เอเชียน วอลสตรีท เจอร์นัล – เท็นเนโก อิงค์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เล็งช่องทางกระตุ้นการผลิต,ขยายการวิจัยพัฒนาในประเทศจีน ขณะที่ตลาดรถยนต์ในยุโรปและอเมริกาเหนือถูกคลื่นวิกฤตการเงินโลกซัดอ่วม
เกร็กก์ เชอร์ชิล ประธานกรรมการบริหารบริษัเท็นเนโก ซึ่งมีโรงงานในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อุปกรณ์ควบคุมการปล่อยมลพิษ ,อุปกรณ์กันสะเทือน(โช๊คอัพ) และชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ ของบริษัทเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นจากลูกค้าในประเทศจีน เนื่องจากยอดจำหน่ายรถยนต์ รถบรรทุกในจีนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจีนก็กำลังใช้มาตรการคุมเข้มด้านสิ่งแวดล้อม
“ยอดจำหน่ายในจีนไม่เคยสูงขนาดนี้มาก่อน” เชอร์ชิลให้สัมภาษณ์
เมื่อวันอังคาร( 2 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เท็นเนโกกล่าวว่าบริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัทพันธมิตรในจีนอย่าง เป่ยจิง ไห่น่าชวน ออโตโมทีฟ เพื่อผลิตอุปกรณ์ควบคุมการปล่อยไอเสีย และระบบการปล่อยไอเสียขึ้นในกรุงปักกิ่ง เบื้องต้นการร่วมทุนกันดังกล่าวจะซัพพลายให้กับฐานปฏิบัติการฮุนได มอเตอร์ ในจีน
อย่างไรก็ตาม โรงงานที่จะตั้งขึ้นในกรุงปักกิ่งนี้เท็นเนโกจะถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ และจะนับเป็นการร่วมทุนร่วมกับจีนครั้งที่ 6 ของบริษัท ขณะเดียวกันปลายปีนี้เท็นเนโกจะตั้งโรงงานขึ้นในเมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้งเพื่อเป็นแหล่งป้อนสินค้าให้กับนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจทางภาคใต้ของจีน
แต่เชอร์ชิลระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมมือกับพันธมิตรในจีนในลักษณะธุรกิจร่วมทุนหรือตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจเอง “อุปกรณ์ควบคุมไอเสียเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขยายตัวได้เร็วของบริษัท” ขณะที่รัฐบาลจีน,สหรัฐฯและชาติอื่นๆ ดำเนินมาตรการคุมเข้มการปล่อยควันพิษจากรถยนต์และรถบรรทุก
เชอร์ชิลประเมินว่าเมื่อจีนเริ่มมาตรการจำกัดการปล่อยควันพิษในต้นปีหน้า( 2553) จะช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเท็นเนโก โดยเฉพาะระบบการปล่อยไอเสียจากเครื่องรถยนต์ดีเซล
ทั้งนี้ความรุนแรงจากเศรษฐกิจช่วงขาลงในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้เท็นเนโกตัดสินใจลดต้นทุนและปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรักษาสภาพคล่องเงินสดและความอยู่รอดในช่วงวิกฤตการณ์ ขณะเดียวกันเชอร์ชิลก็เน้นย้ำว่าบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีระบบควบคุมควันเสียต่อไปเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเท็นเนโก