เอเจนซี- ในที่สุด จีน-ไต้หวัน ก็ได้จรดหมึกลงนามข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ เกี่ยวก้อยกระชับสัมพันธ์ เปิดเที่ยวบินโดยตรงระหว่างสองดินแดนประจำทุกวันศุกร์ถึงวันจันทร์ พร้อมไฟเขียวนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ไปยังไต้หวันมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน
เจียงปิ่นคุนประธานมูลนิธิความเชื่อมโยงระหว่างสองฝากฝั่ง ในฐานะผู้แทนจากไต้หวัน และเฉินหยุนหลิน ประธานสมาพันธ์ระหว่างสองฝากฝั่ง ในฐานะผู้แทนของจีน ได้ลงนามข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้เมื่อวันศุกร์ (13) ที่กรุงปักกิ่ง
การเปิดเที่ยวบินประจำโดยตรง จะเริ่มในวันที่ 4 กรกฎาคม โดยแต่ละฝ่ายจะกำหนดตารางเที่ยวบิน 18 เที่ยวบินในแต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันจันทร์ รวมแล้วก็จะมีเที่ยวบินระหว่างสองดินแดนสัปดาห์ละ 36 เที่ยวบิน จากที่ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายอนุญาตเที่ยวบินตรงระหว่างกัน เพียงในช่วงวันหยุดเทศกาลเท่านั้น
สำหรับข้อตกลงการเปิดกว้างการท่องเที่ยว ระบุว่าแต่ละฝ่ายจะสามารถส่งนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 3,000 คน ไปยังดินแดนแต่ละฝ่ายในแต่ละวัน นักท่องเที่ยวจีนสามารถเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ ระหว่าง 10 และ 40 คน ผ่านบริษัทนำเที่ยวจดทะเบียน
ข้อตกลงเปิดกว้างการท่องเที่ยวนี้ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่สามารถเข้าไปยังไต้หวัน เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว ซึ่งตามกฎข้อบังคับปัจจุบัน จำกัดนักท่องเที่ยวชาวจีนไปยังไต้หวัน ได้เพียง 1,000 คนเท่านั้น และยังต้องผ่านดินแดนที่สาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือฮ่องกง ก่อนเข้าไปยังไต้หวัน
เจียงได้เผยกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า ระหว่างการเจรจาไต้หวันได้เสนอ "โครงการสำรวจแก๊สธรรมชาติร่วมบริเวณช่องแคบไต้หวัน" แต่หลายฝ่ายยังกังวลเรื่องสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ผู้นำไต้หวันยังเผยถึงข้อเสนอฝ่ายจีนที่เอ่ยปากขอผู้เชี่ยวชาญจากไต้หวัน มาช่วยโครงการฟื้นฟูเขตแผ่นดินไหวในแผ่นดินใหญ่ และจีนก็ได้ย้ำข้อเสนอส่งแพนด้ายักษ์ให้ไต้หวันด้วย
นับเป็นการบรรลุข้อตกลงครั้งสำคัญสุดระหว่างจีนสองฝากฝั่ง ที่ตัดขาดกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 หลังจากที่ผู้นำกั๋วหมินตั่ง (ก๊กมินตั๋ง) คือเจี่ยงเจี้ยสือ (เจียงไคเช็ก) แพ้สงครามกลางเมืองแก่ผู้นำคอมมิวนิสต์ และได้ถอยมาตั้งหลักใหม่ที่เกาะไต้หวัน ทั้งสองจำกัดคุมเข้มสัมพันธ์ด้านการค้าและการท่องเที่ยว โดยฝ่ายจีนประกาศกร้าวมาตลอดว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของมาตุภูมิจีนที่ไม่อาจแบ่งแยก ถึงขั้นประกาศจะนำกำลังเข้ายึดครองหากผู้นำไต้หวันเคลื่อนไหวเอกราช ศึกขัดแย้งสองจีนตึงเครียดหนักระหว่าง 8 ปี ที่ผู้นำเฉินสุยเปี่ยนแห่งประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีดีพี) ซึ่งมีความโน้มเอียงสู่อิสรภาพ ครองอำนาจประธานาธิบดี
สัมพันธ์สองจีนพลิกโฉมอีกครั้ง เมื่อหม่าอิงจิ่ว ผู้นำก๊กมินตั๋ง ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเดินหน้าเกี่ยวก้อยกับจีนใหญ่ กระทั่งได้ส่งเจียงปิ่นคุนมาเจรจากับผู้นำในปักกิ่ง 2 วัน (11-12 มิ.ย.) ในวันพฤหัสฯ ทั้งสองก็ได้ตกลงกลับมาเจรจาโดยตรงกันใหม่ โดยผ่านสมาพันธ์ระหว่างสองฝากฝั่งซึ่งเป็นองค์กรกึ่งทางการของจีน เนื่องจากทั้งสองไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ทั้งนี้ สองจีนได้แขวนการเจรจาโดยตรงนี้ มานับ 10 ปี สืบเนื่องจากสัมพันธ์ลุ่มๆดอนๆ