เวที “จีบีซี” "ประวิตร" นำทีมนายทหารระดับสูงกัมพูชา ถก ย้ำสัมพันธ์กองทัพสองชาติแน่นแฟ้น “เตียบันห์ ” ยัน คดีจับวิศวกรไทย ไม่เกี่ยวกับการเมือง แจง ไม่ได้ปิดน่านน้ำ แค่เปลี่ยนตัว "ผู้ว่าฯ เกาะกง" ต้องจ่ายค่าสัมปทานใหม่ ส่วนเรื่องปรับลดกำลังทหารให้ มทภ. สองฝ่ายคุยกัน
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จ.ชลบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 และ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปฝ่ายไทย ได้แถลงข่าวร่วมกับฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหม พล.อ. เมี้ยะ สุ เพี๊ยะ รองผบ. สส. ผบ.ทบ. พล.ร.ท. เตียร์ วิน ผบ.ทร. พล.ท.เนิม สุวัต เจ้ากรมนโยบายและกิจการต่างประเทศ พล.อ.ท.เซิง ซอมนาง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ท.ซก เพียบ รองเสนาธิการทหาร พล.ต.เจีย มอน ผบ.ทหารภูมิภาคที่ 4 ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ครั้งที่ 6
พล.อ.ประวิตร แถลงผลการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพโดยเรามุ่งเน้นกรอบอำนาจหน้าที่ โดยต่างคนต่างสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันเพื่อทำให้ชายแดนไทยกัมพูชามีความสงบเรียบร้อยและเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชนสองประเทศไปมาหาสู่กันได้ ประกอบอาชีพได้ ตนและพล.อ.เตีย บันห์ เห็นพ้องต้องกันมีข้อสรุปดังนี้ 1. กองทัพของเราทั้ง 2 ประเทศตามแนวชายแดนไม่ว่าทางบก ทางทะเล ยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดน โดยจะมีการติดต่อประสานงานกันทุกระดับ เพื่อสร้างความเข้าใจ ขจัดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ 2.กองทัพของสองประเทศตลอดแนวชายแดนจะอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนสองประเทศให้สามารถทำมาค้าขายตามแนวชายแดน และไปมาหาสู่กันได้ มีการท่องเที่ยวมีการเดินทางไปร่วมกิจกรรมด้วยกัน และได้รับความสะดวกสบายอย่างที่เคยปฏิบัติมา
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า 3. กองทัพทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าจะดำรงความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศทั้งสองและระหว่างประชาชนทั้งสองโดยยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อตกลงบนพื้นฐานความเข้าใจ จริงใจ ความเท่าเทียม ในฐานะสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดน ติดต่อกัน และ 4. กองทัพไทยและกองทัพกัมพูชาจะสนับสนุนภารกิจกลไก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทุกระดับ เพื่อดำรงความสัมพันธ์ระหว่างไทย กัมพูชาให้แน่นแฟ้น โดยมีป้าหมายสูงสุดคือประชาชนสองประเทศต้องมีความปลอดภัย และพื้นที่ตามแนวชายแดนต้องมีความสงบสุขและสันติภาพอย่างยั่งยืนตลอดไป
เมื่อถามว่า การประชุมสะท้อนให้เห็นว่าแม้รัฐบาลจะมีปัญหา แต่การทหารยังสัมพันธ์กันดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้สะท้อนอะไร เพียงแต่ จีบีซี เป็นการประชุมที่เป็นไปตามขั้นตอนของการดำเนินการ ซึ่งทางด้านการทหารเรามีการติดต่อประสานงานกัน ส่วนทางรัฐบาลเขาก็มีการคุยกัน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน เพราะการประชุม จีบีซี เป็นการประชุมเรื่องชายแดน เพื่อทำให้ประชาชนตามแนวชายแดนไทยอยุ่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งเป็นช่องทางในประสานงานกันในเรื่องชายแดน เมื่อถามว่า กองทัพสองประเทศรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่ที่รัฐบาลสองประเทศมีปัญหากัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องแยกแยะ ถ้าเป็นเรื่องไม่สบายใจคงเป็นเรื่องของคนทั้งสองประเทศ ซึ่งมุมมองของตนคิดว่าน่าจะค่อยๆ แก้ไขกันไป ทางกัมพูชาและไทยก็ต้องแก้ไข เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ทางทหารจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลสองประเทศดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.เตียบันห์ กล่าวว่า ขอยืนยันด้วยความหนักแน่นว่า อย่างน้อยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะมีปัญหาขยายกว้างออกไปรวบรัดมากขึ้น ส่วนกำลังทหารที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมาทำได้ดีมาก
เมื่อถามถึง การปิดน่านน้ำบริเวณเกาะกง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กัมพูชาไม่ได้ปิด แต่เขาอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งในที่ประชุม พล.อ.เตีย บันห์ ท่านบอกว่าไม่ได้ปิด แต่กำลังเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ซึ่งเมื่อนายกฯ ฮุนเซน ลงนามก็คงดำเนินการต่อไป เมื่อมีการเสียค่าภาคหลวงก็จบ เมื่อถามว่า สัมปทานน่านน้ำเกาะกงจะเสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่คงกำหนดไม่ได้ ปล่อยให้เขาทำงาน แต่คุยกันอยู่แล้ว
ด้าน พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้อยากพูดเป็นภาษาไทย เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับเรื่องทำมาหากินตามแนวชายแดนทะเล ความจริงไม่ได้มีการปิดน่านน้ำ แต่มีการปรับการดูแลสัมปทานนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างจะต้องเข้าที่เข้าทาง เรียบร้อย ไม่มีปัญหาที่จะสร้างความยุ่งยาก เพราะจุดประสงค์ของทางฝ่ายกัมพูชา ขอยืนยันว่าสิ่งที่จะทำให้เกิดความกระทบกระทั่งถึงการทำมาหากิน และ การใช้ชีวิตประจำวัน เราจะพยายามหลีกเลี่ยงเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งเกิดขึ้นกับผลผลประโยชน์ ที่ผ่านมามีการปรับนิดหน่อยเพราะเรามีระเบียบระยะเวลากำหนดในการสัมปทานในประเทศ ดังนั้นเมื่อหมดอายุแล้ว ก็เข้าไปต่ออายุได้เลยไม่มีปัญหา ดังนั้น ไม่มีอะไรที่จะขัดขวางการประกอบอาชีพ และเราพยายามผลักดันเรื่องนี้อยู่แล้ว
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีการพูดจากกันตั้งแต่ครั้งที่แล้วว่าเราจะดำเนินการต่อไปอย่างไรในรายละเอียด ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยปฏิบัติจะไปดำเนินการ ซึ่งการดำเนินการไม่มีอุปสรรค เพียงแต่เป็นเรื่องการติดต่อประสานงาน ในเรื่องของตัวหนังสือเท่านั้น เมื่อถามถึง การจัดกำลังทหารตามแนวชายแดน พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของหน่วยทหารในพื้นที่จะตกลงกันให้เกิดสันติภาพ และ ให้เกิดความเรียบร้อย เป็นเรื่องแม่ทัพในพื้นที่ที่ต้องทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ
เมื่อถามว่า ได้มีการหยิบยกกรณีการช่วยเหลือ นายศิวรักษ์ ชุตินันท์ วิศวกรชาวไทยขึ้นมาหารือหรือไม่ พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของฝ่ายทหาร ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กฎหมาย และหลักสากล ซี่งเราจะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่มีอะไรเกินขอบเขต โดยยึดตามหลักสากล ทั้งนี้ ตนมีความเชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหานี้จะเป็นไปด้วยความยุติธรรม เมื่อถามว่า ทางกัมพูชา เห็นว่าทาง ศิวรักษ์ ผิดจริงหรือไม่ พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งปัญหาทีเกิดขึ้นเป็นการคุมตัวให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า โทษของวิศกรจะหนักแค่ไหน พล. อ. เตีย บันห์ กล่าวว่า เรื่องโทษหนักเบาเท่าไหร่ อาศัยความยุติธรรมและการตัดสิน ที่มีลักษณะเพียงพอ เพื่อให้เคารพการตัดสินทางกฎหมาย เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ทางทหารจะช่วยลดโทษจากหนักไปเบาหรือไม่ พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่าทางฝ่ายทหารมีความสามารถในการเข้าร่วมเพื่อจะให้การดำเนินการเป็นไปด้วยดี และการช่วยเหลือวิศวกรน่าจะมีความสามารถที่จะอำนวยความสะดวกให้วิศวกร
เมื่อถามว่า แสดงว่าพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามาช่วยเหลือก็ช่วยไม่ได้ใช่หรือไม พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า ตนจะชี้แจงด้วยความชัดเจนว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย การดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินการตามกฎหมายจะได้บรรลุไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า เกรงว่าปัญหาวิศวกรจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว พล.อ.ประวิตร กล่าวสวนในทันทีด้วยน้ำเสียงน้ำหนัก ว่า ไม่เป็นอย่างนั้นหรอก
เมื่อถามว่า กระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา จะควบคุมตัววิศวกรไทยนานแค่ไหน พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า สบายใจได้เลยว่าการปฏิบัติทุกอย่างจะยึดตามหลักที่ควรปฏิบัติทั้งหมด ที่มีอยู่ ตามตัวบทกฎหมายระหว่างประเทศ และ กฎหมายสากลที่บังคับใช้อยู่ ทางกัมพูชายืนยันว่า จะปฏิบัติให้ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นย่อมไม่มีอะไร ที่จะทำให้กระทบกระทั่ง หรือ เอาปัญหาอื่นๆ มาเกี่ยวพันเด็ดขาด ขอยืนยันด้วยจิตใจว่ากัมพูชาปฏิบัติเช่นนั้น ส่วนวิศวกรไทยจะถูกคุมตัวในคุกกัมพูชานานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินการ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความผิดว่าอยู่ขั้นไหน ซึ่งขั้นตอนของมันมีอยู่ และที่ไหนก็มีเหมือนกันทั้งหมด
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าการจับวิศวกรไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง พล.อ. เตีย บันห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง แต่เป็นการปฏิบัติที่เกิดจากความผิดตามกฎหมายกัมพูชา