เอเอฟพี – พญามังกรเตือนมะกัน หยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการหั่นเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตของจีน ประณามอีกฝ่ายจักรวรรดินิยมข้อมูลข่าวสาร ด้านกูเกิลเตรียมยกเลิกการเซ็นเซอร์การสืบค้นข้อมูลของผู้ใช้เน็ตในจีน
หลังจากนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ด้านนโยบายครั้งสำคัญว่าด้วยเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต ที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสฯ (21 ม.ค.) โดยเรียกร้องให้จีนดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดกรณีแฮกเกอร์เจาะระบบข้อมูลของกูเกิล และบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ของสหรัฐฯ พร้อมกับแสดงความเสียใจ ที่จีนเพิ่มการตรวจสอบและตัดทิ้งข้อมูล ที่ผู้เข้าเว็บไซต์จำนวน 384 ล้านคนบนแดนมังกรจะได้เห็น โดยย้ำว่าสหรัฐฯ สนับสนุน “อินเทอร์เน็ตอันหนึ่งอันเดียว ซึ่งมวลมนุษยชาติเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อความรู้ และความคิด”
กระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกมาตอบโต้ โดยนายหม่า จ้าวซู โฆษกกระทรวงระบุว่า เป็นการพูดที่ปราศจากข้อเท็จจริง และเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นคำวิจารณ์อย่างแข็งกร้าวที่สุดจากปักกิ่ง หลังจากเกิดปัญหากูเกิลเมื่อสัปดาห์ก่อน
“เราเรียกร้องให้สหรัฐฯเคารพต่อข้อเท็จจริง และหยุดใช้เรื่องเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตอย่างที่เรียกกันมาตำหนิจีนอย่างไร้เหตุผล” นายหม่าระบุ
สองชาติมหาอำนาจกำลังติดหล่มปัญหาขัดแย้งครั้งใหม่จากกรณีกูเกิล บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการสืบค้นข้อมูลของสหรัฐฯ เปิดโปงว่า ถูกแฮกเกอร์ในจีนล้วงข้อมูลอีเมล์ของนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนจีน และประกาศจะไม่ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของจีนที่ให้กูเกิลตรวจหั่นการเข้าสืบค้นข้อมูลของผู้ใช้เว็บอีกต่อไป แม้กูเกิลอาจต้องถอนธุรกิจบนแดนมังกรก็ตาม
เชื่อกันว่า การเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสารทางอินเทอร์เน็ตของจีนเป็นระบบ ที่กว้างใหญ่มาก โดยจีนได้ว่าจ้างผู้คนหลายพันคนทำการ โดยอ้างว่า เพื่อสกัดสื่อลามกอนาจาร และที่ผ่านมาก็มีการกล่าวหากูเกิล,ไมโครซอฟต์,ยาฮู! และซิสโก้ ว่า ยอมให้ความร่วมมือกับจีนเป็นอย่างดี
นางคลินตันยังเรียกร้องให้บริษัทอื่นดำเนินรอยตามกูเกิล และไม่ยอมจำนนจีน โดยคำนึงถึงความถูกต้อง มิใช่เห็นแก่ผลกำไรที่รวดเร็วเท่านั้น
“ภาคเอกชนมีความรับผิดชอบร่วมกันในการช่วยปกป้องการแสดงออกอย่างเสรี” นางคลินตันระบุ
ด้านโกลบอล ไทมส์ หนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งบริหารงานโดยพีเพิ่ลส์เดลี กระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ศอกกลับทันควันว่า ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้เปิดเสรีทางอินเทอร์เน็ตในจีนเป็นรูปแบบหนึ่งของ“ลัทธิจักรวรรดินิยมด้านข้อมูลข่าวสาร”ของตะวันตก
“สหรัฐฯเรียกร้องไม่ให้เซ็นเซอร์ และให้ข้อมูลไหลเข้ามาในอินเทอร์เน็ตอย่างไม่จำกัดนั้น เป็นการอำพรางความพยายาม ที่จะกำหนดคุณค่าของตนบนวัฒนธรรมของผู้อื่นในนามของประชาธิปไตย” โกลบอล ไทมส์ ระบุในบทบรรณาธิการ
ด้านนายอีริก ชมิดต์ ประธานกรรมการบริหารของกูเกิลกล่าวในวันเดียวกับสุนทรพจน์ของคลินตันว่า กูเกิลกำลังมีการเจรจากับรัฐบาลจีนอยู่ในขณะนี้ และธุรกิจของกูเกิลในจีนวันนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยกูเกิลยังคงเซ็นเซอร์การสืบค้นข้อมูลของผู้เข้ามาใช้เว็บตามกฎหมายของจีน แต่ในระยะเวลาอันใกล้ กูเกิลจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ นอกจากนั้น นายชมิดต์ยังย้ำด้วยว่า กูเกิลปรารถนาทำธุรกิจในจีนต่อไป ทว่าภายใต้เงื่อนไข ซึ่งแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน