นายกฯ จีน&​ แถลงครั้งแรก ย้ำการปฏิรูปสร้างอนาคต จับมือมหาอำนาจ

เอเยนซี - นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน แถลงการปฏิรูปและการเปิดกว้างเปลี่ยนแปลงอนาคตของประเทศ ประกาศ 3 ภารกิจสำคัญ พร้อมเชื่อมั่นโอกาสทางการค้า-การลงทุน ระหว่างจีน-สหรัฐฯ จะกลบบังความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจ ขณะรัฐสภาจีนลงมติรับรองรัฐบาลชุดใหม่แล้ว

สื่อจีนรายงาน (17 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ได้แถลงข่าวครั้งแรกนับแต่ได้รับแต่งตั้งโดยประกาศ 3 ภารกิจสำคัญของรัฐบาลใหม่ คือการรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น และผดุงความเป็นธรรมในสังคม

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า การผลักดันการปฏิรูปและการเปิดกว้างของจีนได้สร้างความเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนหลายร้อยล้านคนให้รอดพ้นจากความยากจน ซึ่งรวมถึงตัวเขาเองด้วย รัฐบาลใหม่มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการปฏิรูป และจะพยายามทำให้การปฏิรูปส่งผลดีแก่ประชาชนทุกคน ทุกเพศทุกวัย โดยผู้สูงอายุก็ได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข และคนหนุ่มสาวก็ต้องมีอนาคตและความหวัง

หลี่กล่าวว่า ประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาล และมีภารกิจมากมายที่ต้องดำเนินการ โดยภารกิจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งก็คือการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จนสามารถบรรลุเป้าหมาย เพิ่มรายได้ส่วนบุคคลขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 2553 ภายในปี 2563 เช่นเดียวกับเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อคน ซึ่งเท่ากับว่าในช่วงหลายปีข้างหน้านี้ จีนต้องมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี

นอกจากนั้น การปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขยายฐานกลุ่มชนชั้นกลาง เพิ่มรายได้ประชาชนทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท โดยเฉพาะผู้ที่ยากจน ก็เป็นภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับรัฐบาลจีน

คำแถลงของนายกรัฐมนตรีจีน ยังให้ความสำคัญกับระบบสวัสดิการสังคมเพื่อสิทธิประโยชน์พื้นฐานสำหรับชาวจีนทุกคน อาทิ การศึกษาภาคบังคับ การสาธารณสุข ประกันสังคมและที่อยู่อาศัย ซึ่งประชาชนจะมีความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลได้พยายามให้โอกาสที่เท่าเทียมกัน ขณะที่ผู้ทำงานหนักก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร มาจากพื้นฐานทางสังคมใด

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ต้องสร้างระบบบริหารที่โปร่งใส ตามหลักนิติธรรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งล้วนต้องอาศัยการปฏิรูปและการเปิดกว้าง

"โอกาสทางการค้า-การลงทุน ระหว่างจีน-สหรัฐ"
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน กล่าวถึงโอกาสทางการค้า-การลงทุน ระหว่างจีน-สหรัฐว่า ในช่วงหลายปีข้างหน้า โอกาสในด้านการค้าและการลงทุนระหว่างจีนและสหรัฐฯ อาจจะเปิดกว้างมากขึ้นไปอีก โดยระบุถึง ปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างจีนและสหรัฐ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากราว 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อ 30 ปีก่อน มาเป็นกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2555

นายกฯ หลี่ ไม่เชื่อว่าสองชาติมหาอำนาจ จะหลีกเลี่ยงและบริหารจัดการปัญหาความขัดแย้งไม่ได้ เพราะหากสองฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ใหญ่ที่เป็นรูปธรรมร่วมกัน ข้อพิพาทต่างๆ ก็มักจะกลายเป็นเรื่องเล็ก และแน่นอนว่า ในอนาคตนี้ โอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองชาติ มีมากกว่าในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

“รัฐบาลจีน จะร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ของสองชาติมหาอำนาจ" นายกรัฐมนตรีจีนกล่าว

"จีนลงมติรับรองรัฐบาลชุดใหม่"
สำนักข่าวซินหวา รายงาน (16 มี.ค.) ว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีน ได้ลงมติรับรองรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งเสนอโดยนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง แล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค. อันประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี 4 ตำแหน่ง มนตรีแห่งรัฐ 5 ตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการธนาคารกลางจีน

รายงานข่าวกล่าวว่า นายหยัง เจี่ยฉือ อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลชุดที่แล้ว ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งมนตรีแห่งรัฐ ด้านกิจการต่างประเทศ แทนนาย ไต้ ปิงกั๋ว โดยมีตำแหน่งเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้นายหวัง ยี่ อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศญี่ปุ่น ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแทนนายหยัง เจี่ยฉือ

ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญกิจการระหว่างประเทศกล่าวว่า นายหวัง ยี่ เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความใกล้ชิดกับกิจการญี่ปุ่น จึงน่าสนใจว่าจะช่วยปรับปรุงแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกับญี่ปุ่นทั้งในเรื่องหมู่เกาะเตี้ยวอี่ว์ และอธิปไตยน่านน้ำทะเลจีนใต้กับนานาชาติได้เพียงใด

สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้แก่ นายลู่ จีเหว่ย ส่วนตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ยังคงเป็นนายโจว เสี่ยวฉวน ซึ่งจะดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย