เอเอฟพี - หู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน พบ อู๋ ป๋อสง หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง พรรครัฐบาลไต้หวัน ณ มหาศาลาประชาคมเมื่อวันพุธ (28 พ.ค.) นับเป็นการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำระดับสูงของพรรครัฐบาลปักกิ่งและไทเป หลังจากดินแดนสองฟากช่องแคบขีดเส้นกั้นระหว่างกันเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา โดยการพบกันในครั้งนี้เป็นความพยายามหนึ่งในการบรรเทาความตึงเครียดระหว่างช่องแคบ
หู จิ่นเทา ทิ้งความตึงเครียดทางการเมืองหลายทศวรรษระหว่างปักกิ่ง-ไทเป จับมือกับ อู๋ ป๋อสุง ระหว่างพิธีต้อนรับอาคันตุกะจากเกาะทางใต้ ณ มหาศาลาประชาคม พร้อมทั้งกล่าวต่อคณะผู้แทนจากไต้หวันระหว่างเปิดการประชุมว่า “จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนในอดีตของสองพรรค และภายใต้สถานการณ์ใหม่ ผมหวังว่าเราจะสามารถโปรโมทความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มองไปสู่อนาคต และเดินหน้าสู่การพัฒนาจีนและไต้หวันโดยสันติ”
ขณะที่อู๋ขึ้นกล่าวต่อว่า “เราไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นในแผ่นดินใหญ่และไต้หวันอีก แต่ด้วยความพยายามของเราทั้งสองฝ่าย เราสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีสงครามระหว่างช่องแคบอีก” โดยก่อนหน้านี้ อู๋ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างเยือนเมืองนานจิง มณฑลเจียงซูว่า “แผ่นดินใหญ่และไต้หวันผูกพันกันเพราะเรามีสายเลือดชาวจีนเช่นเดียวกัน นั่นเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถลบล้างได้”
การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ของ อู๋ ป๋อสง หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋งนั้นได้รับการจับตามองอย่างมากว่าจะสามารถสร้างมิติใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันได้ เพราะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก หม่า อิงจิ่ว ประมุขเกาะไต้หวันคนใหม่ ที่เพิ่งเอาชนะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้สำหรับจีนเอง นักวิเคราะห์มองว่า การเยือนของอู๋ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า นโยบายมูลฐานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ต้องการนำไต้หวันกลับคืนสู่ “บ้านเดิม” นั้น ในที่สุดกำลังสำแดงผล
ทั้งนี้ หม่า ในฐานะตัวแทนของพรรคก๊กมินตั๋งนั้น มีนโยบายที่เป็นมิตรกับแผ่นดินใหญ่มากกว่าผู้นำคนเก่าอย่าง เฉิน สุยเปี่ยน ที่พยายามทำประชามติผลักดันไต้หวันให้กลายเป็นอิสระจากเงาแผ่นดินใหญ่ กระทั่งความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างช่องแคบยิ่งตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การนำของเฉิน
หลังได้รับเลือกให้นั่งบัลลังก์เจ้าเกาะคนใหม่ หม่าเสนอให้เริ่มเที่ยวบินสุดสัปดาห์บินตรงระหว่างเมืองของจีนและไต้หวันในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเริ่มแรกจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไต้หวันมากสุด 3,000 คนต่อวัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน โดยเที่ยวบินตรงนี้จะช่วยย่นระยะทางและเวลาสำหรับนักลงทุนไต้หวัน ซึ่งลงทุนในจีนมากถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 80 เป็นต้นมา นอกจากนี้หม่ายังจะอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีนกับดอลลาร์ไต้หวัน และให้ชาวจีนซื้ออสังหาริมทรัพย์ของไต้หวันด้วย
ซึ่งข้อเสนอของหม่าข้างต้นนี้ สื่อไต้หวันรายงานว่า ทั้งจีนและไต้หวันได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเริ่มคุยประเด็นดังกล่าวภายหลังจากการประชุมในวันพุธ (28 พ.ค.)
หู จิ่นเทา ทิ้งความตึงเครียดทางการเมืองหลายทศวรรษระหว่างปักกิ่ง-ไทเป จับมือกับ อู๋ ป๋อสุง ระหว่างพิธีต้อนรับอาคันตุกะจากเกาะทางใต้ ณ มหาศาลาประชาคม พร้อมทั้งกล่าวต่อคณะผู้แทนจากไต้หวันระหว่างเปิดการประชุมว่า “จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนในอดีตของสองพรรค และภายใต้สถานการณ์ใหม่ ผมหวังว่าเราจะสามารถโปรโมทความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มองไปสู่อนาคต และเดินหน้าสู่การพัฒนาจีนและไต้หวันโดยสันติ”
ขณะที่อู๋ขึ้นกล่าวต่อว่า “เราไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นในแผ่นดินใหญ่และไต้หวันอีก แต่ด้วยความพยายามของเราทั้งสองฝ่าย เราสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีสงครามระหว่างช่องแคบอีก” โดยก่อนหน้านี้ อู๋ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างเยือนเมืองนานจิง มณฑลเจียงซูว่า “แผ่นดินใหญ่และไต้หวันผูกพันกันเพราะเรามีสายเลือดชาวจีนเช่นเดียวกัน นั่นเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถลบล้างได้”
การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ของ อู๋ ป๋อสง หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋งนั้นได้รับการจับตามองอย่างมากว่าจะสามารถสร้างมิติใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันได้ เพราะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก หม่า อิงจิ่ว ประมุขเกาะไต้หวันคนใหม่ ที่เพิ่งเอาชนะผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้สำหรับจีนเอง นักวิเคราะห์มองว่า การเยือนของอู๋ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า นโยบายมูลฐานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ต้องการนำไต้หวันกลับคืนสู่ “บ้านเดิม” นั้น ในที่สุดกำลังสำแดงผล
ทั้งนี้ หม่า ในฐานะตัวแทนของพรรคก๊กมินตั๋งนั้น มีนโยบายที่เป็นมิตรกับแผ่นดินใหญ่มากกว่าผู้นำคนเก่าอย่าง เฉิน สุยเปี่ยน ที่พยายามทำประชามติผลักดันไต้หวันให้กลายเป็นอิสระจากเงาแผ่นดินใหญ่ กระทั่งความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างช่องแคบยิ่งตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การนำของเฉิน
หลังได้รับเลือกให้นั่งบัลลังก์เจ้าเกาะคนใหม่ หม่าเสนอให้เริ่มเที่ยวบินสุดสัปดาห์บินตรงระหว่างเมืองของจีนและไต้หวันในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเริ่มแรกจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไต้หวันมากสุด 3,000 คนต่อวัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน โดยเที่ยวบินตรงนี้จะช่วยย่นระยะทางและเวลาสำหรับนักลงทุนไต้หวัน ซึ่งลงทุนในจีนมากถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 80 เป็นต้นมา นอกจากนี้หม่ายังจะอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีนกับดอลลาร์ไต้หวัน และให้ชาวจีนซื้ออสังหาริมทรัพย์ของไต้หวันด้วย
ซึ่งข้อเสนอของหม่าข้างต้นนี้ สื่อไต้หวันรายงานว่า ทั้งจีนและไต้หวันได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเริ่มคุยประเด็นดังกล่าวภายหลังจากการประชุมในวันพุธ (28 พ.ค.)