ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ผู้นำจีน-สหรัฐฯ เยือนไทยเชื่อเป็นสัญญาณดีต่อตลาดทุนไทย เหตุเป็นแหล่ง
ระดมทุนที่สูง ปีนี้แตะ 2.5 แสนล้านบาท ขณะหุ้นไอพีโอดันมาร์เกตแคปปีนี้อีก 1.13 แสนล้านบาท ด้าน ซีเคพาวเวอร์ “โฮลดิ้งคอมพานี” รายแรกประเดิมเทรดไตรมาส 1/56
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า จากการที่ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ นายเวินเจีย เป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมายังประเทศไทยพร้อมกันนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศไทย เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงในภูมิภาคนี้ ขณะที่ตลาดทุนไทยจะได้ประโยชน์จากที่ตลาดทุนมีความก้าวหน้า และเป็นตลาดที่มีการระดมทุนที่สูง ทำให้เป็นที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ บริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ปีนี้นั้น มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ของบริษัทเข้าใหม่สิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 1.2 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ต้องการเร่งที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้ และทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการผ่อนเกณฑ์ ต่างทำให้กระบวนการเร็วขึ้น ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีบริษัทจำนวน 9 บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน เพราะนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในหุ้นใหม่ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดี ทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง
สำหรับการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดรองนั้นปีนี้อยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าตลาดหุ้นไทยเป็นแหล่งการระดมทุนที่ดี และอนาคตจากการที่ก.ล.ต.ได้มีการอนุมัติเกณฑ์การระดมทุนของโฮลดิ้งคอมพานี ทำให้สามารถที่จะให้บริษัทไทยมีการระดมทุนไปใช้ในการขยายกิจการในภูมิภาคได้ ซึ่งโฮลดิ้งคอมพานีที่จะเข้าจดทะเบียนบริษัทแรก คือ บริษัท ซี เค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)
อย่างไรก็ตาม จากการที่จะมีการชุมนุมในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้นั้น นักลงทุนจะต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด