xs
xsm
sm
md
lg

นายใหญ่แบงค์ชาติจีนย้ำคงนโยบายคุมเข้มการเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พนักงานธนาคารในเหอเฝย มณฑลอันฮุย กำลังตรวจสอบธนบัตรดอลลาร์ (แฟ้มภาพเอเอฟพี)
เอเจนซี-ผู้ว่าการธนาคารประชาชนแห่งจีน หรือธนาคารกลางจีน นาย โจว เสี่ยวชวน แถลงรัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายคุมเข้มการเงินไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ และอัตราแลกเปลี่ยนหยวน เป็นเครื่องมือหนึ่งในการแก้ไขสถานการณ์เงินเฟ้อ

นาย โจว เสี่ยวชวนแถลงในที่ประชุมข่าวของการประชุมนอกรอบปั๋วเอ๋า ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia )เมื่อวันเสาร์(16 เม.ย.)ที่ไห่หนัน (ไหหลำ) ว่าจีนได้ใช้เงินหยวนเป็นเครื่องมือหนึ่งในการต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ และจะปรับค่าเงินหยวนยืดหยุ่นมากขึ้นในโอกาสต่อไป

นานาชาติยังคงกดดันจีนปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่ามากขึ้น โดยล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ระบุในรายงานประจำปี 2554 ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าค่าเงินจีนต่ำค่ากว่าความเป็นจริงมาก ซึ่งทำให้ภาคส่งออกได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์ ได้แข็งค่าขึ้น 4.5 เปอร์เซนต์ นับจากที่จีนเลิกตึงค่าเงินในความเป็นจริงเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา และในปีนี้เงินหยวนเข็งค่าขึ้น เกือบ 1 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นไปภายใต้การดูแลของธนาคารกลาง

“รัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินจากแบบขยายตัว มาเป็นนโยบายแบบระมัดระวังนั่นคือการคุมเข้ม และจะรักษาจุดยืนนี้ไประยะหนึ่ง” โจว เสี่ยวชวนกล่าว พร้อมกับชี้ปัจจัยกดดันด้านเงินเฟ้อ ว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ที่สูง 5.4 เปอร์เซนต์ จากปีก่อนหน้านั้น เป็นระดับที่สูงกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ ดังนั้น ธนาคารกลางจะต้องระดมมาตรการเพิ่มเติมอีก เพื่อผ่อนคลายราคาที่กำลังพุ่งสูง

แต่โจวกล่าวว่าจีนจะระมัดระวังมิให้ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมสูง เนื่องจากมันอาจไปกระตุ้นกระแสเงินทุนไหลทะลักเข้ามา เพื่อเก็งกำไรไม่เพียงจากการปรับค่าเงินหยวน ยังอาจฟันกำไรจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง
“ขณะนี้ตลาดการเงินระหว่างประเทศมีสภาพคล่องล้นเกินมาก ถ้าเราขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างก้าวรุดหรือมากไป ก็อาจดึงดูดกระแสเงินร้อนไหลเข้า” โจว กล่าว

ทั้งนี้ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 4 ครั้ง นับจากเดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา และได้ขยับเพดานอัตราเงินสดสำรองของธนาคารรายใหญ่ ที่สำรองไว้กับธนาคารกลาง 20.0 เปอร์เซนต์ของปริมาณเงินฝากในธนาคาร

โจวได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเพดานของอัตราเงินสดสำรอง ว่าไม่มีขีดจำกัดที่ตายตัว ซึ่งเปิดความเป็นไปได้ว่าอาจมีการขยายเพดานอัตราเงินสดสำรองอีก

นอกจากนี้ โจวชี้ว่าการขาดดุลการค้าจีนในไตรมาสแรก มีปัจจัยหลักเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ดังนั้นจีนจึงไม่ยินดีกับการขาดดุลที่มีสาเหตุเช่นนี้ และรัฐบาลอาจต้องใช้ค่าเงินหยวนมากขึ้นในการธุรกรรมการค้าในอนาคต หากดอลลาร์ยัง “ไม่มั่นคง”

“ถ้าดอลลาร์มั่นคง ใครๆก็จะใช้ดอลลาร์ต่อไป แต่ถ้าดอลลาร์และสกุลเงินหลักอื่น ยังไร้เสถียรภาพแล้ว ผู้ค้าก็ต้องหันไปใช้ค่าเงินท้องถิ่นเป็นธรรมดา” โจว กล่าว และบอกอีกว่า ค่าเงินหยวนอาจแลกเปลี่ยนได้อย่างเต็มที่ในวันหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีตารางเวลา.
กำลังโหลดความคิดเห็น