รอยเตอร์ – “โฟล์กสวาเกน” ทำท่าจะแซง “โตโยต้า” ขึ้นเป็นผู้ขายรถยนต์ได้มากเป็นอันดับหนึ่งของโลกในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากตลาดหลัก ๆของโฟล์กยังมีอัตราเพิ่มของยอดขายอย่างน่าพอใจ ขณะที่โตโยต้านั้นทั้งในบ้านและต่างประเทศต่างก็ลดลงอย่างมาก ทั้งนี้ตามการบ่งชี้ของข้อมูลบางส่วนที่บริษัททั้งสองเปิดเผยออกมา
กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีอย่างโฟล์กสวาเกน บุกตลาดด้วยรถยนต์และรถบรรทุก 9 ยี่ห้อแตกต่างกันไป เช่น โฟล์ก, ออดี้, เซียต, สโกด้า และสแกเนีย อีกทั้งตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าเจนเนอรัลมอเตอร์ส(จีเอ็ม) และโตโยต้าภายในปี 2018 โดยที่แผนการนี้ตอนแรกๆ ทุกคนก็มองอย่างไม่ให้ราคาอะไรนัก
แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยิ่งดิ่งลงไปทุกขณะ รวมทั้งวิกฤตสินเชื่อที่ทำให้ความต้องการรถยนต์ของโตโยต้าในตลาดสำคัญๆ อย่างเช่นสหรัฐฯและญี่ปุ่นร่วงลง 38 และ 24% ตามลำดับ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ก็ทำให้ฝันของโฟล์กสวาเกนอาจเป็นจริงขึ้นมาเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ
โฟล์กนั้นได้รับผลดีจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่เป็นตลาดสำคัญของตน อย่างเช่น จีน เยอรมนี และบราซิล ตลาดใหญ่ๆ เหล่านี้ทางโฟล์กสามารถทำยอดขายรวมกันแล้วคิดเป็น 44% ของยอดขายทั่วโลกของทั้งกลุ่มในปีที่แล้ว ดังนั้นโฟล์กอาจจะไล่แซงโตโยต้าได้ทัน หรืออย่างน้อยก็เข้ามาหายใจรดต้นคอ
ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว โฟล์กยังคงห่างไกลกับโตโยต้ามากนัก โดยโฟล์กส่งมอบรถยนต์ทั้งสิ้น 1.57 ล้านคัน ซึ่งน้อยว่าโตโยต้าถึง 30% เลยทีเดียว ทั้งนี้ ยอดขายของโตโยต้าซึ่งรวมกับบริษัทรถเล็กและรถบรรทุกในเครืออย่าง ไดฮัตสุ มอเตอร์ และ ฮิโน มอเตอร์ แล้ว ทำได้ 2.41 ล้านคัน
เวลาโตโยต้ายังไม่ได้เปิดเผยคาดการณ์ยอดขายปลีกของตนเองออกมา แต่ในประมาณการณ์ล่าสุดนั้นได้ระบุว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาสแรกนั้นอยู่ที่ 1.23 ล้านคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 47%
ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แบรนด์หลักของโตโยต้าทำยอดขายในสหรัฐฯทรุดลง 36% ส่วนในญี่ปุ่นก็ดิ่งไป 31% ซึ่งสองตลาดนี้คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายโตโยต้าทั้งโลก
ก่อนหน้านี้โฟล์กออกมาคาดว่า ยอดขายรถยนต์ของตนเองทั่วโลกปี 2009 จะตกลงไป 10% แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างไม่คาดฝันในเยอรมนีและจีน ซึ่งน่าจะช่วยเปลี่ยนโชคชะตาให้กับโฟล์ก
“โฟล์กสวาเกนเป็นคู่แข่งรายสำคัญของโตโยต้า” โคจิ เอ็นโด นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์แห่งเครดีต์ สวิสในโตเกียวกล่าว “ออดี้นั้นแข็งแกร่ง โฟล์กสวาเกนก็เช่นกัน แล้วพวกเขายังกำลังทำได้ดีในการใช้พวกรถยนต์ขนาดเล็กๆ ของพวกเขา”
ในสัปดาห์หน้า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายจะประกาศผลประกอบการในไตรมาสแรก ซึ่งก็จะได้เห็นกันชัดเจนว่าใครอยู่ในสถานะไหน
เห็นกันว่าอันดับในอุตสาหกรรมรถยนต์ สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างง่ายดายในไตรมาสต่อๆ ไปหลังจากนี้
โตโยต้านั้นกำลังหวังพึ่งรถยนต์ไฮบริด “พริอุส” ที่รุ่นเจนเนชั่นสามจะออกสู่ตลาดในเดือนหน้า โดยคาดกันว่าจะกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้มาก เนื่องจากเวลานี้หลายประเทศต่างให้แรงจูงใจแก่ผู้บริโภคเพื่อซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โตโยต้านั้นวางแผนจะออกรถยนต์ถึง 16 รุ่นในยุโรปในปีนี้ อันเป็นการแก้เกมปีที่แล้วที่ยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่นไม่ค่อยได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆแก่ตลาดเลย
ส่วนโฟล์กมีแผนจะส่งเสริมการขายรถโฟล์ก กอล์ฟ ที่นำไปปรับรูปโฉมแล้ว โดยกอล์ฟนับเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ก็จะนำเอาโปโล รถเล็กระดับคอมแพ็กคาร์ยอดฮิตมาเปิดตัวอีกครั้งหนึ่ง
อันที่จริงเมื่อวัดกันเรื่องมูลค่าตามราคาในตลาดหลักทรัพย์ โฟล์กก็ขยับขึ้นมาอยู่อันดับสองรองจากโตโยต้าเรียบร้อยแล้ว โดยโฟล์กมีมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่โตโยต้าอยู่ที่ 133,000 ล้านดอลลาร์
บริษัทวิจัยตลาด อาร์.แอล. โพล์ก เยอรมนี ได้ทำนายเอาไว้ในเดือนนี้ว่า โฟล์กสวาเกนจะแซงหน้าจีเอ็มกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับสองของโลก เนื่องจากยักษ์ใหญ่สหรัฐฯกำลังย่ำแย่หนักจากความตกต่ำในตลาดสหรัฐฯเอง แถมยังหวั่นกลัวกันว่าจีเอ็มกำลังจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย
กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีอย่างโฟล์กสวาเกน บุกตลาดด้วยรถยนต์และรถบรรทุก 9 ยี่ห้อแตกต่างกันไป เช่น โฟล์ก, ออดี้, เซียต, สโกด้า และสแกเนีย อีกทั้งตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าเจนเนอรัลมอเตอร์ส(จีเอ็ม) และโตโยต้าภายในปี 2018 โดยที่แผนการนี้ตอนแรกๆ ทุกคนก็มองอย่างไม่ให้ราคาอะไรนัก
แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยิ่งดิ่งลงไปทุกขณะ รวมทั้งวิกฤตสินเชื่อที่ทำให้ความต้องการรถยนต์ของโตโยต้าในตลาดสำคัญๆ อย่างเช่นสหรัฐฯและญี่ปุ่นร่วงลง 38 และ 24% ตามลำดับ ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ก็ทำให้ฝันของโฟล์กสวาเกนอาจเป็นจริงขึ้นมาเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ
โฟล์กนั้นได้รับผลดีจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่เป็นตลาดสำคัญของตน อย่างเช่น จีน เยอรมนี และบราซิล ตลาดใหญ่ๆ เหล่านี้ทางโฟล์กสามารถทำยอดขายรวมกันแล้วคิดเป็น 44% ของยอดขายทั่วโลกของทั้งกลุ่มในปีที่แล้ว ดังนั้นโฟล์กอาจจะไล่แซงโตโยต้าได้ทัน หรืออย่างน้อยก็เข้ามาหายใจรดต้นคอ
ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว โฟล์กยังคงห่างไกลกับโตโยต้ามากนัก โดยโฟล์กส่งมอบรถยนต์ทั้งสิ้น 1.57 ล้านคัน ซึ่งน้อยว่าโตโยต้าถึง 30% เลยทีเดียว ทั้งนี้ ยอดขายของโตโยต้าซึ่งรวมกับบริษัทรถเล็กและรถบรรทุกในเครืออย่าง ไดฮัตสุ มอเตอร์ และ ฮิโน มอเตอร์ แล้ว ทำได้ 2.41 ล้านคัน
เวลาโตโยต้ายังไม่ได้เปิดเผยคาดการณ์ยอดขายปลีกของตนเองออกมา แต่ในประมาณการณ์ล่าสุดนั้นได้ระบุว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาสแรกนั้นอยู่ที่ 1.23 ล้านคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 47%
ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แบรนด์หลักของโตโยต้าทำยอดขายในสหรัฐฯทรุดลง 36% ส่วนในญี่ปุ่นก็ดิ่งไป 31% ซึ่งสองตลาดนี้คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายโตโยต้าทั้งโลก
ก่อนหน้านี้โฟล์กออกมาคาดว่า ยอดขายรถยนต์ของตนเองทั่วโลกปี 2009 จะตกลงไป 10% แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างไม่คาดฝันในเยอรมนีและจีน ซึ่งน่าจะช่วยเปลี่ยนโชคชะตาให้กับโฟล์ก
“โฟล์กสวาเกนเป็นคู่แข่งรายสำคัญของโตโยต้า” โคจิ เอ็นโด นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์แห่งเครดีต์ สวิสในโตเกียวกล่าว “ออดี้นั้นแข็งแกร่ง โฟล์กสวาเกนก็เช่นกัน แล้วพวกเขายังกำลังทำได้ดีในการใช้พวกรถยนต์ขนาดเล็กๆ ของพวกเขา”
ในสัปดาห์หน้า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายจะประกาศผลประกอบการในไตรมาสแรก ซึ่งก็จะได้เห็นกันชัดเจนว่าใครอยู่ในสถานะไหน
เห็นกันว่าอันดับในอุตสาหกรรมรถยนต์ สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างง่ายดายในไตรมาสต่อๆ ไปหลังจากนี้
โตโยต้านั้นกำลังหวังพึ่งรถยนต์ไฮบริด “พริอุส” ที่รุ่นเจนเนชั่นสามจะออกสู่ตลาดในเดือนหน้า โดยคาดกันว่าจะกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้มาก เนื่องจากเวลานี้หลายประเทศต่างให้แรงจูงใจแก่ผู้บริโภคเพื่อซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โตโยต้านั้นวางแผนจะออกรถยนต์ถึง 16 รุ่นในยุโรปในปีนี้ อันเป็นการแก้เกมปีที่แล้วที่ยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่นไม่ค่อยได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆแก่ตลาดเลย
ส่วนโฟล์กมีแผนจะส่งเสริมการขายรถโฟล์ก กอล์ฟ ที่นำไปปรับรูปโฉมแล้ว โดยกอล์ฟนับเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ก็จะนำเอาโปโล รถเล็กระดับคอมแพ็กคาร์ยอดฮิตมาเปิดตัวอีกครั้งหนึ่ง
อันที่จริงเมื่อวัดกันเรื่องมูลค่าตามราคาในตลาดหลักทรัพย์ โฟล์กก็ขยับขึ้นมาอยู่อันดับสองรองจากโตโยต้าเรียบร้อยแล้ว โดยโฟล์กมีมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่โตโยต้าอยู่ที่ 133,000 ล้านดอลลาร์
บริษัทวิจัยตลาด อาร์.แอล. โพล์ก เยอรมนี ได้ทำนายเอาไว้ในเดือนนี้ว่า โฟล์กสวาเกนจะแซงหน้าจีเอ็มกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับสองของโลก เนื่องจากยักษ์ใหญ่สหรัฐฯกำลังย่ำแย่หนักจากความตกต่ำในตลาดสหรัฐฯเอง แถมยังหวั่นกลัวกันว่าจีเอ็มกำลังจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย
