยู่ดี

นายเปากล่าวว่า เขามิได้รู้สึกเสียใจในโชคชะตา เพียงแต่รู้สึกสลดใจที่ผู้คนในประเทศได้ถูกริดรอนเสรีภาพในการพูดมานานถึงกว่า 2 ทศวรรษแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น