เอเขนซี--รัฐบาลปักกิ่งรายงานตัวเลขการสำรวจสัมประสิทธิ์จินี่ ( Gini coefficient) ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดระดับความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของรายได้ของประเทศที่กระจายไปสู่ชนชั้นต่างๆ ในสังคม โดยดัชนีชี้วัดอยู่ระหว่าง 0-1 (0 คือค่าความเท่าเทียมกันสมบูรณ์ 1 คือความไม่เท่าเทียมกันสมบูรณ์) ตามรายงานตัวเลขสัมประสิทธ์จีนี่ของจีนในปีที่แล้วอยู่ที่ 0.474 ลดลงจาก 0.491 ในปี 2008 อันเป็นการประกาศครั้งแรกในรอบ 12 ปี ในขณะที่นักวิจัยบางรายประมาณการณ์ว่าตัวเลขจินี่ของจีนน่าจะสูงถึง 0.61 ทั้งนี้ หม่ากล่าวว่า ตัวเลขจินี่ของบราซิลอยู่ที่ 0.55 อาเจนติน่าอยู่ที่ 0.46 และรัสเซียอยู่ที่ 0.40
เหมา อี่ว์ซือ หนึ่งในนักปฏิรูปเพื่ออุทิศตัวและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันวิชาการอิสระ The Unirule Institute of Economics กล่าวว่า “การที่รัฐบาลเปิดเผยตัวเลขจีนี่อย่างเป็นทางการ แสดงให้เห็นว่าเราเริ่มประเมินถึงคุณค่าของ GDP มากกว่าตัวเลข รัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพของผู้มีรายได้น้อยชาวจีนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ที่ถูกกดทับโดยกลุ่มผลประโยชน์ขนาดใหญ่ที่ควบคุมหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ
“หนทางของผู้คนที่จะกระเถิบจากผู้มีรายได้น้อยไปสู่การมีรายได้ปานกลาง และจากผู้มีรายได้ปานกลางไปสู่ผู้มีรายได้สูงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง การเริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจจีนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ดูค่อนข้างดีในระยะเริ่มต้น แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันอาจไม่ดีเหมือนก่อน เพราะเกิดโครงสร้างขนาดใหญ่ของกลุ่มผลประโยชน์”
นักวิจารณ์หลายคนต่างตำหนิผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องที่ลังเลที่จะเผยแพร่ตัวเลขนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็น แสดงให้เห็นถึงขนาดของช่องว่างระหว่างชนชั้นที่กินเวลาต่อเนื่องมานานนับทศวรรษ ในขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หม่า เจียงถัง แจ้งว่าเป็นการยากที่จะเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของครอบครัวร่ำรวย ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการสำรวจ อย่างไรก็ดี “ในทางหนึ่งเราจำเป็นต้องทำให้ชิ้นเค้กใหญ่ขึ้น และในทางหนึ่งเราต้องทำหน้าที่จัดสรรให้ดีขึ้น”
ความคับข้องใจของผู้คนที่เห็นเจ้าหน้าของรัฐและพรรคคอมมิวนิสต์ขับรถยนต์หรู เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม และส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ เป็นการเติมเชื้อไฟให้กับความตึงเครียดทางการเมืองภายในประเทศ การลดช่องว่างรายเป็นแรงกดดันสำคัญของต่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ชุดใหม่ที่เพิ่งเข้ารับหน้าที่ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
เหล่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ต่างให้คำมั่นว่า จะทุ่มเทในประเด็นด้านสุขภาพและการศึกษาเพื่อเปลี่ยนแปลงรายได้ในพื้นที่ชนบทและของคนยากจนในเมือง มีข่าวลือนานหลายเดือนว่ารัฐบาลจะประกาศแผนระยะยาวเพื่อลดความไม่เท่าเทียมกัน ทว่า ยังไม่ได้รับการรายงานอย่างเป็นทางการ