xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพไทย ย้ำสถานการชายแดนยังปกติ พร้อมอพยพคนไทยทันที หากมีเหตุรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พล.อ.รัชกฤต กาญจนวัฒน์
กองทัพไทย เชื่อสถานการณ์ไม่ถึงขึ้นสู้รบ ระบุทหารไทย-เขมร รอบเขาวิหาร เข้าใจกันดี เรียกทูตกลับเป็นเรื่องของ รบ. ระบุความสัมพันธ์ของ ปชช. ทั้งสองประเทศ ไปมาหาสู่ ค้าขายปกติ เผยพร้อมนำเครื่องบินซี 130 ประกบด้วยครื่องบินขับไล่ อพยพคนไทยในกัมพูชา ทันที หากมีเหตุรุนแรง

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. พล.อ.รัชกฤต กาญจนวัฒน์ เสนาธิการทหาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่จะมีการพิจารณาความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม มีการรวบรวมข้อมูลว่า ระหว่างไทยกับกัมพูชามีความร่วมมืออะไรบ้าง และเราเคยช่วยเหลือประเทศกัมพูชาอย่างไรบ้าง ซึ่งทางกองบัญชาการกองทัพไทย และทุกเหล่าทัพ ได้เตรียมข้อมูลทุกอย่างไว้แล้ว เพื่อเสนอให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พิจารณา ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างจะรับฟังนโยบายจากทางรัฐบาล และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทั้งนี้คาดว่า ภายในเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมสมช. เพื่อประเมินว่า จะมีดำเนินการอย่างไรต่อไป

“แม้จะมีท่าทีการเมืองของกัมพูชาออกมา และทางเรามีการเรียกเอกอัครราชทูตกลับไทย แต่ความความสัมพันธ์ระหว่างทหาร และกระทรวงกลาโหม ทั้งสองประเทศยังคงเปิดช่องทางไว้ ตลอด และจะมีการพูดคุยเจรจา เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายออกไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางไทยยังไม่มีแผนดำเนินการอะไรกับกัมพูชา และยังไม่มีแผนการไปรับตัวคนไทยกลับมาจากกัมพูชา ขณะนี้การเดินทางในกัมพูชายังปกติ ใครจะเดินทางกลับหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่ทางไทยมีแผนที่จะช่วยเหลือคนไทย และรับตัวคนไทยกลับในทุกๆประเทศอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อมั่นว่า คงไม่เกิดเหตุวุ่นวายอะไรซ้ำรอยเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เพราะจากบทเรียนดังกล่าว ทางกัมพูชาคงมีมาตรการองรับ ทั้งนี้ยังเชื่อว่า สถานการณ์การเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา จะไม่นำไปสู่การรบกัน ของทหารทั้งสองฝ่าย”พล.อ.รัชกฤต กล่าว

พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชายังคงเป็นปกติ ไม่มีเหตุรุนแรงอะไร กองทัพทั้งสองฝ่ายยังเข้าใจกันดี ขณะนี้ไม่มีการสั่งเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเติ่ม ยังคงกำลังไว้เช่นเดิม ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปพบปะและพูดคุยกับผู้บัญชาการกองกำลังภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ซึ่งทั้งสองฝ่ายยืนยันระดับความสัมพันธ์ทางทหารยังเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไร และทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของระดับรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งขณะนี้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายกำลังหาวิธีการแก้ปัญหากันอยู่

เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุรุนแรงกองทัพภาคที่ 2 มีมาตรการเตรียมอพยพคนไทยที่อยู่ในกัมพูชากลับประเทศอย่างไร พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า เรามีแผนปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้ว และมีการเตรียมการรองรับไว้อยู่แล้ว ทั้งนี้ กองทัพมีความพร้อมในการอพยพ หากจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายประชาชนกลับประเทศ อย่างไรก็ตาม ชายแดนไทยกัมพูชาขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติยังมีการค้าขายตามปกติ

แหล่งข่าวนายทหารระดับสูง ระบุว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชาขณะนี้ ยังอยู่ในระดับการดำเนินการทางการทูต ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการตามหลักสากลอยู่แล้ว ซึ่งการเรียกตัวคณะทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการลดระดับความสัมพันธ์ ทั้งนี้ ยังไม่มีการเชิญทูตทหารประจำประเทศกัมพูชากลับประเทศ แต่หากความขัดแย้งรุนแรงบานปลายถึงระดับตัดความสัมพันธ์ทางการทูตก็คงต้องเชิญทูตทหารไทยกลับประเทศเช่นกัน สำหรับการเตรียมความพร้อมหากเกิดความรุนแรง จนถึงขั้นต้องอพยพคนไทยกลับประเทศนั้น หน่วยงานด้านความมั่นคงมีการเตรียมแผนรองรับไว้อยู่

“โดยแผนการปฏิบัติกองบัญชาการกองทัพไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ในการประสานกำลังทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ เพื่อปฏิบัติภารกิจตามแผน ซึ่งการปฏิบัติจะยึดตามแผนเดิมที่เคยใช้ในกรณีที่อพยพคนไทยกลับ จากกรณีสถานทูตไทยในกัมพูชาถูกเผา เมื่อปี 2545 โดยกองทัพอากาศจะจัดส่งเครื่องบินซี 130 พร้อมเครื่องบินขับไล่ประกบ เพื่อดูแลความปลอดภัยในการรับคนไทยที่อยู่ในกัมพูชากลับประเทศ ทั้งในกรุงพนมเปญ เสียมราฐ โดยจุดนัดพบจะเป็นความลับ แต่คนไทยที่อยู่ในกัมพูชาจะรู้ เพราะเรามีการติดต่อประสานงานและให้ข้อมูล รวมถึงแผนการอพยพให้ทราบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากจะมีการดำเนินการนายกรัฐมนตรี ต้องเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อรับทราบแผนการปฏิบัติอีกครั้ง พร้อมทั้งประกาศสถานการณ์อย่างเป็นทางการ”แหล่งข่าวระบุ

มีรายงานว่า สำหรับบริเวณพื้นที่รอบสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญนั้น ทางการกัมพูชาได้จัดส่งกำลังตำรวจมา รปภ. สถานทูตฯ โดยให้เหตุผลว่าเกรงว่าจะมีคนกัมพูชา หรือ ผู้ไม่หวังดี บุกเข้าไปทำลายสถานทูต เหมือนครั้งก่อน ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของไทย จะได้พิจารณาเลื่อนการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในวันที่ 26-28 พ.ย.ที่ พัทยานี้ออกไปออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากทางการไทยมีนโยบายในการทบทวนความร่วมมือในด้านต่างๆกับกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น