ผู้จัดการออนไลน์ – หลังจากผ่านสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างช่องแคบไต้หวันในสมัยที่เฉิน สุยเปี่ยนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ในที่สุดแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันบรรลุข้อตกลง ฟื้นฟูกลไกการเจรจาเพื่อประโยชน์ของสองฟากฝั่ง เร่งเดินหน้าการบินตรงเหมาลำ และการให้นักท่องเที่ยวจีนมาไต้หวันเพื่อให้ผู้คนจากสองฟากฝั่งไปมาหาสู่กันมากขึ้น พร้อมเร่งทุกมาตรการดันธนาคารเตรียมพร้อมเปิดแลกเปลี่ยนเงินหยวน
หลังชัยชนะจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันของหม่า อิงจิ่วจากพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งประกาศว่าจะเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบอย่างสันติ จนกระทั่งเกิดการพบปะกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างหู จิ่นเทา กับ อู๋ ป๋อสง หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง พรรครัฐบาลไต้หวัน ณ มหาศาลาประชาคมเมื่อวันพุธที่ 28 พ.ค. ที่นับเป็นครั้งสำคัญที่ผู้นำระดับสูงของพรรครัฐบาลปักกิ่งและไทเปได้มาพบกัน หลังจากดินแดนสองฟากช่องแคบขีดเส้นกั้นระหว่างกันเกือบ 60 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของแผ่นดินใหญ่กับไต้หวันก็ดูจะเดินหน้าไปก้าวใหญ่อย่างรวดเร็ว
การพบกันของหูกับอู๋นั้น ถือเป็นก้าวหนึ่งในการเดินหน้าเพื่อให้นโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินใหญ่ ที่ชาวไต้หวันได้วาดหวังและเป็นสิ่งที่หม่าได้เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งอาทิเช่นการบินตรงเหมาะลำระหว่างแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน ที่จะให้เริ่มต้นจากช่วงสุดสัปดาห์และพัฒนามาเป็นทุกวันในอนาคต หรือการอนุญาตให้ชาวจีนมาท่องเที่ยวในไต้หวันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน
ในด้านของสันติภาพระหว่างช่องแคบนั้นดูจะเป็นไปในทิศทางบวกนั้นเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยอู๋ ป๋อสงได้พยายามเน้นย้ำถึงหลักการ “สันติ มั่นคง พัฒนา” บนพื้นฐานของฉันทามติปี 1992 เพื่อที่จะ”ขจัดความขัดแย้ง แสวงหาชัยชนะสำหรับทั้งสองฝ่าย”
และการพบกันในครั้งนั้นได้ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะพยายามที่จะรื้อฟื้นการเจรจาหารือกันภายใต้เงื่อนไขของฉันทามติปี 1992 อีกทั้งรีบฟื้นฟูการเจรจาระหว่างมูลนิธิความเชื่อมโยงระหว่างสองฟากฝั่งกับสมาพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งของจีน อีกทั้งมอบหมายให้หน่วยงานทั้ง 2 นี้เป็นตัวแทนในการเจรจาหารือและบรรลุข้อตกลงต่างๆ
ในช่วงที่ผ่านมา การค้าของทั้งสองฟากฝั่งเองก็ดูจะชื่นมื่นมากขึ้นเรื่อยๆ จากตัวเลขที่กรมศุลกากรจีนได้เปิดเผยล่าสุดพบว่า การซื้อขายระหว่างจีนกับไต้หวันในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยมีอัตราเติบโตมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 2 เท่า ทำให้เห็นได้ว่าการค้าระหว่างสองฟากฝั่งกำลังคึกคักมากขึ้นทุกที
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กได้รายงานว่า ที่ผ่านมาไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่มีความสัมพันธ์ในด้านของการค้าและการลงทุนอย่างแน่นแฟ้น และเมื่อหม่า อิงจิ่วกับเซียว วั่นฉางได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีไต้หวันแล้ว ก็เชื่อได้ว่าข้อจำกัดด้านการค้าต่างๆระหว่างสองฟากฝั่งจะค่อยๆถูกยกเลิกไป ซึ่งจะยิ่งเป็นการกระตุ้นการนำเข้าส่งออกให้มากขึ้น
เยือนจีนฟื้นกลไกเจรจา
ล่าสุดเมื่อวันพุธ (11 มิ.ย.) นายเจียง ปิ่งคุน ประธานมูลนิธิความเชื่อมโยงระหว่างสองฟากฝั่ง กับนายเกา ข่งเหลียนรองประธานควบเลขาธิการมูลนิธิตัวแทนเจรจาจากไต้หวันได้เดินทางมาเยือนจีนตามคำเชิญของแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป้าหมายหลักของการมาในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรื้อฟื้นกลไกเจรจาที่ขาดตอนไป 10 ปีแล้ว ยังมีการหารือรายละเอียดในโครงการบินตรงเหมาลำ และการให้นักท่องเที่ยวจีนไปเยือนไต้หวันด้วย
โดยวันที่ 12 มิ.ย. เมื่อเจียง ปิ่งคุน เมื่อได้เข้าพบกับเฉิน หยุนหลินประธานสมาพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งของจีนก็ได้มีการประกาศฟื้นฟูกลไกการติดต่ออย่างเร่งด่วน อีกทั้งมีการลงนามความร่วมมือใน 2 ประเด็นได้แก่การบินตรงเหมาลำช่วงสุดสัปดาห์ และการให้นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวที่ไต้หวัน พร้อมระบุว่าจะต้องผลักดันให้เกิดเป็นจริงโดยเร็ว เพื่อให้คนทั้งสองฟากฝั่งได้ไปมาหาสู่กันมากยิ่งขึ้น
“การเจรจาสำหรับสองฟากฝั่งจะเป็นไปอย่างราบรื่นได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างสองฟากฝั่งนั้นจะพัฒนาได้ด้วยดีหรือไม่ ความสัมพันธ์ของสองฟากฝั่งได้ผ่านวันเวลาที่ยาวนาน ทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสังคมก็ยังมีปัญหารอคอยให้แก้ไขอีกมาก หลังจากที่มีการฟื้นฟูกลไกการเจรจาแล้ว เรารู้ดีว่าจะมีงานหนักที่รอคอยเราอยู่ จึงหวังว่าพวกเราจะสามารถรักษาโอกาส และใช้ความกระตือรือร้นในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อพี่น้องในสองฟากฝั่ง” เฉิน หยุนหลินระบุ
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงแล้ว จะมีพิธีลงนามในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย. โดยคณะของเจียง ปิ่งคุนที่เดินทางมาจากไต้หวันจะเดินทางกลับในวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งในการหารือที่ผ่านมา ทางเจียงเองก็ได้เชิญให้เฉิน หยุนหลินไปเยือนไต้หวันด้วย