เอเอฟพี – จีนยิ่งมั่นใจ จีดีพีแดนมังกรปีนี้โตร้อยละ 8 ตามเป้า ที่รัฐบาลตั้งไว้แน่ เมื่อดัชนีเศรษฐกิจประจำเดือนตุลาคม เทียบกับเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ล้วนบ่งชี้ความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า การฟื้นตัวเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเสียส่วนใหญ่
จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อวันพุธ (11 พ.ย.) ระบุการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกของจีนแข็งแกร่งขึ้น ขณะเดียวกันความต้องการสินค้าส่งออกจากแดนมังกรก็ดีกว่าเดิม โดยตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งประเมินกิจกรรมของโรงงานหลายล้านแห่งทั่วประเทศ สูงขึ้นร้อยละ 16.1
ยอดการส่งออกลดลงร้อยละ13.8 มาอยู่ที่ 110.76 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจัดว่าดีที่สุด นับตั้งแต่การส่งออกของจีนลดลงติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี2551 ซึ่งการส่งออกตกลงร้อยละ 2.8 เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มปรากฏขึ้น
ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นดัชนีหลักวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค และรัฐบาลจีนระบุว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ปรับขึ้นร้อยละ 16.2 จากเดือนตุลาคมปีก่อนหน้า และจากร้อยละ 15.5 ของเดือนกันยายนปีนี้
การลงทุนสินทรัพย์ถาวรในเขตเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.1 ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม
ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญสำหรับเงินเฟ้อ ลดลงร้อยละ 0.5 เทียบกับเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังจากในช่วง 9 เดือนของปีนี้ ลดลงร้อยละ1.1
การปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ของธนาคารจีนลดลงมาอยู่ 37.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบปีนี้ หลังจากผู้คุมกฎของจีนแจ้งให้ธนาคารควบคุมการปล่อยกู้ และเพิ่มการบริหารความเสี่ยง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้เป็นสิ่งยืนยันว่า เศรษฐกิจแดนมังกรกำลังอยู่บนเส้นทางของการฟื้นตัว
“เห็นได้ว่าการฟื้นตัวขยายกว้างขึ้น โดยตัวขับเคลื่อนการเติบโต ได้ย้ายจากโครงการก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภค ซึ่งได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มายังการลงทุนภาคเอกชน และการปรับตัวดีขึ้นของภาคการส่งออก” จิง อูลริช นักเศรษฐศาสตร์ของเจพี มอร์แกนในฮ่องกงระบุ
อย่างไรก็นักวิเคราะห์บางคนก็ได้เตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 586 พันล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลเริ่มประกาศใช้เมื่อหนึ่งปีก่อนมากจนเกินไป รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อจำนวนมหาศาลของธนาคาร
“การฟื้นตัวของจีนขยายต่อเนื่องเข้าสู่ช่วงไตรมาส 4 ความแรงน่าจะมีต่อไปจนถึงปีหน้า” ไบรอัน แจ๊กสัน นักกลยุทธ์ของรอแยล แบงก์ ออฟ แคนาดาในฮ่องกงคาดการณ์
“การเติบโตยังคงพึ่งมาตรการกระตุ้น, สภาพคล่องอย่างง่ายดาย และการลงทุน ที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนด แต่เราก็คาดหวังว่าจะเห็นความต้องการจากภายนอกที่แข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” เขาระบุ
เบ็น ซิมป์เฟนดอร์เฟอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของรอแยล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ในฮ่องกงมองว่า การใช้จ่ายของรัฐบาลส่งผลให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งได้แก่รถยนต์ และโลหะ กำลังมุ่งสู่การฟื้นตัว ซึ่งน่าจะลากยาวไปจนถึงครึ่งแรกของปีหน้า
อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังไม่สมดุล และเขากำลังรอดูการฟื้นตัว ที่ขยายกว้างขึ้น
ทั้งนี้ บรรดาผู้วางนโยบายและนักวิเคราะห์ต่างเพิ่มความมั่นใจต่อเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวของจีน นับตั้งแต่จีดีพีแดนมังกรไตรมาส3 ของปีนี้โตถึงร้อยละ 8.9 อันเป็นย่างก้าวรวดเร็วที่สุดในรอบปี เทียบกับร้อยละ 7.9 ในไตรมาส 2 และ6.1 ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นย่างก้าวเชื่องช้าที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารโลกก็ได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีจีนมาอยู่ที่ร้อยละ 8.4 หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียได้คาดการณ์ไม่ต่างไปจากนี้