เอเชียลวอลสตรีทเจอร์นัล--เป่ยจิง ออโตโมทีฟ อินดัสทรี้ โฮลดิ้ง (Beijing Automotive Industry Holdings) กำลังลุยศึกประมูลซื้อกรรมสิทธิ์หุ้นของหน่วยปฏิบัติการรถยนต์ยี่ห้อดัง โอเปิลแห่งเยอรมนี (Adam Opel GmbH) ที่บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส์ หรือ จีเอ็ม (General Moters) ถือครองอยู่ ด้วยหวังว่าการถือหุ้นในโอเปิลจะเป็นบันไดไต่ไปสู่จ้าวรถยนต์ระดับโลกของบริษัท และอยู่รอดในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศ
ผู้บริหารระดับสูงของเป่ยจิง ออโต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวคิดในการเข้าซื้อหุ้นของโอเปิลดังกล่าว และเผยเป้าหมายว่า หากเป่ยจิง ออโตฯชนะประมูล ก็จะสร้างแบรนด์โอเปิลในจีน และผลักดันบริษัทสู่มาตรฐานระดับโลกมากขึ้น ซึ่งเป็นหนทางในการรักษาชีวิตรอดในยามที่อุตสาหกรรมรถยนต์โลกกำลังซวนเซในยุควิกฤตการเงินโลก
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้เป่ยจิง ออโตฯบริษัทรถยนต์ซึ่งเป็นวิสาหกิจของรัฐ อาจเผชิญปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อชนะการประมูล นั่นคือโอเปิลอาจกลายเป็นคู่แข่งของจีเอ็มในจีน โดยขณะนี้จีนเป็นตลาดรถยนต์แห่งหลักเพียงแห่งเดียวที่มีอนาคตที่สดใสของจีเอ็ม
อย่างไรก็ตาม เป่ยจิง ออโตฯ ชี้ยุทธศาสตร์ที่บริษัทกำหนดไว้ จะเป็นประโยชน์แก่จีเอ็ม ซึ่งก็ยังคงถือหุ้นร้อยละ 49 ในโอเปิล ทั้งนี้เป่ยจิง ออโตยื่นประมูลซื้อหุ้นโอเปิล ร้อยละ 51 ด้วยทุน 660 ล้านยูโร หรือ 921 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้น หากเป่ยจิง ออโตฯชนะการประมูล จีเอ็มก็จะได้คู่หุ้นส่วนบริษัทรถยนต์จีนเพิ่มอีกรายเป็นรายที่สอง ปัจจุบันจีเอ็มมีคู่หุ้นส่วนบริษัทรถยนต์ในจีนเพียงหนึ่งรายคือ เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ป (Shanghai Automotive Industry Corp) ขณะที่คู่แข่งของจีเอ็มในจีน คือ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen AG) แห่งเยอรมนี และโตโยต้า มอเตอร์ส (Toyota Motor Corp) แห่งญี่ปุ่น ต่างก็มีคู่หุ้นส่วนร่วมทุนในแดนมังกรรายละสองบริษัท สำหรับผลิตรถยนต์เจาะตลาดจีน ซึ่งขณะนี้ตลาดจีนแซงหน้าสหรัฐฯทำยอดขายสูงสุดในโลกมาตั้งแต่เดือนมกราคม
ด้านจีเอ็มยังไม่แสดงความเห็นใดๆสู่สาธารณะเกี่ยวกับกรณีที่เป่ยจิง ออโตประมูลซื้อโอเปิล อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับจีเอ็มบอกว่า “เป่ยจิง ออโต” เป็นคู่ท้าชิงการประมูลที่น่ากลัวมาก”
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีเอ็มลงนามบันทึกความเข้าใจขายหุ้นส่วนใหญ่ที่ถืออยู่ในโอเปิล และบริษัทรถยนต์ในเครือสัญชาติอังกฤษคือ Vauxhall ให้แก่ แมกน่า อินเตอร์เนชั่นนัล อินค์ (Magna International Inc.) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทซัปพลายชิ้นส่วนรถยนต์สัญชาติแคนาเดียน แมกน่าเสนอเงินทุนอย่างน้อย 500 ล้านยูโร สำหรับโอเปิลและกำลังหาโครงการค้ำประกันเงินกู้ระยะยาวอีก 4,500 ล้านยูโร จากรัฐบาลเยอรมนี ด้านเป่ยจิง ออโต ก็กำลังขอการค้ำประกันจากรัฐบาลเยอรมนี 2,640 ล้านยูโร
ขณะนี้ สหภาพแรงานโอเปิลที่ทรงอิทธิพล สนับสนุนข้อตกลงของแมกน่ามากกว่า และไม่เห็นด้วยกับการเข้าซื้อหุ้นของเป่ยจิง ออโต เพราะกลัวเรื่องถ่ายโอนเทคโนโลยีในอนาคต อย่างไรก็ตามข้อตกลงจีเอ็มและแมกน่าก็ไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย
หากเป่ยจิง ออโต ครองหุ้นของโอเปิล ก็จะสามารถเข้าสู่เทคโนโลยีเครื่องยนต์และพาหนะอื่นๆของจีเอ็มอย่างเต็มที่ และผลิตภัณฑ์ของเป่ยจิง ออโต ก็จะได้ความเชื่อถือจากแบรนด์จีเอ็มด้วย ส่วนจีเอ็มก็ต้องการให้เป่ยจิง ออโตฯ รับปากสร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์แบรนด์โอเปิลกับจีเอ็มอย่างเพียงพอที่จะให้แย่งลูกค้ากลุ่มเดียวกัน
นอกจากนี้ดีลของโอเปิลจะยังช่วยให้เป่ยจิง ออโต เติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมรถยนต์จีนที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จีนรวมตัวกันเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม
ผู้บริหารของเป่ยจิง ออโตเผยว่าเผยว่าเมื่อต้นปีรัฐบาลประกาศแผนหนุนการผนึกกำลังบริษัทรถยนต์ เป็น “สี่กลุ่มใหญ่” และ “สี่กลุ่มเล็ก” เพื่อเสริมสร้างแรงแข่งขันแก่อุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศที่กำลังลุยศึกชิงเค้กส่วนแบ่งตลาดกับจ้าวรถยนต์ต่างแดน และเป่ยจิง ออโต ก็ต้องการเป็น 1 ใน 8 บริษัทเหล่านี้
ขณะนี้เป่ยจิง ออโตพยายามขยายหน่วยปฏิบัติการ รวมทั้งหน่วยการผลิต และธุรกิจร่วมทุนด้านการขาย ที่มีอยู่ได้แก่ ฮุนได มอเตอร์ แห่งเกาหลีใต้และเดมเลอร์ เอจี แห่งเยอรมนี เพื่อสามารถดันยอดขายถึง 2 ล้านคันต่อปีภายใน 2-3 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เป่ยจิง ออโต ขายรถได้ 582,000 คัน.
ผู้บริหารระดับสูงของเป่ยจิง ออโต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวคิดในการเข้าซื้อหุ้นของโอเปิลดังกล่าว และเผยเป้าหมายว่า หากเป่ยจิง ออโตฯชนะประมูล ก็จะสร้างแบรนด์โอเปิลในจีน และผลักดันบริษัทสู่มาตรฐานระดับโลกมากขึ้น ซึ่งเป็นหนทางในการรักษาชีวิตรอดในยามที่อุตสาหกรรมรถยนต์โลกกำลังซวนเซในยุควิกฤตการเงินโลก
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้เป่ยจิง ออโตฯบริษัทรถยนต์ซึ่งเป็นวิสาหกิจของรัฐ อาจเผชิญปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อชนะการประมูล นั่นคือโอเปิลอาจกลายเป็นคู่แข่งของจีเอ็มในจีน โดยขณะนี้จีนเป็นตลาดรถยนต์แห่งหลักเพียงแห่งเดียวที่มีอนาคตที่สดใสของจีเอ็ม
อย่างไรก็ตาม เป่ยจิง ออโตฯ ชี้ยุทธศาสตร์ที่บริษัทกำหนดไว้ จะเป็นประโยชน์แก่จีเอ็ม ซึ่งก็ยังคงถือหุ้นร้อยละ 49 ในโอเปิล ทั้งนี้เป่ยจิง ออโตยื่นประมูลซื้อหุ้นโอเปิล ร้อยละ 51 ด้วยทุน 660 ล้านยูโร หรือ 921 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้น หากเป่ยจิง ออโตฯชนะการประมูล จีเอ็มก็จะได้คู่หุ้นส่วนบริษัทรถยนต์จีนเพิ่มอีกรายเป็นรายที่สอง ปัจจุบันจีเอ็มมีคู่หุ้นส่วนบริษัทรถยนต์ในจีนเพียงหนึ่งรายคือ เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ป (Shanghai Automotive Industry Corp) ขณะที่คู่แข่งของจีเอ็มในจีน คือ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen AG) แห่งเยอรมนี และโตโยต้า มอเตอร์ส (Toyota Motor Corp) แห่งญี่ปุ่น ต่างก็มีคู่หุ้นส่วนร่วมทุนในแดนมังกรรายละสองบริษัท สำหรับผลิตรถยนต์เจาะตลาดจีน ซึ่งขณะนี้ตลาดจีนแซงหน้าสหรัฐฯทำยอดขายสูงสุดในโลกมาตั้งแต่เดือนมกราคม
ด้านจีเอ็มยังไม่แสดงความเห็นใดๆสู่สาธารณะเกี่ยวกับกรณีที่เป่ยจิง ออโตประมูลซื้อโอเปิล อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับจีเอ็มบอกว่า “เป่ยจิง ออโต” เป็นคู่ท้าชิงการประมูลที่น่ากลัวมาก”
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีเอ็มลงนามบันทึกความเข้าใจขายหุ้นส่วนใหญ่ที่ถืออยู่ในโอเปิล และบริษัทรถยนต์ในเครือสัญชาติอังกฤษคือ Vauxhall ให้แก่ แมกน่า อินเตอร์เนชั่นนัล อินค์ (Magna International Inc.) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทซัปพลายชิ้นส่วนรถยนต์สัญชาติแคนาเดียน แมกน่าเสนอเงินทุนอย่างน้อย 500 ล้านยูโร สำหรับโอเปิลและกำลังหาโครงการค้ำประกันเงินกู้ระยะยาวอีก 4,500 ล้านยูโร จากรัฐบาลเยอรมนี ด้านเป่ยจิง ออโต ก็กำลังขอการค้ำประกันจากรัฐบาลเยอรมนี 2,640 ล้านยูโร
ขณะนี้ สหภาพแรงานโอเปิลที่ทรงอิทธิพล สนับสนุนข้อตกลงของแมกน่ามากกว่า และไม่เห็นด้วยกับการเข้าซื้อหุ้นของเป่ยจิง ออโต เพราะกลัวเรื่องถ่ายโอนเทคโนโลยีในอนาคต อย่างไรก็ตามข้อตกลงจีเอ็มและแมกน่าก็ไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย
หากเป่ยจิง ออโต ครองหุ้นของโอเปิล ก็จะสามารถเข้าสู่เทคโนโลยีเครื่องยนต์และพาหนะอื่นๆของจีเอ็มอย่างเต็มที่ และผลิตภัณฑ์ของเป่ยจิง ออโต ก็จะได้ความเชื่อถือจากแบรนด์จีเอ็มด้วย ส่วนจีเอ็มก็ต้องการให้เป่ยจิง ออโตฯ รับปากสร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์แบรนด์โอเปิลกับจีเอ็มอย่างเพียงพอที่จะให้แย่งลูกค้ากลุ่มเดียวกัน
นอกจากนี้ดีลของโอเปิลจะยังช่วยให้เป่ยจิง ออโต เติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมรถยนต์จีนที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จีนรวมตัวกันเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม
ผู้บริหารของเป่ยจิง ออโตเผยว่าเผยว่าเมื่อต้นปีรัฐบาลประกาศแผนหนุนการผนึกกำลังบริษัทรถยนต์ เป็น “สี่กลุ่มใหญ่” และ “สี่กลุ่มเล็ก” เพื่อเสริมสร้างแรงแข่งขันแก่อุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศที่กำลังลุยศึกชิงเค้กส่วนแบ่งตลาดกับจ้าวรถยนต์ต่างแดน และเป่ยจิง ออโต ก็ต้องการเป็น 1 ใน 8 บริษัทเหล่านี้
ขณะนี้เป่ยจิง ออโตพยายามขยายหน่วยปฏิบัติการ รวมทั้งหน่วยการผลิต และธุรกิจร่วมทุนด้านการขาย ที่มีอยู่ได้แก่ ฮุนได มอเตอร์ แห่งเกาหลีใต้และเดมเลอร์ เอจี แห่งเยอรมนี เพื่อสามารถดันยอดขายถึง 2 ล้านคันต่อปีภายใน 2-3 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เป่ยจิง ออโต ขายรถได้ 582,000 คัน.