นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.เพื่อไทย ออกมาปล่อยข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวมายังกัมพูชาเพื่อร่วมงานประเพณีลอยกระทงและขอบคุณสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่เชิญให้มาพำนักในกัมพูชา และปกป้องไม่ส่วตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนว่า ตนยังไม่ได้ยิน แต่ถ้าหากเดินทางไปกัมพูชาจริงประเทศไทยก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าที่เดินทางไปกัมพูชา และกำลังจะไปมาเลเซียไปในนามของคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเห็นทางกรรมาธิการฯบอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา เมื่อถามว่าแย้งว่าเห็นประธานกรรมาธิการชายแดนไทย ก็ออกมายอมรับว่ามอบให้พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบผู้นำมาเลเซีย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องสับสนของระบบ เรื่องการทำงานของแต่ละบุคคล ก็ต้องไปดูว่าถ้าเกิดประธานกรรมาธิการฯ ไปทำอะไรที่กรรมาธิการเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของกรรมาธิการฯ เขาก็ต้องไปว่ากันเองเป็นเรื่องภายในของเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดความสับสนหรือไม่พล.อ.ชวลิต ตัดหน้าพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นักการเมืองไทย ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะไปพบปะกับใครที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น ขออย่างเดียวไปแล้วทำอะไรให้เป็นโยชน์ต่อประเทศอย่าไปทำอย่างอื่น
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะไปขอบคุณสมเด็จฮุนเซน ที่ประเทศกัมพูชาว่าก็ต้องติดตามดูก่อน เพราะแค่ประกาศคงไปขอตัวไม่ได้ ถ้าเรารู้ทันที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปในกัมพูชาและอยู่ถาวร เรามีหลักฐานชัดเจนก็ทำเรื่องขอตัวไป
ถ้าเขาเข้าไป 3 -5 ชั่วโมง วันเดียว ผมจะไล่เขาทันหรือ ผมก็ไม่มีเครื่องบินเจต ส่วนตัวที่จะไปไล่จับคุณทักษิณ ผมก็ต้องซื้อตั๋วไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศเตือนพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ให้ระวังการเดินสายพบผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเพราะจะเป็นการทำการเมืองไม่สร้าง สรรค์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบอะไรแทนกระทรวงการต่างประเทศได้
ส่วนการเคลื่อนไหวของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ไม่พอใจ การ กระทำของสมเด็จฮุนเซน ที่จะให้การต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างคงใช้อารมณ์ไม่ได้ และเราควรจะคำนึงถึงการมีสัมพันธภาพที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการแสดงออก ก็ทำได้ปกติ แต่ขอให้อยู่ในกฎหมาย ส่วนการประกาศจะไปล้อมสถานทูตกัมพูชานั้นก็ต้องบอกว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแล คุ้มครองสถานทูตประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติของทุกรัฐบาลทุกประเทศ
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลได้ชี้แจงไปแล้วแต่ก็ยังมีการประกาศที่จะเคลื่อนไหวอยู่จะทำอย่าง ไร นายสุเทพ กล่าวว่า ประเทศเรามีหลายกลุ่มและแต่ละคนมีเป้าหมาย ทางการเมืองแตกต่างกัน แต่จะต่างกันอย่างไรก็ควรมีสิ่งที่ควรคำนึงถึงเหมือนกันคือ ความอยู่รอดของประเทศไทย หากคิดอย่างนี้ก็ไม่ออกนอกกรอบและไม่เป็นปัญหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าการที่ พล.อ.ชวลิต เดินทาง ไปพบนายกรัฐมนตรีกัมพูชา คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะนายกรัฐมนตรี พูดไปหมดแล้ว ต้องไปเรียนถาม พล.อ.ชวลิต ว่าท่านดำเนินการอย่างไร ถือเป็นวิจารณญาณของท่านที่จะทำ ตนอยากให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ในภาพรวม ขณะนี้ประเทศชาติกำลังเดินไปข้างหน้าด้วยดีไม่อยากให้มีอะไรทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจ
ส่วนการเดินสายไปพบผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนของ พล.อ.ชวลิต จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ต้องแยกแยะเรื่องความเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน แต่เรื่องของประเทศชาติและส่วนรวมจะต้องแยกกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามแนวชายแดน ขณะนี้ทหารทั้งสองฝ่ายก็พูดจากันเรียบร้อย ซึ่งเรามีคณะกรรมการพิจารณาทุกขั้นตอนและกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการพบกันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนกันก็ว่ากันไป
การไปเยือนมาเลเซีย และพม่าของพล.อ.ชวลิต เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ไม่ใช่เรื่องของประเทศชาติ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จะต้องหวังดีกับประเทศชาติ แต่ทุกอย่างที่ทำไปเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าการกระทำของ พล.อ.ชวลิต คล้ายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องพิจารณาดูภาพรวมทุกฝ่าย ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว และเขาก็พูดออกมาแล้วว่า สิ่งไหนที่เป็นในส่วนของราชการก็เป็นเรื่องของราชการ เรื่องของประเทศชาติ แต่ส่วนเรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัว ต้องแยกแยะกันให้ดี
ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน เป็นห่วงเรื่องการเผชิญหน้าของทหารทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร จะมีการนำเรื่องดังกล่าวหารือ ในการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คุยกันอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ของกัมพูชา ที่ยกหูพูดคุยทางโทรศัพท์ตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ความสัมพันธ์ทางทหารของทั้งสองกองทัพยังดีอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินผ่านรายการวิทยุชุมชนคนรักอุดร และเชื่อมสัญญาณมายังวิทยุชุมชนคนรักแท๊กซี่ในกรุงเทพฯว่า โดยกล่าวถึงสัมพันธ์ระหว่างตนกับสมเด็จฮุนเซนว่า ไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน แต่สมัยที่กัมพูชามีการเลือกตั้งครั้งแรก ตนไปช่วยพรรคประชาชนกัมพูชา(ซีพีพี) วางแคมเปญพรรคให้ เอาดาราไปจัดคอนเสิร์ต
ที่กล่าวหาผมเรื่อง บริษัทชินคอร์ป ได้รับใบอนุญาติเรื่องโทรศัพท์ บริษัทชินฯไม่ใช่ผมเจ้าแรกที่ได้ เป็นเจ้าที่สามแล้ว แต่ธุรกิจชินคอร์ปก็ได้ขายไปแล้ว บอกเรื่องมีผลประโยชน์เรื่องน้ำมันก็ไม่จริง ไม่เคยทำเลย มีแต่ความเป็นเพื่อนสมัยที่สมเด็จฮุนเซนตั้งพรรคซีพีพีกับพรรคไทยรักไทย เป็นพันธมิตรกันมานาน ท่านยังจำได้ไหมช่วงเกิดเหตุสถานทูตไทยในกัมพูชาถูกเผา ผมสั้งให้เอาเครื่องบินไปรับคนเรากลับ เอาคอมมานโดไปด้วย ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้เราไม่ได้ไปรุกราน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง สนับสนุน ผมใจยังสู้ สู้เพื่อความเป็นธรรมให้ประเทศ วันนี้ปล่อยให้คนไร้อาชีพยึดการเมืองเป็นอาชีพ วันนี้พร้อมใจกันทุจริตกันแต่มีคนปกป้องกัน เพราะฉะนั้นเราต้องอดทนอีกไมนานสิ่งเหล่านี้จะหมดไป สำคัญเราอย่าไปหมดกำลังใจ อย่าล้า อย่าเหนื่อย พวกมันจะดูถูก มีผู้ใหญ่คนหนึ่งคุยกับพรรคพวกผมบอก อีกไม่นานเสื้อแดงฝ่อหมด เพราะฉะนั้นเราอย่าล้า อย่าเหนื่อย ผมไม่ยอมแพ้แน่ ตราบใดบ้านเมืองไม่มีความเป็นธรรม
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไปกัมพูชาแน่เร็วๆนี้ เพราะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีปราศรัย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี บอกกับพี่น้องคนเสื้อแดง ว่า เดี๋ยวผมจะมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้พี่น้องได้มาเยี่ยมบ้างซึ่งตนเข้าใจว่าท่านจะมาประเทศกัมพูชา เร็วๆ นี้ เพียงแต่ไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนเท่านั้น ไม่รู้ว่ามาแล้วจะเข้าพักบ้านที่สมเด็จฮุนเซนสร้างให้หรือไม่ เหตุที่ท่านมากัมพูชาอาจเป็นเพราะว่าที่ท่านจะเดินทางมาใกล้ๆเพราะอยากให้พวกเราได้ไปเยี่ยมเยียนท่าน เพราะค่าใช้จ่ายสูงในการเดินทางไปนครดูไบ ครั้งหนึ่งประมาณ 4 หมื่นบาท หากมาอยู่ประเทศกัมพูชาจะได้เดินทางไปหาได้ง่ายๆ ไปทางจ.อุบลธานี หรือจ.สุรินทร์ ก็ได้ ท่านมาเมื่อไหร่ตั้งใจว่าจะนำพี่น้อง1000คนไปเยี่ยมเยียน การมาครั้งนี้ไม่ทราบว่าตรงกับวันที่2พ.ย.ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงหรือไม่ เพราะท่านโฟนอินมาบนเวที ไม่ได้ระบุรายละเอียดอะไรมาก
ส่วนที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าที่เดินทางไปกัมพูชา และกำลังจะไปมาเลเซียไปในนามของคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเห็นทางกรรมาธิการฯบอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา เมื่อถามว่าแย้งว่าเห็นประธานกรรมาธิการชายแดนไทย ก็ออกมายอมรับว่ามอบให้พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบผู้นำมาเลเซีย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องสับสนของระบบ เรื่องการทำงานของแต่ละบุคคล ก็ต้องไปดูว่าถ้าเกิดประธานกรรมาธิการฯ ไปทำอะไรที่กรรมาธิการเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของกรรมาธิการฯ เขาก็ต้องไปว่ากันเองเป็นเรื่องภายในของเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดความสับสนหรือไม่พล.อ.ชวลิต ตัดหน้าพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นักการเมืองไทย ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านจะไปพบปะกับใครที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น ขออย่างเดียวไปแล้วทำอะไรให้เป็นโยชน์ต่อประเทศอย่าไปทำอย่างอื่น
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศจะไปขอบคุณสมเด็จฮุนเซน ที่ประเทศกัมพูชาว่าก็ต้องติดตามดูก่อน เพราะแค่ประกาศคงไปขอตัวไม่ได้ ถ้าเรารู้ทันที่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปในกัมพูชาและอยู่ถาวร เรามีหลักฐานชัดเจนก็ทำเรื่องขอตัวไป
ถ้าเขาเข้าไป 3 -5 ชั่วโมง วันเดียว ผมจะไล่เขาทันหรือ ผมก็ไม่มีเครื่องบินเจต ส่วนตัวที่จะไปไล่จับคุณทักษิณ ผมก็ต้องซื้อตั๋วไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศเตือนพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ให้ระวังการเดินสายพบผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเพราะจะเป็นการทำการเมืองไม่สร้าง สรรค์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบอะไรแทนกระทรวงการต่างประเทศได้
ส่วนการเคลื่อนไหวของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ไม่พอใจ การ กระทำของสมเด็จฮุนเซน ที่จะให้การต้อนรับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างคงใช้อารมณ์ไม่ได้ และเราควรจะคำนึงถึงการมีสัมพันธภาพที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการแสดงออก ก็ทำได้ปกติ แต่ขอให้อยู่ในกฎหมาย ส่วนการประกาศจะไปล้อมสถานทูตกัมพูชานั้นก็ต้องบอกว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแล คุ้มครองสถานทูตประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติของทุกรัฐบาลทุกประเทศ
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลได้ชี้แจงไปแล้วแต่ก็ยังมีการประกาศที่จะเคลื่อนไหวอยู่จะทำอย่าง ไร นายสุเทพ กล่าวว่า ประเทศเรามีหลายกลุ่มและแต่ละคนมีเป้าหมาย ทางการเมืองแตกต่างกัน แต่จะต่างกันอย่างไรก็ควรมีสิ่งที่ควรคำนึงถึงเหมือนกันคือ ความอยู่รอดของประเทศไทย หากคิดอย่างนี้ก็ไม่ออกนอกกรอบและไม่เป็นปัญหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่าการที่ พล.อ.ชวลิต เดินทาง ไปพบนายกรัฐมนตรีกัมพูชา คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะนายกรัฐมนตรี พูดไปหมดแล้ว ต้องไปเรียนถาม พล.อ.ชวลิต ว่าท่านดำเนินการอย่างไร ถือเป็นวิจารณญาณของท่านที่จะทำ ตนอยากให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข ในภาพรวม ขณะนี้ประเทศชาติกำลังเดินไปข้างหน้าด้วยดีไม่อยากให้มีอะไรทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจ
ส่วนการเดินสายไปพบผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนของ พล.อ.ชวลิต จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่นั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ต้องแยกแยะเรื่องความเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน แต่เรื่องของประเทศชาติและส่วนรวมจะต้องแยกกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามแนวชายแดน ขณะนี้ทหารทั้งสองฝ่ายก็พูดจากันเรียบร้อย ซึ่งเรามีคณะกรรมการพิจารณาทุกขั้นตอนและกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการพบกันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนกันก็ว่ากันไป
การไปเยือนมาเลเซีย และพม่าของพล.อ.ชวลิต เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ไม่ใช่เรื่องของประเทศชาติ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จะต้องหวังดีกับประเทศชาติ แต่ทุกอย่างที่ทำไปเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าการกระทำของ พล.อ.ชวลิต คล้ายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องพิจารณาดูภาพรวมทุกฝ่าย ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว และเขาก็พูดออกมาแล้วว่า สิ่งไหนที่เป็นในส่วนของราชการก็เป็นเรื่องของราชการ เรื่องของประเทศชาติ แต่ส่วนเรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัว ต้องแยกแยะกันให้ดี
ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน เป็นห่วงเรื่องการเผชิญหน้าของทหารทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร จะมีการนำเรื่องดังกล่าวหารือ ในการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คุยกันอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ของกัมพูชา ที่ยกหูพูดคุยทางโทรศัพท์ตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ความสัมพันธ์ทางทหารของทั้งสองกองทัพยังดีอยู่
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินผ่านรายการวิทยุชุมชนคนรักอุดร และเชื่อมสัญญาณมายังวิทยุชุมชนคนรักแท๊กซี่ในกรุงเทพฯว่า โดยกล่าวถึงสัมพันธ์ระหว่างตนกับสมเด็จฮุนเซนว่า ไม่เคยทำธุรกิจร่วมกัน แต่สมัยที่กัมพูชามีการเลือกตั้งครั้งแรก ตนไปช่วยพรรคประชาชนกัมพูชา(ซีพีพี) วางแคมเปญพรรคให้ เอาดาราไปจัดคอนเสิร์ต
ที่กล่าวหาผมเรื่อง บริษัทชินคอร์ป ได้รับใบอนุญาติเรื่องโทรศัพท์ บริษัทชินฯไม่ใช่ผมเจ้าแรกที่ได้ เป็นเจ้าที่สามแล้ว แต่ธุรกิจชินคอร์ปก็ได้ขายไปแล้ว บอกเรื่องมีผลประโยชน์เรื่องน้ำมันก็ไม่จริง ไม่เคยทำเลย มีแต่ความเป็นเพื่อนสมัยที่สมเด็จฮุนเซนตั้งพรรคซีพีพีกับพรรคไทยรักไทย เป็นพันธมิตรกันมานาน ท่านยังจำได้ไหมช่วงเกิดเหตุสถานทูตไทยในกัมพูชาถูกเผา ผมสั้งให้เอาเครื่องบินไปรับคนเรากลับ เอาคอมมานโดไปด้วย ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้เราไม่ได้ไปรุกราน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง สนับสนุน ผมใจยังสู้ สู้เพื่อความเป็นธรรมให้ประเทศ วันนี้ปล่อยให้คนไร้อาชีพยึดการเมืองเป็นอาชีพ วันนี้พร้อมใจกันทุจริตกันแต่มีคนปกป้องกัน เพราะฉะนั้นเราต้องอดทนอีกไมนานสิ่งเหล่านี้จะหมดไป สำคัญเราอย่าไปหมดกำลังใจ อย่าล้า อย่าเหนื่อย พวกมันจะดูถูก มีผู้ใหญ่คนหนึ่งคุยกับพรรคพวกผมบอก อีกไม่นานเสื้อแดงฝ่อหมด เพราะฉะนั้นเราอย่าล้า อย่าเหนื่อย ผมไม่ยอมแพ้แน่ ตราบใดบ้านเมืองไม่มีความเป็นธรรม
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะไปกัมพูชาแน่เร็วๆนี้ เพราะ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีปราศรัย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี บอกกับพี่น้องคนเสื้อแดง ว่า เดี๋ยวผมจะมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้พี่น้องได้มาเยี่ยมบ้างซึ่งตนเข้าใจว่าท่านจะมาประเทศกัมพูชา เร็วๆ นี้ เพียงแต่ไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนเท่านั้น ไม่รู้ว่ามาแล้วจะเข้าพักบ้านที่สมเด็จฮุนเซนสร้างให้หรือไม่ เหตุที่ท่านมากัมพูชาอาจเป็นเพราะว่าที่ท่านจะเดินทางมาใกล้ๆเพราะอยากให้พวกเราได้ไปเยี่ยมเยียนท่าน เพราะค่าใช้จ่ายสูงในการเดินทางไปนครดูไบ ครั้งหนึ่งประมาณ 4 หมื่นบาท หากมาอยู่ประเทศกัมพูชาจะได้เดินทางไปหาได้ง่ายๆ ไปทางจ.อุบลธานี หรือจ.สุรินทร์ ก็ได้ ท่านมาเมื่อไหร่ตั้งใจว่าจะนำพี่น้อง1000คนไปเยี่ยมเยียน การมาครั้งนี้ไม่ทราบว่าตรงกับวันที่2พ.ย.ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงหรือไม่ เพราะท่านโฟนอินมาบนเวที ไม่ได้ระบุรายละเอียดอะไรมาก
