เอเอฟพี – ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์เผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปี 2009 จะขยายตัวแค่ 7.5% เท่านั้น ถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 19 ปี แต่ธนาคารโลกยังคาดหวัง จีนให้เงินกู้เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา
รายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจของธนาคารโลกซึ่งปรับปรุงและนำเสนอทุก 3 เดือนระบุเศรษฐกิจจีนปีหน้าจะขยายตัวแค่ 7.5% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ครั้งที่แล้วว่าปีหน้าจะขยายตัว 9.2% โดยตัวเลขล่าสุดนี้จะเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำมากเป็นอันดับ 4 นับตั้งแต่จีนเริ่มเปิดประเทศเมื่อ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้จีนเคยเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมาแล้วในปี 1990 ซึ่งเป็นช่วงที่นานาประเทศโดดเดี่ยวจีนหลังจากเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน (15 เมษายน - 4 มิถุนายน ค.ศ.1989) ที่มีการสั่งปราบปรามนักศึกษาที่ประท้วงต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีนเรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ จนนำไปสู่การนองเลือดมีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บมากมาย โดยจีดีพีจีนขณะนั้นขยายตัวแค่ 3.8% เท่านั้น
ด้านหลุยส์ คุจส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลกแสดงความเห็นว่า “แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในอนาคตจะย่ำแย่กว่าเมื่อช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเสียอีก” โดยความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดเศรษฐกิจของจีน
ส่วนเศรษฐกิจจีนในปีนี้ธนาคารโลกกล่าวในรายงานว่า น่าจะขยายตัว 9.4% ลดลงจาก 9.8% ที่คาดการณ์เมื่อครั้งที่แล้ว
อย่างไรก็ตามในอีกด้านหนึ่ง ธนาคารโลกกำลังหารือกับจีนเพื่อให้จีนสนับสนุนเงินกู้เพิ่มเติม เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา
“ธนาคารโลก กำลังหารือกับทางการจีนว่าจีนจะสามารถช่วยสนับสนุนทางการเงินให้กับธนาคารโลกเพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับประเทศกำลังพัฒนาได้หรือไม่” เดวิด ดอลลาห์ ผู้อำนวยการธนาคารโลก สาขาประเทศจีนกล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นที่ปรารถนาของโลกในยามที่ขาดแคลนสภาพคล่อง และจีน ก็กลายเป็นผู้สนับสนุนใหญ่รายใหม่ของธนาคารโลก โดยในปีนี้เป็นปีแรกที่จีนได้ให้เงินอุดหนุนองค์การเพื่อการพัฒนานานาชาติ (International Development Association ) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของธนาคารโลกเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา