เอเยนซี-จอน ฮันท์สแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน ได้แสดงความตระหนักถึงความรู้สึกของจีน ผ่านบทความในหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ วันที่ 20 ก.พ.ว่า ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เป็นความเกี่ยวพันที่แม้จะซับซ้อน แต่ก็สำคัญมากต่อโลกในวันนี้ เราไม่สามารถ และเราต้องไม่ยอมให้ความขัดแย้งมาทำลายความสัมพันธ์ ซึ่งอาจส่งผลวิกฤติทั้งระดับภูมิภาคและโลกได้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้ประชุมหารือกับนายจอน ฮันท์สแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน และเตือนว่า ประธานาธิบดีโอบามาได้ทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ด้วยการพบปะกับองค์ทะไล ลามะ ที่จีนกล่าวหาว่าพยายามปลุกระดมให้ชาวทิเบตแยกตัวเป็นอิสระจากจีน
โดยจอน ฮันท์สแมน ได้แสดงความตระหนักถึงความรู้สึกของจีน ผ่านบทความในหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ ว่า ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เป็นความเกี่ยวพันที่แม้จะซับซ้อน แต่ก็สำคัญมากต่อโลกในวันนี้ เราไม่สามารถ และเราต้องไม่ยอมให้ความขัดแย้งมาทำลายความสัมพันธ์ ซึ่งอาจส่งผลวิกฤติทั้งระดับภูมิภาคและโลกได้
ฮันท์สแมน เขียนว่า เขาตระหนักดีถึงความรู้สึกของจีน ในเรื่องการขายยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศให้ไต้หวัน และก็ขอชื่นชมกับความร่วมมือที่จีนเริ่มมีให้กับไต้หวัน แต่เขาก็แก้ต่างให้ทางสหรัฐฯ ว่า นโยบายขายอาวุธนี้ ก็เพื่อรักษาสันติภาพในทวีปเอเชีย
ในระดับทวิภาคีแล้ว เราสองชาติมีความแตกต่างกันมาก ทั้งในด้านประเด็นความสนใจ คุณค่า และมุมมองการเผชิญปัญหา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ สิ่งที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน ซึ่งสิ่งนี้จะพัฒนาให้เราสามารถเติบโตพัฒนาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนได้ต่อไป ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มมาอย่างน่าประทับใจ เมื่อวันที่ อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันของเรา ได้ก้าวเท้าลงมาจากเครื่องบินเมื่อปี พ.ศ. 2515
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว จีนประกาศระงับความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ และขู่บอยคอตบริษัทของสหรัฐฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธมูลค่า 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ไต้หวัน
เหวิน หรันเจียง นักรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา บอกว่า ในสายตาของจีนนั้น องค์ทะไลลามะ ยังคงเรียกร้อง "การปกครองตนเอง" อยู่ตลอดเวลาถึงแม้จะย้ำอยู่เสมอว่าไม่ได้ต้องการแยกทิเบตเป็นเอกราช ซึ่งเป็นเพียงข้ออ้างบังหน้าเท่านั้น
ในเชิงสัญลักษณ์ การพบกันครั้งนี้ โอบามาเองก็ได้น้อมรับต่อความไม่สบายใจของจีน และลดความขุ่นข้องฯ ด้วยการต้อนรับผู้นำทิเบตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในห้องแผนที่ แทนที่จะเป็นห้องรูปไข่ ซึ่งมักใช้ต้อนรับบุคคลระดับผู้นำประเทศ และไม่อนุญาตให้ช่างภาพและกล้องทีวีเข้าไปถ่ายภาพการพบหารือด้วย
ต่อการประท้วงของทางการจีนนั้น เหวิน หรันเจียง ก็บอกว่า จีนคงต้องแสดงจุดยืน และปรามเอาไว้บ้าง แม้รู้ดีว่าไม่สามารถหยุดยั้งได้โดยสิ้นเชิง เพราะผู้นำหลายคนกลัวเสียคะแนนนิยมจากกระแสเรียกร้องภายในประเทศ และบ้างก็ศรัทธาในฐานะเป็นผู้นำศาสนาที่ได้รับการยอมรับระดับสากล
ในกรณีโอบามาพบทะไล ลามะ ครั้งนี้ นักวิเคราะห์ค่อนข้างเห็นตรงกันว่า ผลสะเทือนจะไม่ร้ายแรงถึงขั้นทำลายความสัมพันธ์ เพราะสหรัฐฯ ยังจะต้องพึ่งพาความร่วมมือจากจีนในหลายประเด็น ตั้งแต่ขอเสียงสนับสนุนเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านกับเกาหลีเหนือ ประเด็นโลกร้อน การฟื้นเศรษฐกิจ ที่ผู้นำทั้งสองชาติมีกำหนดการร่วมกันในสหรัฐฯ เดือน เม.ย.นี้