เอเอฟพี – สำนักงานสถิติแห่งชาติเผย สถานการณ์การส่งออกของแผ่นดินใหญ่เดือนกรกฎาคมยังเจอตอ เพราะสภาพเศรษฐกิจโลกยังประสบปัญหา ชี้ข้อมูลสถิติล่าสุดสะท้อนจีนยังต้องพึ่งพาเงินอัดฉีดจากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการเติบโต
หลี่ เสี่ยวเชา โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผย “สภาพเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของเรา” โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรรายงานวันอังคาร (11 ส.ค.) ว่า มูลค่าการส่งออกเดือนกรกฎาคมแตะ 105,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 23
อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกบ้าง เพราะเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนราวร้อยละ 10.4
ขณะที่จีนยังคงเกินดุลการค้าอยู่ที่ 10,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เกินดุลเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ 8,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินโลก โดยช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7.1 ในขณะที่ช่วงก่อนเกิดวิกฤต ตั้งแต่ปี 2546-2550 กระทั่งถึง 2 ไตรมาสแรกของปีที่แล้ว จีดีพีจีนเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักมาตลอด
อย่างไรเสีย รัฐบาลตั้งเป้าจะรักษาอัตราการเติบโตต่อปีที่ 8% ให้ได้ ในช่วงที่ผ่านมาจึงอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลกว่า 4 ล้านล้านหยวนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ส่งผลให้ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเขตเมืองในช่วง 7 เดือนแรกนี้ขยายตัวขึ้นร้อยละ 32.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สถานการณ์ข้างต้น จิง อุลริช นักเศรษฐศาสตร์จากเจพี มอร์แกน ในฮ่องกงแสดงทัศนะว่า “ข้อมูลสถิติการส่งออกที่ยังคงอ่อนแรงในเดือนกรกฎาคมสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังจำเป็นต้องพึ่งพาการลงทุนของรัฐบาลเป็นหลัก”
นอกจากตัวเลขการส่งออกแล้ว ทางสำนักงานสถิติยังได้เปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในเดือนกรกฎาคมนั้นขยายตัวร้อยละ 10.8 ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นปรอทวัดเงินเฟ้อลดลงร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และนับเป็นตัวเลขที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 โดยเดือนมิถุนายนลดลงร้อยละ 1.7
ขณะที่ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นปรอทวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนที่แล้วก็ปรับตัวขึ้นร้อยละ 15.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรัฐบาลจีนก็มองการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน
ด้าน หาว ต้าหมิง นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์กาแล็กซี่ ซีเคียวริตี้ส์ค่อนข้างเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะกระเตื้องขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศจะยังคงที่ ขณะที่การลงทุนยังจะขยายตัวขึ้น
