ตราด-การค้าชายแดนตราดหยุดชะงัก หลังไทยเรียกทูตประจำกัมพูชากลับเพื่อตอบดต้การแต่งตั้ง"นช.ทักษิณ"เป็ฯที่ปรึกษา เลขาฯ หอตราดระบุผลกระทบหนักสุด ติดต่อผู้ใหญ่ในกัมพูชาไม่ได้ คาดกระทบระยะยาว ด้านนายกประมงตราดชี้ อาจต้องยกเลิกสัมปทาน ส่วนทหารชายแดนตราด เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
จากกรณ๊ที่รัฐบาลไทยเรียกทูตไทยกับจากพนมเปญเพื่อตอบโต้กรณีที่รัฐบาลกัมพูชาได้แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีให้เป็นที่ปรึกษาและจะไม่ส่งตัวให้ทางการไทยนั้น ที่บริเวณชายแดนบ้านหาดเล็กซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรไทยกัมพูชาด้าน จ.ตราด และ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา วันที่ 5 พ.ย.ประชาชนทั้ง 2 ประเทศยังคงเดินทางไปมาอย่างปกติ โดยที่ เจ้าหน้าที่ชายแดนทั้งด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 2 ประเทศยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติโดยไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นมา ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้าออกและค้าขายที่บริเวณตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กเป็นปกติเหมือนเดิม ขณะที่ชาวกัมพูชายังเดินทางเข้ามาซื้อสินค้ายังฝั่งไทยเช่นกัน รวมทั้งคนไทยยังเดินทางเข้าไปยังประเทศกัมพูชาตามปกติ และมีบางส่วนยังเดินทางเข้าไปเล่นการพนันที่บ่อนกาสิโนเหมือนปกติทุกวัน อย่างไรก็ตาม หลังจากทราบการตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตของรัฐบาลไทยแล้ว แม้จะเกิดความวิตกกังวลบ้าง แต่คำสั่งจากรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศยังไม่สั่งการใด ๆ ในเรื่องของการปิดจุด ผ่านแดนถาวรที่บ้านหาดเล็ก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางดวงใจ จันทร เลขาธิการหอการค้าตราด และกรรมการหอการค้าไทยด้านชายแดน เปิดเผยว่า สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั้ง 2 เป็นอันมาก เนื่องจากเป็นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตที่รัฐบาลไทยดำเนินการก่อนแม้รัฐบาลกัมพูชาจะยังไม่ดำเนินการใด ๆ ตอบโต้ แต่ในขณะนี้ ตนเองยังไม่สามารถบุคคลระดับสูงในรัฐบาลกัมพูชาเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์และความเคลื่อนไหวได้เลย
รวมทั้งนักธุรกิจของกัมพูชาที่เคยติดต่อกันก็ยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน ปัญหานี้จะกระทบในระยะยาวโดยเฉพาะในเรื่องของการค้าและการลงทุนที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำข้อตกลงกันไว้ อาจจะต้องมีการทบทวนหรือยกเลิกสัญญาต่อกันรวมทั้งการสั่งสินค้าของนักธุรกิจกัมพูชาจะต้องยุติลง และอาจจะไม่สามารถค้าขายระหว่างกันได้อีก ในขณะที่ในระยะสั้น การค้าตามแนวชายแดนอาจจะได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะการสั่งสินค้าในแต่ละวันที่บริเวณท่าเรือส่งออกของ อ.คลองใหญ่ ที่เป็นท่าเรือที่ส่งสินค้าจากประเทศไทยสู่ประเทศกัมพูชา ที่มีมูลค่ามากกว่า 17,000 ล้านบาทต่อปี อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย
“ตอนนี้เรื่องการจัดงานแฟร์ หรืองานแสดงสินค้าที่ จ.เกาะกง เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติของประเทศกัมพูชา ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดได้เตรียมการจัดขึ้นในกลางเดือนมกราคม 2553 นี้ ซึ่ง จ.เกาะกง ได้ให้ จ.ตราด ตั้งบูท 400 บูท เพื่อแสดงสินค้า อาจจะไม่สามารถจัดขึ้นได้ หากปัญหาทั้ง 2 ประเทศยังเจรจาหาข้อยุติกันไม่ได้ และอาจจะต้องสูญเสียยอดการขายสินค้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจาในเบื้องต้อนไว้ มีมูลค่านับ 100 ล้านบาทได้ จึงขอแนะให้รัฐบาลไทยได้คำนึงถึงความสัมพันธ์ทางด้านการค้าระหว่าง 2 ประเทศด้วย”
อย่างไรก็ตาม ประธานหอการค้าตราดไม่ได้แสดงความเห็นต่อการที่รัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาและประกาศจะไม่ส่งตัวให้รัฐบาลไทยนั้น เป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบความสัมพันธ์หรือไม่
ทางด้านนายฐิติกร โหละคุปต์ นายกสมาคมประมง จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นแม้จะยังไม่เกิดผลกระทบกับธุรกิจประมงของ จ.ตราด และประเทศไทยในน่านน้ำกัมพูชาในขณะนี้ แต่ตั้งแต่เดือน พ.ย.52 จะเป็นเดือนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะได้มีการเจรจาเพื่อตกลงในรายละเอียดการเข้าไปทำสัมปทานทำประมงในกัมพูชา (เสียค่าน้ำ) หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ อาจจะทำให้การเจรจาต้องยุติลงชั่วคราว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการทำประมงในกัมพูชาที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทได้ และอาจจะทำให้ประเทศอื่นได้รับสัมปทานไปโดยที่ประเทศไทยอาจจะไม่ได้รับสัมปทานในกัมพูชาเลย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจประมงของ จ.ตราดและประเทศไทยมาก”
ส่วน น.อ.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ยังคงเป็นปกติ แม้จะมีการตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตจากรัฐบาลไทยไปแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ทางฝ่ายความมั่นคงได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการเดินทางเข้าออกของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชา หากไม่ได้รับความปลอดภัยก็พร้อมที่จะอพยพเข้ามา ขณะที่ ในเรื่องความมั่นคงชายแดนทหารไทยตามแนวชายแดนยังไม่ได้มีการเสริมกำลังหรือเตรียมความพร้อมเพื่อเผชิญหน้ากันแต่ประการใด ทั้ง 2 ฝ่ายยังพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนในเรื่องการค้านั้น มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาหรือผลกระทบ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งใด ๆ ปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก และจุดผ่อนปรนทางการค้าที่บ้าน มะม่วง รวมทั้งตลาดจำหน่ายสินค้าชายแดนบ้านท่าเส้น
ขณะที่นายประยุทธ์ มณีโชติ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์การค้าชายแดนไทยกัมพูชายังคงปกติ การค้าชายยังคงดำเนินการอยู่ อย่างไรก็ตาม หากคำสั่งทางรัฐบาลให้ปิดด่านทางตนเองในฐานะหน่วยงานในพื้นที่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง
สำหรับคนไทยและคนกัมพูชาที่เดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กจะมีจำนวน 2,000-3,000 คนต่อวัน และมีนักธุรกิจไทยเดินทางเข้าไปทำธุรกิจในกัมพูชาเช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รวมทั้งการเป็นพนักงานอยู่ที่บ่อนกาสิโนจำนวน 2-300 คน