xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มแล้ว! จีน-ไต้หวัน เจรจาข้อตกลงการค้าครั้งสำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชายชาวไต้หวันคนหนึ่งกำลังเก็บขยะไปขาย - ผลสำรวจด้านแรงงานของทางการไต้หวัน พบว่าในปี 2552 ประชาชนไต้หวัน มากกว่า 639,000 คน ตกเป็นผู้ว่างงาน ซึ่งกลายเป็นปัญหาและความวิตกของชาวมังกรน้อย ต่อการเจรจาการค้าร่วมกับจีนฯ ครั้งนี้อย่างยิ่ง (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - ทางการจีนและไต้หวันจะเริ่มการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าที่กรุงปักกิ่งในวันอังคารที่ 26 ม.ค. เพื่อปูทางนำไปสู่การกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกันมากขึ้น โดยข้อตกลงทางการค้าครั้งนี้จะมีผลเดิมพันโดยตรงต่ออนาคตและความเป็นตัวของตัวเองของไต้หวันด้วย

เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบไต้หวัน และสมาคมเพื่อความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันของจีนจะพบกันในวันอังคาร เพื่อหารือประเด็น“ข้อตกลงกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ” (Economic Cooperation Framework Agreement) เรื่องการลดกำแพงภาษี การเปิดเสรีการลงทุนทางการเงิน ตรวจสอบและสร้างโครงสร้างธุรกรรมการเงินใหม่ๆ

รัฐบาลของหม่า อิงจิ่ว กล่าวว่า สามารถรักษาอธิปไตยของไต้หวันได้ แม้จะทำการค้าขายใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น และยังรวมถึงกับการที่จะทำการค้ากับประเทศอาเซียนอื่นๆ ได้อย่างสบายใจด้วย

หม่าเห็นว่า มีแต่สร้างความสัมพันธ์กับจีนเท่านั้น ที่จะเป็นช่องดีที่สุดกับการแก้ปัญหาความโดดเดี่ยวทางการค้าระหว่างประเทศเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ไต้หวันล้าหลังคู่แข่งการค้าอื่นๆ อย่าง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และฮ่องกง และนับวันจะเลวร้ายลงถ้าไม่แก้ไขสถานการณ์นี้

ขณะที่ ฝ่ายที่เห็นตรงข้ามกับนโยบายเจรจาการค้าฯ ก็ปฏิเสธข้ออ้างของหม่า ด้วยเห็นว่า จะทำให้ไต้หวันพึ่งพิงด้านเศรษฐกิจกับจีนมากขึ้น อีกทั้งไม่สามารถสร้างผลประโยชน์เศรษฐกิจกับจีน

หลอ ฉื่อ-เฉิง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัย ซูโจว ในไทเป กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องถามเป้าหมายจริงๆของจีน ว่ามุ่งครอบงำเศรษฐกิจและการเมืองของไต้หวันใช่หรือไม่ หลอ ยังกล่าวว่า รัฐบาลคงเข้าใจอะไรผิดและน่าจะหลงทาง ที่อ้างว่าการยอมรับข้อตกลงนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจไต้หวันเติบโตขึ้น 1% เพราะเอาเข้าจริงสินค้าส่งออกจากจีนที่ทะลักเข้ามาในตลาด น่าจะทำลายสินค้าท้องถิ่น และแย้งว่าไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้จีนมาขัดขวางกดดันการค้าระหว่างภูมิภาคอาเซียนได้ ตรงกันข้ามข้อตกลงนี้จะยิ่งทำให้ไต้หวันไม่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

หลอ อ้างถึงความได้เปรียบทางการค้าของไต้หวันที่เคยมีเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ก่อนที่รัฐบาลของหม่าจะเข้าบริหารไต้หวันได้ลงทุนค้าขายในจีนเป็นจำนวนมาก นักธุรกิจไต้หวันสามารถสร้างโรงงานนับพันแห่งในจีน และส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากให้กับแผ่นดินใหญ่ โดยในปี 2551 มูลค่าการลงทุนของไต้หวันในจีน มีกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่พอหม่าเข้ามาบริหารฯ ในเดือน พฤษภาคม 2551 เท่านั้น ดุลยภาพก็เปลี่ยนไป พร้อมกับความเป็นตัวของตัวเองของไต้หวันซึ่งชูนโยบายแยกตัวเป็นเอกราชจากจีน มาตลอด 8 ปีก่อนที่หม่าจะมา

ขณะที่เสียงสะท้อนของความไม่พอใจต่อการบริหารและได้แสดงการต่อต้านอย่างเงียบๆ ต่อรัฐบาลของหม่าจากผลชัยชนะของฝ่ายค้านฯ ในการเลือกตั้งซ่อมท้องถิ่น และการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

ไช่ อิงเหวิน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้คือก้าวสำคัญในการกลับมาของพรรคดีพีพี และย้ำว่าคนไต้หวันต่างกังวลถึงผลกระทบจากข้อตกลงนี้ ที่จะทำให้ชาวจีนเข้ามาแย่งงานและธุรกิจมากขึ้น ผลก็คือจะมีคนไต้หวันตกงานนับแสน พร้อมกับเศรษฐกิจตกต่ำของประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น