เอเชียน วอลล์สตรีต เจอร์นัล – มาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศของจีนออกฤทธิ์แล้ว ชาวบ้านเชื่อมือรัฐบาล ออกมาจับจ่ายมากขึ้น ฉุดยอดจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคกระเตื้องทันตาเห็น ขณะที่คนในชนบทพากันออกรถใหม่ ไม่ยั่นเศรษฐกิจซบเซา ทำให้ยอดขายรถยนต์พลิกฟื้นเกินคาด
ตัวเลขการจับจ่ายของผู้บริโภคแดนมังกรดีดตัวขึ้น แตกต่างจากสหรัฐฯ และยุโรปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจช่วยให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินโลกได้เร็วขึ้น โดยเศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตมาอยู่ที่ร้อยละ 6.1 ในไตรมาสแรกปีนี้ แต่ยอดการขายปลีกในช่วงเดียวกันกลับพุ่งถึงร้อยละ15.9 แม้ลดลงจากร้อยละ 17.7 ในไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว แต่ก็เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ หากดูจากการว่างงาน ที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องในประเทศ
นายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า ระบุว่า การบริโภคขยายตัวรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาคกลางและตะวันตก ซึ่งมีความเจริญน้อยกว่าภาคอื่น พร้อมกับย้ำว่า “ความมั่นใจมีความสำคัญยิ่งกว่าเงินทอง” และการจับจ่ายของผู้บริโภคในระดับนี้แสดงว่าความพยายามของรัฐบาลในการปลุกขวัญประชาชนกำลังทำงานได้ผล
ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เป็นกลุ่ม ที่ได้รับประโยชน์มากเป็นพิเศษจากแนวโน้มที่สดใสดังกล่าว โดยยอดขายรถในจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 แตะสถิติใหม่ 1,110,000 คันในเดือนมีนาคม หลังจากตกฮวบฮาบช่วงฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว
ส่วนยอดขายของผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติได้แก่รถเมอร์ซีเดส-เบนซ์ของบริษัทเดมเลอร์, บริษัทออดี้ และเจเนอรัล มอร์เตอร์ ซึ่งลงทุนร่วมกับผู้ผลิตท้องถิ่นของจีน ผลิตรถบูอิก, เชอวี และคาดิลแล็ก ต่างพุ่งสูงสุดในเดือนมีนาคม
ผู้คนในจีน “ยังมีเงินซื้อรถเมอร์ซีเดสกันอยู่” นายอัลริช วอล์กเกอร์ ประธานและซีอีโอของเดมเลอร์ในฝ่ายปฏิบัติการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือระบุ โดยทางบริษัทคาดการณ์แนวโน้มตลาดแดนมังกรจะเติบโตต่อไป
ขณะเดียวกัน รถมินิแวนขนาดเล็ก หรือไมโครมินิแวน ซึ่งผลิตในจีน กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในท้องถิ่นชนบท อันเป็นผลมาจากรัฐบาลออกมาตรการให้เงินอุดหนุนแก่เกษตรกรในการซื้อรถคันใหม่ ทำให้รถอู่หลิง รถไมโครมินิแวน ซึ่งผลิตโดยบริษัทสาขาของเจเนอรัล มอเตอร์ ซึ่งปกติมีราคาถูกอยู่แล้ว คือคันละประมาณ 30,000-40,000 หยวน (4,400-5,500 ดอลลาร์) ยิ่งน่าสนใจ
บริษัทให้บริการและจำหน่ายรถยนต์หลิงทง ชิงซัน สามารถขายรถ
อู่หลิงในเมืองต้าโจว, มณฑลเสฉวน ได้ถึง 318 คันในไตรมาสแรกปีนี้ จากยอดขายปีที่แล้วตลอดทั้งปีจำนวน 347 คัน
จีนยังเป็นตลาดที่สดใส แม้แต่กับบริษัท ที่ยังไม่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ตาม โดยพร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ระบุว่า ยอดขายของบริษัทในจีนยังเติบโต ทว่าด้วยอัตราชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 6 ปี อย่างไรก็ตาม ยอดขายในตลาดอื่น ๆ นั้น มีแต่หดลง ด้านหลุยส์
วิตตองกล่าวว่า ยอดขายยังคงทรงตัวสม่ำเสมอในปีที่แล้ว เทียบกับรายได้จากการขาย ที่ตกลงร้อยละ 4 และร้อยละ 5 ในสหรัฐฯ และญี่ปุ่นตามลำดับ ขณะที่เมโทร เอจี ผู้ค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป รายงานยอดขยายสินค้าในจีน พุ่งขึ้นร้อยละ 15 แตะ 1,100 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
จากผลการศึกษา โดยบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ชี้ว่า ผู้บริโภคในจีนถึง 3 ใน 4 มีแผนคงระดับการใช้จ่าย หรือเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้นในปีหน้า อันเป็นจำนวนผู้บริโภค ที่สูงกว่าในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเกือบ 2 เท่า
นอกจากนั้น ผู้บริโภคแดนมังกรยังวิตกกังวลเรื่องการเงินของตนน้อยกว่าอีกด้วย โดยมีเพียงร้อยละ 23 ที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะย่ำแย่ลงอีกในปีนี้ เทียบกับร้อยละ 32 ในสหรัฐฯ , ร้อยละ 49 ในยุโรป และร้อยละ57 ในญี่ปุ่น ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลมากขี้น และเศรษฐกิจจีนที่เติบโตมาตลอด 3 ทศวรรษ ทำให้คนรุ่นใหม่ในประเทศ ไม่มีความทรงจำที่เลวร้ายอยู่ในหัวเลย