ASTVผู้จัดการออนไลน์--พญามังกรประชุมสมัชชาใหญ่สมัยที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิตส์จีน ระหว่างวันที่ 8-14 พ.ย.2555 โดยเป็นการประชุมที่วงการเมืองระหว่างประเทศจับตามากที่สุด เนื่องจากเป็นการประชุมถ่ายโอนอำนาจผู้นำรุ่นใหม่ที่ 10 ปี มีหน ในการประชุมฯนี้ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาจะถ่ายโอนอำนาจแก่ทายาทการเมือง ให้แก่ นาย สี จิ้นผิง
ในการถ่ายโอนอำนาจการนำประเทศครั้งนี้ เป็นครั้งที่เกิดศึกช่วงชิงอำนาจระหว่างฝักฝ่ายการเมืองอย่างดุเดือดที่สุด ระหว่างฝักฝ่ายการเมืองของกลุ่มพันธมิตรเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มนักการเมืองลูกท่านหลานเธอที่สืบสกุลจากผู้นำรุ่นปฏิวัติจีนใหม่ ซึ่งกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การนำของเจียง เจ๋อหมิน ส่วนอีกฝักฝ่าย ได้แก่ อดีตเจ้าหน้าที่จากสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน นำโดยหู จิ่นเทา
การแข่งขันอำนาจที่ร้อนฉ่าที่สุด คือกรณีอื้อฉาวปั๋ว ซีไหล ผู้ถูกปลดออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งมหานครฉงชิ่ง สมาชิกกรมการเมืองหรือโปลิตบูโร และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ด้วยความผิดฐานกระทำผิดวินัยพรรคฯอย่างร้ายแรง แทรกแซงการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของชาวอังกฤษนาย นีล เฮยวู้ด ที่ภรรยาของเขาคือ นาง กู่ ไคไหล เป็นผู้สังหาร ตลอดจนคอรัปชั่น...
"มุมจีน" ASTVผู้จัดการออนไลน์ รวบรวมภาพบรรยากาศการประชุมสมัชชาใหญ่สมัยที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิตส์จีน และชีวิตชาวจีนในท่ามกลางการเมือง บอกเล่ากระแสการเมืองจีนพอเป็นกระสาย (ภาพรอยเตอร์ส)
หู จิ่นเทา ครองอำนาจเมื่อปี 2545 ขณะที่นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจออกฤทธิ์เต็มที่ จนประเทศจีนทะยานขึ้นมามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก การเติบโตเศรษฐกิจช่วยประชาชนหลายร้อยล้านคนหลุดออกจากสภาพความยากจน แต่ก็เกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมทางรายได้ ที่ขณะนี้กำลังเข้าใกล้ “ขีดอันตราย” และวิกฤตมลพิษทางสิ่งแวดล้อม
คลิกอ่าน ถอดรหัสอนาคตจีน ตั้งเป้าปี 2020 เพิ่มรายได้ต่อหัวอีกหนึ่งเท่า (Exclusive)
ผู้นำเจียง เจ๋อหมิน นับเป็นตัวละครเอกในการศึกช่วงชิงอำนาจ เจียงหมดวาระจากตำแหน่งผู้นำสูงสุดคือเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2545 แต่ยังรั้งตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนต่ออีกสองปี ปีที่ผ่านมา ผู้เฒ่าวัย 86 ปี หายหน้าหายตาไปเป็นช่วงเวลานาน จนเกิดข่าวลือว่าเขาป่วยหนักหรือถึงแก่อสัญกรรม แต่แล้วไม่นานมานี้เจียงก็ปรากฎตัวออกสื่อหลายต่อหลายครั้ง ส่งสัญญาณว่า เจียงยังคงทรงอำนาจทางการเมือง กล่าวได้ว่า ผู้เฒ่าเจียง เป็นผู้นำขิงเก่า ที่ยังคงอิทธิพลดันคนของตนขึ้นสู่อำนาจระดับสูงได้เป็นทิวแถว โดย หู 69 ปี ไม่สามารถเอาชนะได้
คลิกอ่าน ตัวเก็งผู้นำจีนสมัยหน้า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมครองตำแหน่งเพียบ
ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯนี้ ได้รับรองการถ่ายโอนอำนาจ โดย สี จิ้นผิง นั่งเก้าอี้เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ และในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนฯหรือรัฐสภาเดือนมี.ค.ปีหน้า(2556) สี จิ้นผิง ก็จะขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี นำการปกครองแผ่นดินจีนไปอีก 10 ปีข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเปาร้องขอให้เปิดการสอบสวนกรณีหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์กล่าวหาครอบครัวของเขาซุกซ่อนทรัพย์สินจำนวน 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหวังใช้โอกาสนี้ผลักดันร่างกฎหมาย “ตะวันฉาย” (sunshine law) ว่าด้วยการเปิดเผยทรัพย์สินของบรรดาผู้นำ ที่ล่าช้ามานาน ท่ามกลางแรงต้านจากบิ๊กหัวเก่าภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
คลิกอ่าน เวินต้านคอมฯหัวเก่า ยืดอกให้สอบข้อหาทุจริต
จู หรงจี นายกรัฐมนตรีระหว่าง พ.ศ. 2541 - 2546 ผู้สร้างความประทับใจในการเมืองจีน ผู้สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลายด้านและฟองสบู่ได้ลุล่วงอย่างมหัศจรรย์ เป็นผู้นำที่โปร่งใส เที่ยงธรรม มีฉายา “จูหน้าเหล็ก” (หมายถึงเป็นผู้อยู่บนความเที่ยงธรรม ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม) “พระเจ้าซาร์เศรษฐกิจ” หรือแม้แต่ “กอร์บาชอฟแห่งประเทศจีน” ครั้งหนึ่งจู ลั่นวาจาท้าทายกลุ่มเศรษฐีใหม่ผู้สูญเสียผลประโยชน์ในปฏิบัติการที่ขาวสะอาดของเขา ว่า “คราวนี้เรามุ่งปราบเสือ ขอให้เตรียมโลงศพไว้ 100 โลง สำหรับเก็บศพพวกนั้น 99 โลงและอีกโลงเผื่อตัวผม ผมพร้อมจะดับไปกับพวกนั้นเพื่อความสุขนิรันดร์ของประเทศชาติและประชาชน”
คำแถลงของจังได้ตอกหมุดเก็บมรดกของ ปั๋ว ซีไหล อดีตเลขาธิการพรรคฯประจำฉงชิ่ง ผู้ถูกอัปเปหิออกจากพรรคฯ จังกล่าวว่าแนวการพัฒนาของปั๋วที่สัญญาจะสร้างความเท่าเทียมได้จบสิ้นลงแล้ว ทั้งนี้ ปั๋วเป็นผู้นำระดับแถวหน้า ที่เคยเป็นตัวเก็งคณะกรรมการประจำกรมการเมือง แต่ก็ร่วงลงจากอำนาจอย่างคึกโครม ด้วยกรณีอื้อฉาวฆาตกรรมนักธุรกิจชาวฮังกฤษโดยฝีมือภรรยาของเขา สำหรับป้ายจารึกข้อความ “จงมานะบากบั่นทำงานหนักเพื่อสร้างฉงชิ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจบนลุ่มน้ำแยงซีเกียงตอนบน เขียนโดย เจียง เจ๋อหมิน”
รายงานข่าวกล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2554 เกิดเหตุการณ์ลามะ และชาวทิเบต ประท้วงการปกครองครอบงำทิเบต ด้วยการจุดไฟเผาตัวเองในจีน กว่า 60 คนแล้ว ก่อนหน้าการประชุมก็มีลามะเผาตัวอีก 3 รูปที่แคว้นปกครองจตัวเองชนชาติทิเบตแห่งอาป้า ในมณฑลเสฉวน ขณะที่รัฐบาลจีนได้โต้แย้งว่า รัฐบาลให้เสรีภาพชาวทิเบตในการนับถือศาสนา และประณามองค์ทะไล ลามะ ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบ
ขณะที่หุ้นจีนร่วงระนาวในช่วงสองสัปดาห์จนถึงวันเปิดการประชุมสมัชชาพรรคฯ เนื่องจากปัจจัยสินทรัพย์ที่ทวีความเสี่ยงมากขึ้น โดยกลุ่มหุ้นพลังงานดิ่งเหวมากสุดหลังจากที่ราคาน้ำมันลดลง 4 เปอร์เซนต์ในชั่วข้ามคืน ขณะที่ประมุขหู จิ่นเทาสัญญาการปฏิรูปเพื่อพื้นฐานระบบตลาดในอัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ย
รูปปั้นเหมา เจ๋อตง ที่จัตุรัสตงฟังหง เมืองลั่วเหอ มณฑลหูหนัน เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ในปี 2524 5 ปี หลังอสัญกรรมของท่านประธานเหมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้พยายามรักษาประวัติศาสตร์ที่เหมาสร้างไว้ ณ วันนี้ มีการคาดเก็งว่าภารกิจนี้จะจบสิ้นเสียทีแล้ว โดยมีการถกเถียงภายในพรรคฯอย่างดุเดือด เกี่ยวกับการลบ “เหมา” โดยที่ไม่สั่นคลอนอำนาจของพรรคฯ