เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล – บริษัทผู้ผลิตชื้นส่วนรถยนต์เลือดมังกร ซึ่งเคยถูกตราหน้าว่าอ่อนหัดเกินไป อาศัยจังหวะผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของบรรดาประเทศพัฒนากำลังซวนเซจากพิษวิกฤตเศรษฐกิจโลก เร่งเดินหน้าขยายส่วนแบ่งในตลาดโลกด้วยปัจจัยสนับสนุนเพียบทั้งด้านเงินทุน การส่งเสริมจากภาครัฐ และการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง
การที่จีนกำลังก้าวขึ้นเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ส่งผลให้ ภาคผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ภายในประเทศของจีนโตขึ้น
นายจอห์น ปาร์กเกอร์ รองประธานบริหารของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ฝ่ายเอเชีย-แปซิฟิก และแอฟริกา ระบุว่า ความสามารถในการแข่งขันของจีนในการเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนกำลังเพิ่มขึ้นทุกที ขณะที่มีการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
ภาคชิ้นส่วนรถยนต์ของจีนโตราวร้อยละ 30 ในช่วงปี 2547 -2551 จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา Roland Berger Strategy Consultants และคาดว่า จะโตถึง 2.5 ล้านล้านหยวน หรือราว 350,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2558 จาก950,000 ล้านหยวนในปีที่แล้ว โดยจะมีการส่งออกชิ้นส่วนถึงราวร้อยละ 30 เทียบกับปัจจุบัน ซึ่งส่งออกราวร้อยละ 25
ผู้ผลิตชิ้นส่วน ซึ่งมีหลายพันรายบนแดนมังกร ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทุกอย่างเลยทีเดียว โดยแต่ก่อนมุ่งการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งเป็นอุปกรณ์หนัก เช่น ล้อ หรือเพลารถ แต่ปัจจุบัน ได้ขยายการผลิตในส่วนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น ชิ้นส่วนซัสเปนชั่น
ขณะเดียวกันหลายบริษัทกำลังวางแผนขยายเครือข่ายการจำหน่าย และพัฒนาเทคโนโลยี เช่นบริษัท Wonder Auto Technology Inc. ซึ่งผลิตตัวกำเนิดไฟฟ้าสลับ และสตาร์ตเตอร์ จะเริ่มผลิตชิ้นส่วนป้อนบริษัทรถยนต์ในแถบอเมริกาเหนือในช่วงฤดูร้อนนี้ ขณะที่บริษัทเป็นผู้ผลิตรายเดียว ที่ป้อนชิ้นส่วนบางชนิดให้แก่บริษัทฮุนไดของเกาหลีใต้ และโรงงานผลิตในจีนของบริษัทไครส์เล่อร์
จากการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษา AlixPartners ยังพบว่า ร้อยละ 40 ของผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ถูกสำรวจ แสดงความสนใจเข้าควบรวมและซื้อกิจการบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรายอื่นในประเทศ ขณะที่ร้อยละ 25 เล็งไปที่ต่างประเทศ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนของจีนยังมีลักษณะผสมผสานระหว่างกิจการ ที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด และกิจการ ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างวิสาหกิจรัฐของจีนกับบริษัทต่างชาติ เช่น เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อิสดัสทรี (Shanghai Automotive Industry Corp.) และบริษัท วีสทีออน (Visteon Corp.)
นอกจากนั้น ยังมีบริษัทผู้ผลิตชื้นส่วนรถยนต์แดนมัง ซึ่งมีชื่อเสียงรู้จักกันดีเช่น วั่นเซียง กรุ๊ป (Wanxiang Group Corp.) และฟู่เหยา กลาสส์ อินดัสทรี กรุ๊ป ( Fuyao Glass Industry Group Co.)
ด้านผู้ผลิตชิ้นส่วนในสหรัฐฯ เองนั้น แม้กำลังร้องขอเงินช่วยเหลือมากถึง10,000 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ขณะเดียวกัน ก็มองเห็นโอกาสขยายธุรกิจในจีน เช่น บริษัทเทนเนโก (Tenneco Inc.) ได้ลงทุนร่วมกับบริษัทปักกิ่ง ไห่น่าชวน ออโตโมทีฟ พาร์ตส ( Beijing Hainachuan Automotive Parts Co.) เพื่อผลิตระบบควบคุมไอเสีย นับเป็นการลงทุนร่วมครั้งที่ 6 ในจีนของเทนเนโก
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกก็กำลังให้ความสนใจชิ้นส่วน ที่ผลิตในจีนมากขึ้น เช่น ฟอร์ด ซึ่งทำสัญญาให้บริษัทท้องถิ่นผลิตชิ้นส่วนประกอบป้อนบริษัท โดยเมื่อปีที่แล้ว มีการส่งชิ้นส่วนจากจีน มูลค่า 2,800 ล้านดอลลาร์ ไปยังโรงงานผลิตของฟอร์ด โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ
แม้ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับการจัดซื้อในทั่วโลกของฟอร์ด แต่ก็เป็นจำนวนที่เพิ่ม 10 เท่าจากในช่วง 5 ปีก่อน
ประการสำคัญก็คือนักวิเคราะห์ระบุว่า เวลานี้กำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จากที่จีนเคยล้าหลังประเทศพัฒนาในการผลิตชิ้นส่วน ที่เน้นเทคโนโลยีเป็นหลัก เช่น ระบบอัดฉีดเชื้อเพลิง หรือด้านอิเล็กทรอนิกส์
เวลานี้ บริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกหลายราย มีหน่วยปฏิบัติการด้านอิเล็กทรอนิกส์ในจีน หรือมีแนวโน้ม จะย้ายหน่วยปฏิบัติการดังกล่าวไปยังจีน ในเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียง และเมืองกว่างโจว
และการพัฒนาเทคโนโลยี ที่เหมาะสม คือย่างก้าวต่อไปของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แดนมังกร