เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ศาลแผ่นดินใหญ่พิพากษาคดีเก่าเก็บกรุสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรม ( 2509-2519) โดยตัดสินจำคุกชายชราผู้หนึ่ง โทษฐานฆ่าผู้อื่นตาย การไต่สวนคดีนี้ทำให้ผู้คนในสังคมพากันควันออกหู ที่ศาลสถิตยุติธรรมดูเหมือนเลือกปฏิบัติ
นาย ชิว รื่อเหริน วัยอยู่ในช่วง 80 ปี ถูกศาลเมืองรุ่ยอัน มณฑลเจ้อเจียงตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่งเมื่อวันศุกร์ (29 มี.ค.) โดยสำนักข่าวไชน่านิวส์เซอร์วิส ของทางการรายงานว่า ผู้เฒ่ารายนี้เคยอยู่ในกลุ่มติดอาวุธเมื่อครั้งการปฏิวัติวัฒนธรรม และได้ฆ่านายแพทย์ผู้หนึ่ง ซึ่งเข้าใจกันว่า เป็นสายลับเมื่อปี 2510 ด้วยการบีบคอ จนตาย จากนั้น ได้ตัดขาทั้งสองข้าง แล้วนำศพไปฝัง
ปู่ชิวถูกจับตัวได้เมื่อเดือนก.ค. 2555 แต่ไม่มีการให้รายละเอียดชัดเจนว่า เหตุใดคดีฆาตกรรมรายนี้จึงถูกตามเช็กบิล ราวกับภาพยนตร์ทะลุมิติ ทั้งที่เหตุการณ์ผ่านมาเนิ่นนานหลายสิบปี หลังจากสิ้นสุดยุคแห่งความโหดเหี้ยมโกลาหลจากการปฏิวัติวัฒนธรรม ขณะที่รัฐบาลจีนเองก็ได้ผ่านเลยมันไปแล้ว โดยมิได้มีการเปิดเผยข้อมูลทางประวัติศาสตร์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
บรรดาผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บนแผ่นดินใหญ่พากันวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่ศาลเริ่มเปิดการไต่สวนเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา โดยชี้ว่า เหตุใดพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเป็นผู้ยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดกลียุคขึ้นทั้งด้านสังคมและการเมือง จึงไม่ถูกความยุติธรรมชำระบัญชีบ้าง
เหมา เจ๋อตง ผู้นำในยุคนั้นเองก็ปลุกเร้าให้สามัญชนคนธรรมดาลุกฮือต่อสู้กับพวกอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนำไปสู่การทำร้ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง พวกปัญญาชนและคนพวกอื่น ๆ
เพื่อนบ้านและคนในตระกูลเดียวกันก็หันมาห้ำหั่นกันเอง ฝ่ายพวกคนรุ่นหนุ่มสาวได้จัดตั้งหน่วย “เรดการ์ด” เข้าก่อเหตุรุนแรงลุกลามทั่วแผ่นดิน และย่ำยีทำลายมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้ทางการจีนไม่เคยที่จะประเมินยอดผู้เสียชีวิตระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรมให้สาธารณชนรับรู้ แต่นายโรเดอริก แม็คฟาร์กูฮาร์ นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษคาดว่า น่าจะมีผู้คนล้มตายมากมายถึงครึ่งล้านคนในปี 2510 นั้นทีเดียว