เอเยนซี- การจัดอันดับเศรษฐีจีน 500 คน ได้ดำเนินต่อเนื่องมา 11 ปีแล้ว ปรากฏการณ์ของบุคคลเหล่านี้สามารถสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคม และแนวโน้มเศรษฐกิจจีน สำหรับปีนี้นิตยสารฟอร์จูนได้เผยโผเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 พ.ค. 56) จงชิ่งโฮ่วขึ้นแท่นครองแชมป์ด้วยทรัพย์สิน 70,000 ล้านหยวน แซงหน้า หวาง เจี้ยนหลิน แชมป์เก่าปีที่แล้วด้วยจำนวนเงินถึง 20,000 ล้านหยวน ในขณะที่ ข่ง ตงเหมย หลานสาวท่านประธานเหมา เจ๋อตง ติดโผผู้มั่งคั่งจีนในอันดับที่ 242

เมื่อเทียบจากสถิติในอดีตจะพบว่า จำนวนทรัพย์สินของเศรษฐีจีนทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 300,000 ล้านหยวน จำนวนของเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินระหว่าง 30,000-50,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2 เท่า จำนวนของเศรษฐีผู้มีทรัพย์สิน 10,000 ล้านหยวนขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 68 คน ไม่เพียงเท่านี้ เกณฑ์การตัดสินความเป็นเศรษฐีจีนยังเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ล้านหยวน ในขณะที่เศรษฐีขั้นต่ำซึ่งมีทรัพย์สินจำนวน 3 พันล้านหยวนในปีนี้นั้น สามารถขึ้นแท่นสิบอันดับมหาเศรษฐีได้อย่างฉลิว หากพวกเขามีชีวิตย้อนหลังไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้ ได้แง่หนึ่งอาจเป็นเรื่องน่ายินดีกับความสำเร็จของทฤษฎี ‘เติ้งเสี่ยวผิง’ ที่ปฏิรูปเปิดประเทศ กระทั่งสร้างจีนให้เป็น ‘โรงงานโลก’ เป็นประเทศที่นำเข้าอันดับหนึ่งของโลก ส่งออกเป็นอันดับสองของโลก มีมูลค่าทางการผลิตสูงเป็นอันดับสองของโลก และมีเงินทุนสำรองมากที่สุดในโลก ทว่าในอีกแง่หนึ่งความเหลื่อมล้ำก็ยังเป็นปัญหาทิ่มใจชนส่วนใหญ่ของชาติ ดังรายงานจัดระดับความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ พบว่าตัวเลขสัมประสิทธิ์จีนี่ (Gini coefficient) ของจีนในปี 2012 อยู่ที่ 0.474 ลดลงจาก 12 ปีที่แล้วเพียง 0.017 โดยดัชนีชี้วัดอยู่ระหว่าง 0-1 (0 คือค่าความเท่าเทียมกันสมบูรณ์ 1 คือความไม่เท่าเทียมกันสมบูรณ์) โดยเฉพาะประเด็นปัญหาราคาบ้านที่เพิ่มสูงกระฉูด แม้ว่ารัฐบาลจะออกนโยบายควบคุมก็ตาม ในขณะที่เจ้าพ่อ เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์กลับไต่อันดับความเป็นเศรษฐีขึ้นเรื่อยๆ
อันดับที่ 1 จง ชิ่งโฮ่ว (宗庆后) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘อุปโภคบริโภค’

จง ชิ่งโฮ่ว อายุ 68 ปี เกิดที่เมืองซู่เชียน มณฑลเจียงซู ผู้ก่อตั้งและประธานของหังโจวหวาฮาฮากรุ๊ปบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง จากการเปิดเผยทางสถิติผลประกอบการในปีนี้ บริษัทเครื่องดื่มหวาฮาฮาทำรายได้ถึง 63,631 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 6.23% ทำกำไรถึง 10, 110 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 18.19% นอกจากนี้ ยังมีบริษัทในเครือกว่า 160 แห่ง ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่ม เสื้อผ้าเด็ก ห้างสรรพสินค้าวาโอ (娃欧商场หรือ WAOW PLAZA) อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ส่งผลให้แชมป์ผู้มั่งคั่งสุดของแดนมังกร มีทรัพย์สินกว่า 70,000 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 2,000 ล้านหยวน
อันดับ 2 หวาง เจี้ยนหลิน (王健林) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘อสังหาริมทรัพย์’

หวาง เจี้ยนหลิน อายุ 58 ปี เกิดที่เมือง มณฑลซื่อชวน เมืองโตวเจียงเยี่ยน ประธานและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ต้าเหลียน วั่นต๋ากรุ๊ป มหานครเป่ยจิง ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานในนาม ‘จตุรัสวั่นต๋า’ (万达广场) ไปแล้วกว่า 60 แห่ง ทั้งยังประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในการเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงด้วยการประกาศซื้อกิจการโรงภาพยนตร์ในเครือของ AMC Entertainment ของสหรัฐฯ จำนวน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว ส่งผลให้เขามีทรัพย์สินกว่า 54,000 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 8,000 ล้านหยวน ร่วงลงจากปีที่แล้ว 1 อันดับ
อันดับ 3 หลิว หย่งสิง (刘永行) เจ้าพ่อ อันดับหนึ่ง‘ค้าขายทั่วไป

หลิว หย่งสิง อายุ 65 ปี เกิดที่เมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน ผู้ก่อตั้งบริษัท ตงฟางซีว่างกรุ๊ป แห่งมหานครซ่างไห่ ซึ่งเป็นเครือเดียวกับอีก 3 บริษัทพี่น้องของเขา คือ ต้าลู่ซีว่างกรุ๊ป (大陆希望集团) ฮวาซีซีว่างกรุ๊ป (华西希望集团) และซินซีว่างกรุ๊ป (新希望集团) เริ่มต้นด้วยอุตสาหกรรมหนักประเภทอะลูมิเนียม เมทานอลอีเทอร์ อะลูมินา เทอร์โม PTA PVC กรดอะซิติกซีเมน ฯลฯ กระทั่งขยายขอบเขตไปยังโรงงานอาหารสัตว์ 101 แห่ง และบริษัทลูกเกี่ยวกับธุรกิจทางชีวภาพที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือหุ้นในหลายกิจการ เช่น ธนาคารหมินเซิง ธนาคารกวงต้า บริษัทนมกวงหมิง อีกด้วย ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 42,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2, 000 ล้านหยวน ไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 4 หม่า ฮว่าเถิง (马化腾) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘เทคโนโลยีอิเลกโทรนิกและกิจการเผยแพร่วัฒนธรรม’

หม่า ฮว่าเถิง อายุ 42 ปี เกิดที่เมืองฉาวโจว มณฑลก่วงตง บริษัทให้บริการทางอินเทอร์เน็ตเถิงซุ่น (腾讯) หรือ qq.com แห่งเซินเจิ้น ที่มีผู้ใช้บริการถึง 300 ล้านคน ทำรายได้มากกว่า 30 ล้านหยวนต่อวัน ปีที่แล้วทำกำไรถึง 12,332 ล้านหยวน ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 40,510 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 15,100 ล้านหยวน และ ไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 8 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 5 หร่าน เหวิ่นเกิน (梁稳根 ) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า’

หร่าน เหวิ่นเกิน อายุ 57 ปี เกิดที่เมืองเหลียนหยวน มณฑลหูหนาน เจ้าของบริษัทซานอีกรุ๊ปแห่งมหานครเป่ยจิง (ปักกิ่ง) ผู้ผลิตเครื่องจักรผสมปูนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้มีการขยายกิจการไปยังประเทศเยอรมนี สหรัฐฯ บราซิล อินเดีย และอินโดนีเซีย เมื่อเดือน ม.ค.ปีที่แล้วเพิ่งซื้อกิจการบริษัท Putzmeister ของเยอรมนี เพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปโซนยุโรป ทว่า เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 38,000 ล้านหยวน ลดลงจากปีที่แล้ว 4,000 ล้านหยวน ร่วงลงจากอันดับที่ 2 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 6 สู่ จยาอวิ่น (许家印) เจ้าพ่ออันดับสอง ‘ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์’

สู่ จยาอวิ่น อายุ 55 ปี เกิดที่เมืองหวู่ฮั่น มณฑลเหอหนาน ผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหิงต๋า (恒大地产) แห่งก่วงโจว เมื่อต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2553 เขาใช้การลดต้นทุน เอากำไรน้อย เป็นกลยุทธ์ในการคว้าชัยชนะ มูลค่าสัญญาซื้อขายสูงถึง 92,320 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 14.8% ระยะหลังมานี้เหิงต๋าเริ่มขยายกิจการครอบคลุมไปถึงด้านการกีฬา เช่น สมาคมสน้กเกอร์ ฟุตบอลคลับ โรงเรียนฝึกสอนฟุตบอล ฯลฯ ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 35,150 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 8,500 ล้านหยวน และไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 7 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 7 หลี่ แหยนหง (李彦宏) เจ้าพ่ออันดับสอง ‘เทคโนโลยีอิเลกโทรนิกและกิจการเผยแพร่วัฒนธรรม’

หลี่ แหยนหง อายุ 45 ปี เกิดทั่เมืองหยางฉวน มณฑลซานซี หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทป๋ายตู้ google เชื้อสายจีน หรือเวบไซต์ค้นหาข้อมูลภาษาจีนที่ใหญ่สุดในโลก แห่งมหานครเป่ยจิง (ปักกิ่ง) หลังจากทำรายได้งดงามอย่างต่อเนื่อง ป๋ายตู้ก็เริ่มกว้านซื้อเวบไซต์อื่นๆ เช่น hao123 เวบไซต์ฟังและดาวโหลดเพลงเชียนเชียนจิ้งทิง ฯลฯ ในปีนี้เพิ่งก่อตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยระดับลึก (The Institute of Deep Learning) ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลให้ทรัพย์สินเหลือ 34,900 ล้านหยวน ลดจากปีที่แล้ว 6,000 ล้านหยวน และร่วงลงมาจากอันดับที่ 3 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 8 หยาง ฮุ่ย (杨惠妍) ทายาท‘อสังหาริมทรัพย์’

หยาง ฮุ่ย อายุ 31 ปี เกิดที่เมืองโฝชาน มณฑลก่วงตง สืบทอดกิจการอสังหาริมทรัพย์ต่อจากผู้เป็นพ่อ เธอเริ่มไต่เต้าจากผู้จัดการแผนกจัดซื้อในปี 2005 เลื่อนเป็นผู้อำนวยการในปี 2006 และขึ้นเป็นรองประธานบริษัทปี้กุ้ยหยวน เมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้เธอมีทรัพย์สิน 32,980 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 10,400 ล้านหยวน ครองอันดับที่ 8 เช่นเดียวกับปีที่แล้ว
อันดับ 9 สู่ หรงเม่า (许荣茂) เจ้าพ่ออันดับ 4 ‘อสังหาริมทรัพย์’

สู่ หรงเม่า อายุ 64 ปี เกิดที่ เมืองฉือชือ มณฑลฝูเจียน เจ้าของบริษัทซื่อเม่ากรุ๊ป แห่งมหานครซ่างไห่ เมื่อต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2553 เขาใช้การสร้างที่พักอาศัยแบบครบวงจร ขยายกิจการไปยังอาคารสำนักงาน ที่พักสำหรับท่องเที่ยว ตลอดจนการเปิดตลาดใหม่ในเมืองชั้นสอง และชั้นสาม เป็นกลยุทธ์ลดความเสี่ยงของผลกำไร ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 32, 800 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 8,000 ล้านหยวน และไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 14 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 10 จาง ซื่อผิง (张士平) เจ้าพ่ออันดับสอง ‘ค้าขายทั่วไป’

จาง ซื่อผิง อายุ 67 ปี เกิดที่เมืองปิงโจว มณฑลซานตง เจ้าของบริษัทเว่ยเฉียวช่วงเย่ กิจการทอผ้าฝ้ายที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายหลังได้ขยายกิจการไปยังธุรกิจอลูมิเนียมและกระจก ส่วนบริษัทจงกั๋วหงเฉียว (中国宏桥) ก็เป็นแหล่งผลิตอลูมิเนียมที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน ผลิตได้มากถึง 20,160 ล้านตัน มากกว่าปีที่แล้ว 13.5% อย่างไรก็ดี แม้ว่าทรัพย์สินของเขาจะเพิ่มเป็น 30,000 ล้านหยวน มากกว่าปีที่แล้ว 1,000 ล้านหยวน แต่เนื่องจากเศรษฐีท่านอื่นกอบโกยรายได้แซงหน้าไปหลายโค้ง ส่งผลให้เขาร่วงลงมาจากอันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว
เมื่อเทียบจากสถิติในอดีตจะพบว่า จำนวนทรัพย์สินของเศรษฐีจีนทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 300,000 ล้านหยวน จำนวนของเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินระหว่าง 30,000-50,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2 เท่า จำนวนของเศรษฐีผู้มีทรัพย์สิน 10,000 ล้านหยวนขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 68 คน ไม่เพียงเท่านี้ เกณฑ์การตัดสินความเป็นเศรษฐีจีนยังเพิ่มขึ้นอีก 1,000 ล้านหยวน ในขณะที่เศรษฐีขั้นต่ำซึ่งมีทรัพย์สินจำนวน 3 พันล้านหยวนในปีนี้นั้น สามารถขึ้นแท่นสิบอันดับมหาเศรษฐีได้อย่างฉลิว หากพวกเขามีชีวิตย้อนหลังไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้ ได้แง่หนึ่งอาจเป็นเรื่องน่ายินดีกับความสำเร็จของทฤษฎี ‘เติ้งเสี่ยวผิง’ ที่ปฏิรูปเปิดประเทศ กระทั่งสร้างจีนให้เป็น ‘โรงงานโลก’ เป็นประเทศที่นำเข้าอันดับหนึ่งของโลก ส่งออกเป็นอันดับสองของโลก มีมูลค่าทางการผลิตสูงเป็นอันดับสองของโลก และมีเงินทุนสำรองมากที่สุดในโลก ทว่าในอีกแง่หนึ่งความเหลื่อมล้ำก็ยังเป็นปัญหาทิ่มใจชนส่วนใหญ่ของชาติ ดังรายงานจัดระดับความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ พบว่าตัวเลขสัมประสิทธิ์จีนี่ (Gini coefficient) ของจีนในปี 2012 อยู่ที่ 0.474 ลดลงจาก 12 ปีที่แล้วเพียง 0.017 โดยดัชนีชี้วัดอยู่ระหว่าง 0-1 (0 คือค่าความเท่าเทียมกันสมบูรณ์ 1 คือความไม่เท่าเทียมกันสมบูรณ์) โดยเฉพาะประเด็นปัญหาราคาบ้านที่เพิ่มสูงกระฉูด แม้ว่ารัฐบาลจะออกนโยบายควบคุมก็ตาม ในขณะที่เจ้าพ่อ เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์กลับไต่อันดับความเป็นเศรษฐีขึ้นเรื่อยๆ
อันดับที่ 1 จง ชิ่งโฮ่ว (宗庆后) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘อุปโภคบริโภค’
จง ชิ่งโฮ่ว อายุ 68 ปี เกิดที่เมืองซู่เชียน มณฑลเจียงซู ผู้ก่อตั้งและประธานของหังโจวหวาฮาฮากรุ๊ปบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง จากการเปิดเผยทางสถิติผลประกอบการในปีนี้ บริษัทเครื่องดื่มหวาฮาฮาทำรายได้ถึง 63,631 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 6.23% ทำกำไรถึง 10, 110 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 18.19% นอกจากนี้ ยังมีบริษัทในเครือกว่า 160 แห่ง ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่ม เสื้อผ้าเด็ก ห้างสรรพสินค้าวาโอ (娃欧商场หรือ WAOW PLAZA) อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ส่งผลให้แชมป์ผู้มั่งคั่งสุดของแดนมังกร มีทรัพย์สินกว่า 70,000 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 2,000 ล้านหยวน
อันดับ 2 หวาง เจี้ยนหลิน (王健林) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘อสังหาริมทรัพย์’
หวาง เจี้ยนหลิน อายุ 58 ปี เกิดที่เมือง มณฑลซื่อชวน เมืองโตวเจียงเยี่ยน ประธานและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ต้าเหลียน วั่นต๋ากรุ๊ป มหานครเป่ยจิง ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงานในนาม ‘จตุรัสวั่นต๋า’ (万达广场) ไปแล้วกว่า 60 แห่ง ทั้งยังประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในการเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงด้วยการประกาศซื้อกิจการโรงภาพยนตร์ในเครือของ AMC Entertainment ของสหรัฐฯ จำนวน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว ส่งผลให้เขามีทรัพย์สินกว่า 54,000 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 8,000 ล้านหยวน ร่วงลงจากปีที่แล้ว 1 อันดับ
อันดับ 3 หลิว หย่งสิง (刘永行) เจ้าพ่อ อันดับหนึ่ง‘ค้าขายทั่วไป
หลิว หย่งสิง อายุ 65 ปี เกิดที่เมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน ผู้ก่อตั้งบริษัท ตงฟางซีว่างกรุ๊ป แห่งมหานครซ่างไห่ ซึ่งเป็นเครือเดียวกับอีก 3 บริษัทพี่น้องของเขา คือ ต้าลู่ซีว่างกรุ๊ป (大陆希望集团) ฮวาซีซีว่างกรุ๊ป (华西希望集团) และซินซีว่างกรุ๊ป (新希望集团) เริ่มต้นด้วยอุตสาหกรรมหนักประเภทอะลูมิเนียม เมทานอลอีเทอร์ อะลูมินา เทอร์โม PTA PVC กรดอะซิติกซีเมน ฯลฯ กระทั่งขยายขอบเขตไปยังโรงงานอาหารสัตว์ 101 แห่ง และบริษัทลูกเกี่ยวกับธุรกิจทางชีวภาพที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือหุ้นในหลายกิจการ เช่น ธนาคารหมินเซิง ธนาคารกวงต้า บริษัทนมกวงหมิง อีกด้วย ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 42,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2, 000 ล้านหยวน ไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 4 หม่า ฮว่าเถิง (马化腾) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘เทคโนโลยีอิเลกโทรนิกและกิจการเผยแพร่วัฒนธรรม’
หม่า ฮว่าเถิง อายุ 42 ปี เกิดที่เมืองฉาวโจว มณฑลก่วงตง บริษัทให้บริการทางอินเทอร์เน็ตเถิงซุ่น (腾讯) หรือ qq.com แห่งเซินเจิ้น ที่มีผู้ใช้บริการถึง 300 ล้านคน ทำรายได้มากกว่า 30 ล้านหยวนต่อวัน ปีที่แล้วทำกำไรถึง 12,332 ล้านหยวน ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 40,510 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 15,100 ล้านหยวน และ ไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 8 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 5 หร่าน เหวิ่นเกิน (梁稳根 ) เจ้าพ่ออันดับหนึ่ง ‘เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า’
หร่าน เหวิ่นเกิน อายุ 57 ปี เกิดที่เมืองเหลียนหยวน มณฑลหูหนาน เจ้าของบริษัทซานอีกรุ๊ปแห่งมหานครเป่ยจิง (ปักกิ่ง) ผู้ผลิตเครื่องจักรผสมปูนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้มีการขยายกิจการไปยังประเทศเยอรมนี สหรัฐฯ บราซิล อินเดีย และอินโดนีเซีย เมื่อเดือน ม.ค.ปีที่แล้วเพิ่งซื้อกิจการบริษัท Putzmeister ของเยอรมนี เพื่อเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปโซนยุโรป ทว่า เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 38,000 ล้านหยวน ลดลงจากปีที่แล้ว 4,000 ล้านหยวน ร่วงลงจากอันดับที่ 2 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 6 สู่ จยาอวิ่น (许家印) เจ้าพ่ออันดับสอง ‘ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์’
สู่ จยาอวิ่น อายุ 55 ปี เกิดที่เมืองหวู่ฮั่น มณฑลเหอหนาน ผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหิงต๋า (恒大地产) แห่งก่วงโจว เมื่อต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2553 เขาใช้การลดต้นทุน เอากำไรน้อย เป็นกลยุทธ์ในการคว้าชัยชนะ มูลค่าสัญญาซื้อขายสูงถึง 92,320 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 14.8% ระยะหลังมานี้เหิงต๋าเริ่มขยายกิจการครอบคลุมไปถึงด้านการกีฬา เช่น สมาคมสน้กเกอร์ ฟุตบอลคลับ โรงเรียนฝึกสอนฟุตบอล ฯลฯ ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 35,150 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 8,500 ล้านหยวน และไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 7 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 7 หลี่ แหยนหง (李彦宏) เจ้าพ่ออันดับสอง ‘เทคโนโลยีอิเลกโทรนิกและกิจการเผยแพร่วัฒนธรรม’
หลี่ แหยนหง อายุ 45 ปี เกิดทั่เมืองหยางฉวน มณฑลซานซี หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทป๋ายตู้ google เชื้อสายจีน หรือเวบไซต์ค้นหาข้อมูลภาษาจีนที่ใหญ่สุดในโลก แห่งมหานครเป่ยจิง (ปักกิ่ง) หลังจากทำรายได้งดงามอย่างต่อเนื่อง ป๋ายตู้ก็เริ่มกว้านซื้อเวบไซต์อื่นๆ เช่น hao123 เวบไซต์ฟังและดาวโหลดเพลงเชียนเชียนจิ้งทิง ฯลฯ ในปีนี้เพิ่งก่อตั้งศูนย์ศึกษาวิจัยระดับลึก (The Institute of Deep Learning) ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลให้ทรัพย์สินเหลือ 34,900 ล้านหยวน ลดจากปีที่แล้ว 6,000 ล้านหยวน และร่วงลงมาจากอันดับที่ 3 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 8 หยาง ฮุ่ย (杨惠妍) ทายาท‘อสังหาริมทรัพย์’
หยาง ฮุ่ย อายุ 31 ปี เกิดที่เมืองโฝชาน มณฑลก่วงตง สืบทอดกิจการอสังหาริมทรัพย์ต่อจากผู้เป็นพ่อ เธอเริ่มไต่เต้าจากผู้จัดการแผนกจัดซื้อในปี 2005 เลื่อนเป็นผู้อำนวยการในปี 2006 และขึ้นเป็นรองประธานบริษัทปี้กุ้ยหยวน เมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้เธอมีทรัพย์สิน 32,980 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 10,400 ล้านหยวน ครองอันดับที่ 8 เช่นเดียวกับปีที่แล้ว
อันดับ 9 สู่ หรงเม่า (许荣茂) เจ้าพ่ออันดับ 4 ‘อสังหาริมทรัพย์’
สู่ หรงเม่า อายุ 64 ปี เกิดที่ เมืองฉือชือ มณฑลฝูเจียน เจ้าของบริษัทซื่อเม่ากรุ๊ป แห่งมหานครซ่างไห่ เมื่อต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2553 เขาใช้การสร้างที่พักอาศัยแบบครบวงจร ขยายกิจการไปยังอาคารสำนักงาน ที่พักสำหรับท่องเที่ยว ตลอดจนการเปิดตลาดใหม่ในเมืองชั้นสอง และชั้นสาม เป็นกลยุทธ์ลดความเสี่ยงของผลกำไร ส่งผลให้เขามีทรัพย์สิน 32, 800 ล้านหยวน เพิ่มจากปีที่แล้ว 8,000 ล้านหยวน และไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 14 ในปีที่แล้ว
อันดับที่ 10 จาง ซื่อผิง (张士平) เจ้าพ่ออันดับสอง ‘ค้าขายทั่วไป’
จาง ซื่อผิง อายุ 67 ปี เกิดที่เมืองปิงโจว มณฑลซานตง เจ้าของบริษัทเว่ยเฉียวช่วงเย่ กิจการทอผ้าฝ้ายที่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายหลังได้ขยายกิจการไปยังธุรกิจอลูมิเนียมและกระจก ส่วนบริษัทจงกั๋วหงเฉียว (中国宏桥) ก็เป็นแหล่งผลิตอลูมิเนียมที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของจีน ผลิตได้มากถึง 20,160 ล้านตัน มากกว่าปีที่แล้ว 13.5% อย่างไรก็ดี แม้ว่าทรัพย์สินของเขาจะเพิ่มเป็น 30,000 ล้านหยวน มากกว่าปีที่แล้ว 1,000 ล้านหยวน แต่เนื่องจากเศรษฐีท่านอื่นกอบโกยรายได้แซงหน้าไปหลายโค้ง ส่งผลให้เขาร่วงลงมาจากอันดับที่ 4 ในปีที่แล้ว