xs
xsm
sm
md
lg

ไม่มีคำว่าปลดเกษียณ โจว เสี่ยวชวนรั้งตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางจีนต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายโจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนตอบคำถามระหว่างแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2555  – แฟ้มภาพรอยเตอร์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - บรรดาผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวินิสต์เชื่อมั่นฝีมือโจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ไฟเขียวให้ทำงานต่อ แม้ปลดเกษียณแล้ว เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านการเงินการคลังแดนมังกรในท่ามกลางความวุ่นวายด้านการเงินในโลกขณะนี้

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันให้นายโจวนั่งเก้าอี้ผู้ว่าการธนาคารกลาง ซึ่งครอบครองมานานหนึ่งทศวรรษต่อไปอีก 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า แม้เขามีอายุครบ 65 ปีเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวัยปลดเกษียณจากการทำงานตามกฎระเบียบของจีนก็ตาม โดยคาดว่า นายโจวอาจได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งรองประธานสมัชชาที่ปรึกษาด้านการเมืองของจีนในเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้เขาเลื่อนฐานะเป็นระดับ “ผู้นำรัฐ” ซึ่งจะได้รับข้อยกเว้นจากการเกษียณอายุการทำงาน

นอกจากนั้น ยังมีการคาดหมายกันว่า นายเสี่ยว กัง ประธานแบงก์ออฟไชน่า วัย 54 ปี ซึ่งได้เข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อเดือนพ.ย. 2555 คือบุคคล ที่จะได้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการธนารกลางจีนต่อจากนายโจวในอนาคต

หากนายโจวก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนหน้าก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายตำแหน่งกันอีกรอบ อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้นำระดับสูงไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะเห็นความจำเป็น ที่จีนจะต้องรักษาเสถียรภาพด้านการเงินและรักษาแรงขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเงินของแดนมังกรในภาวะที่การเงินโลกกำลังผันผวนเช่นในปัจจุบัน

นอกจากนั้น ยังต้องการให้ผู้นำคนใหม่คือนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดี และนาย หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีเวลาสร้างฐานอำนาจให้แข็งแกร่ง และดำเนินการปฏิรูปประเทศในภาวะที่ประเทศชาติมีปัญหา ที่หยั่งรากลึกมากมาย เช่นการทุจริตคอร์รัปชั่น และความไม่เท่าเทียมกันในสังคม โดยแผนการ ที่วางไว้สำหรับนายโจวจะมีการยืนยันในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนประจำปีในเดือนมีนาคม ที่จะถึง

ทั้งนี้ ความรู้ความสามารถของนายโจวในด้านการเงินทำให้เขาเป็นบุคคล ที่ได้รับการนับถือจากทั่วโลก นักวิจัยของสถาบันศึกษาสังคมศาสตร์ของจีนระบุว่า ยากจะหาใครในจีนทัดเทียมได้ ในเรื่องความรอบรู้เกี่ยวกับระบบการเงินระหว่างประเทศ และภูมิหลังด้านการศึกษา ที่ลึกซึ้งของนายโจว

อย่างไรก็ตาม นายหวง อี้ว์ผิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบาร์เคลย์สแคปปิตอลเตือนว่า ขณะนี้ธนาคารกลางของชาติร่ำรวยหลายรายได้หันมาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ และในท่ามกลางสภาพการณ์ที่ไร้ความแน่นอนมากขึ้นในโลก การสื่อสารระหว่างธนาคารกลางจีนกับธนาคารกลางของสหรัฐฯและธนาคารกลางยุโรป จะกลายมามีความสำคัญมากขึ้น นอกจากนั้น นายโจวจะต้องเผชิญกับงานด้านเทคนิกมากขึ้น เช่นการเพิ่มค่าเงินหยวน การดำเนินนโยบายเปิดเสรีบัญชีทุนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการปฏิรูประบบอัตราดอกเบี้ย
กำลังโหลดความคิดเห็น