จีนโต้ ข้อมูลเศรษฐกิจไม่ได้ทำมั่ว

เอเจนซี่ – สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ยืนยัน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของจีน ที่ทำออกมานั้น มีความแม่นยำถูกต้อง หลังจากถูกสถาบันคลังสมองในสหรัฐฯ กล่าวหาว่าปราศจากความน่าเชื่อถือ

เฮอริเทจ ฟาวน์เดชั่น (Heritage Foundation) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันได้ตั้งกระทู้ถามถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจจีนไว้ในรายงาน ที่ชื่อว่า“จีนไม่ยอมปรับเศรษฐกิจของตนเอง” (“China Refuses to Adjust Its Economy”) โดยนายดีเร็ก ซิสเซอร์ส ผู้เขียนรายงาน ซึ่งทำงานวิจัยด้านนโยบายเศรษฐกิจของเอเชีย แสดงความข้องใจว่า จีนสามารถสำรวจความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประชากรจำนวน 1,300 ล้านคนภายในเวลา 15 วันได้อย่างไร พร้อมกับสรุปว่า มีการทำข้อมูลทางเศรษฐกิจเพื่อเอาใจพรรคคอมมิวนิสต์จีน

เจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ซึ่งไม่เปิดเผยนาม ออกมาโต้ว่า นายซิสเซอร์สเข้าใจผิดไปแล้ว เพราะในการทำข้อมูลจีดีพีล่าสุดนี้ รัฐบาลจีนได้จ้างนักสถิติถึงกว่าหนึ่งแสนคนสำหรับรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละวัน ดังนั้น จีนจึงมีวิธีการและระบบการสำรวจการอธิบาย ที่เคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่าสามารถทำสถิติออกมาเสร็จภายในเวลา15 วัน หลังจากเสร็จการทำสำรวจ

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนระบุเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนในไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยับขึ้นถึงร้อยละ7.9 จากร้อยละ6.1 ของไตรมาสแรก ซึ่งหมายความว่า จีดีพีของจีนในช่วงครึ่งแรกของปี2552 โตถึงร้อยละ7.1

นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า จีดีพีของจีนมีอัตราเติบโตต่ำกว่า ที่พวกตนคาดการณ์ แต่นายซิสเซอร์สกลับกล่าวว่า โตเร็วกว่า ที่เขาเคยคาดไว้ โดยเป็นตัวเลขที่มีการทำออกมารวดเร็วเกินไป

ข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์ทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังมีการวิเคราะห์กันว่า ชาติซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ กำลังจะหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกก่อนชาติอื่น ๆ หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ก็เคยตั้งกระทู้ถามถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลเศรษฐกิจจีนไว้ในรายงานว่าด้วยตลาดน้ำมันโลกของIEA ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ก.ค. โดยระบุว่า การเติบโตของจีดีพีจีนในไตรมาสแรกมิได้นำข้อมูลความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง มาคิดรวมด้วย