เอเจนซี-เฉิน หยุนหลินทูตระดับสูงจากแผ่นดินใหญ่เสร็จสิ้นการเยือนไต้หวันในวันนี้(7 พ.ย.) กลุ่มประท้วงต้านจีนนับแสนปะทะตำรวจบาดเจ็บร่วมร้อย
การเยือนไทเปของเฉินหัวหน้าสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน (ARATS) นับเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์เนื่องจากเขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดที่จีนใหญ่ส่งมาเจรจากับไต้หวัน และบรรลุข้อตกลงเชื่อมโยงโดยตรงได้แก่การเพิ่มและขยายเที่ยวบินผู้โดยสารโดยตรง, การขนส่งทางอากาศและทางเรือ ตลอดจนการบริการตรงทางไปรษณีย์ ที่ทั้งสองตัดขาดกันมา 60 ปี
ผู้แทนจีนยังได้พบกับผู้นำหม่า อิงจิ่วประมุขดินแดนในวันพฤหัสฯ(6 พ.ย.) นับเป็นความเคลื่อนไหวสัมพันธ์อย่างเต็มพิกัดที่สุดครั้งแรกหลังจากที่ผู้นำก๊กมินตั่งเจียง ไคเช็ค แพ้สงครามกลางเมืองหนีมาตั้งรัฐบาลต่างหากที่เกาะไต้หวันปี 1949 ทั้งสองจีนเผชิญหน้ากันมาตลอด จนความขัดแย้งระหว่างช่องแคบได้กลายเป็นจุดอ่อนไหวและอาจคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค จีนถึงกับขู่ใช้กำลังยึดดินแดน หากไต้หวันเคลื่อนไหวอิสรภาพ กระทั่งรัฐบาลประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วแห่งก๊กมินตั่ง เข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม และหันมาสร้างมิตรไมตรีกับจีนใหญ่
แต่บรรยากาศการกระชับสัมพันธ์ครั้งนี้ ก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดเนื่องจากกลุ่มประท้วงต่อต้านจีนซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ที่หนุนอิสภาพไต้หวันของอดีตผู้นำเฉิน สุยเปี่ยน ในคืนวันพฤหัสฯ(6 พ.ย.) มีกลุ่มประท้วงนับแสนออกมาตามท้องถนนในไทเป จนเกิดการปะทะกับตำรวจ สำนักงานตำรวจไต้หวันเผย มีตำรวจบาดเจ็บมากกว่า 60 คน ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงาน ผู้ประท้วงและผู้สื่อข่าวมากกว่า 50 คน บาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้จัดการประท้วงบอกว่ามีผู้ประท้วงถึง 100,000 คน ขณะที่ตำรวจประมาณขนาดกลุ่มประท้วง 10,000 คน
ตำรวจปราบจลาจลพร้อมปืนฉีดน้ำได้รุดไปยังแกรนด์ โฮเท็ลในไทเป ที่พักของผู้แทนจีน เพื่อรับมือกับผู้ประท้วงกว่า 1,000 คน ผู้ประท้วงบางกลุ่มได้ขว้างปาไข่ ก้อนหิน ขวดน้ำ และระเบิดแก็สใส่ตำรวจขณะพยายามพังรั้วลวดหนามเข้าไป
เฉินกล่าวในที่ประชุมข่าวก่อนเดินทางกลับบ้าน ด้วยนัยน์ตาที่แดงเหมือนกับหลั่งน้ำตา พร้อมขอบคุนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย.