กูเกิล-ไต้หวัน-ทิเบต สื่อจีนสะท้อนเงามะกัน

เอเยนซี-การตัดสินใจอนุมัติค้าอาวุธสงคราม หรือที่เรียกในเพนตากอนว่า จัดขายยุทโธปกรณ์ป้องกันฯ รวมมูลค่า 6,400 ล้าน เหรียญสหรัฐ ให้ไต้หวัน ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ สะท้อนผ่านเหล่าสื่อของทางการจีน ที่กล่าวว่า สหรัฐฯ ขาดความจริงใจ อีกทั้งสองมาตรฐานฯ พร้อมรายงานว่าการพบปะกับทะไล ลามะ นับเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์และไม่สมเหตุผล

สองชาติมหาอำนาจซึ่งเพิ่งติดหล่มความขัดแย้งจากกรณีกูเกิล บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการสืบค้นข้อมูลของสหรัฐฯ ที่ว่า ถูกแฮกเกอร์ในจีนล้วงข้อมูลอีเมล์ของนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนจีน จนประกาศจะไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับตรวจสอบของจีน แม้จะต้องเลิกกิจการกันไปเลยก็ยอม ซึ่งยังรอการเจรจากันอยู่ ขณะทางทำเนียบขาวเรียกร้องคำอธิบายจากจีน โดยสื่อจีน โกลบอล ไทมส์ ตีพิมพ์บทบรรณาธิการว่า เป็นการแอบอ้างเสรีภาพของจักรวรรดิ์นิยม

ล่าสุด การตัดสินใจอนุมัติค้าอาวุธสงครามให้ไต้หวัน เมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา (29 ม.ค ) ก็ได้กลายเป็นประเด็นข้อพิพาทที่สื่อของทางการจีนหลายสำนัก ให้ความสำคัญอย่างมากและพร้อมเพรียง เรียกได้ว่ามากกว่าประเด็นกูเกิลเสียอีก

โดยสื่อต่างกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯ ไม่มีความจริงใจ จากที่เคยรับรองระหว่างเยือนจีน เมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้วว่า ไม่ต้องการสกัดอิทธิพลของจีน

ไชน่า เดลี วันที่ 1 ม.ค.ชี้ว่า ความอหังการของพญาอินทรี แสดงธาตุแท้ออกมาว่าสามารถย่ำยีผลประโยชน์ของชาติอื่นได้ เพียงเพื่อผลประโยชน์ของอีกชาติ สหรัฐฯ กำลังใช้สองมาตรฐานและเสแสร้งในประเด็นซึ่งจีนถือว่าสำคัญมากต่อผลประโยชน์ของชาติจีน

พีเพิล เดลี ระบุวันเดียวกันว่า คำขู่ลงโทษบริษัทเอกชนสหรัฐฯ ที่ขายอาวุธให้ไต้หวันเป็นเรื่องจริงจังอย่างมาก

โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องรู้สึกถึงผลกระทบที่ได้รับจากการขายอาวุธให้ไต้หวันอย่างต่อเนื่องเสียที และถึงเวลาแล้ว ที่จะตระหนักถึงเอกภาพของชาวจีนต่อประเด็นไต้หวัน เพราะชาวจีนส่วนใหญ่ยินดีสนับสนุนการลงโทษบริษัทที่ขายอาวุธให้ไต้หวัน

ทางโกลบอล ไทมส์ ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปลงชื่อเพื่อคัดค้านการขายอาวุธให้ไต้หวันทางเวบไซต์ ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 55,000 คน พร้อมกันนี้ สื่อฯ ยังเสนอให้รัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทของสหรัฐฯ ที่ขายอาวุธให้ไต้หวันออกมา

เพื่อเป็นการตอบโต้อย่างเป็นทางการฯ จีนได้ยื่นหนังสือประท้วงทางการทูตสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การค้าอาวุธให้ไต้หวัน ซึ่งจีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน และรอการรวมคืน คือการแทรกแซงกิจการภายใน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของจีน อีกทั้งเป็นภัยต่อความพยายามกลับมารวมชาติจีนอย่างสันติ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ เข้าใจถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ และยกเลิกการค้าอาวุธให้ไต้หวัน ซึ่งบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ

พร้อมกับการประท้วงฯ นี้ กระทรวงกลาโหมจีน ได้ประกาศจะระงับความสัมพันธ์ทางทหารชั่วคราว และกระทรวงต่างประเทศ จะคว่ำบาตรบริษัทค้าอาวุธสหรัฐฯ ที่มีส่วนขายอาวุธให้ไต้หวัน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ทางการทหารกับสหรัฐฯ ได้ถูกระงับไปนานกว่าหนึ่งปี หลังสหรัฐฯ ขายอาวุธให้ไต้หวันเมื่อเดือนต.ค. ปี 2551

ค้านมะกันพบปะผู้นำจิตวิญญาณทิเบต
จีนซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการเจรจากับทิเบต เมื่อวันจันทร์ 1 ก.พ. ด้วยผลการเจรจาที่สรุปได้สั้นๆ ว่า "ไม่มีความคืบหน้า"เพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนที่แตกต่างกันสุดขั้ว และจีนถือธงว่า หนทางเดียว ที่จะทำให้การเจรจาคืบหน้าก็คือองค์ทะไลลามะต้องยอมรับว่า “ทิเบตเป็นของจีนมาโดยตลอด”

ล่าสุด วันที่ 2 ก.พ. จีนได้แสดงการคัดค้านอย่างแข็งกร้าว ต่อแผนการพบปะกันของประธานาธิบดีบารัก โอบามา กับ องค์ทะไล ลามะ ซึ่งจีนถือเป็นอีกประเด็นหนึ่งซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในลักษณาการเดียวกับกรณีไต้หวัน

สำนักข่าวซินหัว สื่อของทางการจีนรายงานคำแถลงเมื่อวันอังคารที่ 2 ก.พ.ของ จู เว่ยฉวิน เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายงานแนวร่วมฯ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่า การพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับผู้นำทิเบตพลัดถิ่นเป็นการกระทำที่ "ไร้ประโยชน์และไม่สมเหตุผล" พร้อมกับเตือนว่า ถ้าสหรัฐฯ ยังยืนยันดำเนินการดังกล่าว จีนถือว่าสหรัฐฯละเมิดกฎระเบียบสากล พร้อมกับเตือนว่าจีนจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อแสดงความตระหนักถึงเรื่องนี้