“ประวิตร” แนะ “จิ๊ว” พบผู้นำอาเซียนต้องแยกแยะ-ใช้วิจารณญาณ ทำเพื่อบ้านเมือง หรือส่วนตัว บอกยกหูคุย “เตีย บันห์” ตลอด ไม่มีปัญหา ชี้ สัมพันธ์ทางทหารของทั้งสองกองทัพยังราบรื่นดีอยู่
วันนี้ (29 ต.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ตระเวนเดินสายพบผู้นำประเทศเพือนบ้าน ว่า การเดินทางไปพบสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะนายกรัฐมนตรีพูดไปหมดแล้ว ต้องไปเรียนถาม พล.อ.ชวลิต ว่า ท่านดำเนินการอย่างไร ถือเป็นวิจารณญาณของท่านที่จะทำ ตนอยากให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุขในภาพรวม ขณะนี้ประเทศชาติกำลังเดินไปข้างหน้าด้วยดี ไม่อยากให้มีอะไรทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจ
เมื่อถามว่า การตระเวนพบผู้นำอาเซียนของ พล.อ.ชวลิต ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องแยกแยะเรื่องความเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน แต่เรื่องของประเทศชาติและส่วนรวมจะต้องแยกกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามแนวชายแดน ขณะนี้ทหารทั้งสองฝ่ายก็พูดจากันเรียบร้อย ซึ่งเรามีคณะกรรมการพิจารณาทุกขั้นตอน และกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการพบกันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนกันก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิต มีกำหนดการที่จะเดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย และพม่า พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ไม่ใช่เรื่องของประเทศชาติ ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้วก็จะต้องหวังดีกับประเทศชาติ แต่ทุกอย่างที่ทำไปเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าการกระทำของ พล.อ.ชวลิต คล้ายเป็นการชักศึกเข้าบ้าน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องพิจารณาดูภาพรวมทุกฝ่าย ซึ่งมีความชัดเจนอยู่แล้ว และเขาก็พูดออกมาแล้วว่า สิ่งไหนที่เป็นในส่วนของราชการก็เป็นเรื่องของราชการ แต่ส่วนเรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องไหนเป็นเรื่องของประเทศชาติ ก็เป็นเรื่องของประเทศชาติต้องแยกแยะกันให้ดี
เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน เป็นห่วงเรื่องการเผชิญหน้าของทหารทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติงานอยู่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร จะมีการนำเรื่องดังกล่าวหารือในการประชุม รมว.กลาโหม อาเซียนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คุยกันอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยกหูพูดคุยทางโทรศัพท์ตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางทหารของทั้งสองกองทัพยังดีอยู่
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ว่า ในที่ประชุมได้สรุปผลการทำงานของศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย (ศอร.รปภ.) ซึ่งภาพรวมในการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในระหว่างการประชุม โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน ซึ่งผลการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างน่าพอใจ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคำชมเชยของนายกรัฐมนตรีมาบอกกับเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งท่านได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคน รวมทั้งกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีความสำคัญต่อการประชุมครั้งนี้
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ในวันที่ 1-3 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงกลาโหมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โดยเนื้อหาในการประชุมจะมีการพูดถึงภัยคุกคาม ความช่วยเหลือด้านบรรเทาภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการหารือในเรื่องของรูปแบบและองค์ประกอบของการที่จะให้มีประเทศคู่เจรจาเข้ามาร่วมประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน รวมทั้งจะมีการหารือถึงประเด็นความร่วมมือด้านความมั่นคง ซึ่งภายหลังการประชุมในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เวลา 12.00 น.รมว.กลาโหม จะเป็นผู้แถลงข่าวตอบข้อซักถามของสื่อมวลชน ส่วนในช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเป็นการเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรี และอาจจะมีการหารือระดับทวิภาคี หากมีการร้องขอ
